ทำไมการเข้าเกาหลีถึงยากนัก ว่าด้วยผีน้อย และบาดแผลจากสงคราม

2 มกราคม 2567 - 07:00

why-its-hard-for-thai-to-enter-south-korea-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีมาตรการการนำคนเข้าประเทศเข้มงวดเป็นทุนเดิม โดยมีผลพวงมาจากบาดแผลสงครามมานับต่อนับที่ทำให้พวกเขาเป็นประเทศชาตินิยม

  • หนึ่งในปัญหาใหญ่ๆ ที่พลาดไม่ได้คือเรื่องคนทำงานผิดกฎหมาย หรือ ‘ผีน้อย’ ที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไข

ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ผ่านมาคงเป็นเหมือนช่วงเวลาสวรรค์ที่ทุกคนได้ไปท่องเที่ยวผ่อนคลายให้หายเหนื่อยจากการทำงานตลอดทั้งปี แต่สำหรับบางคน นี่อาจกลายเป็นช่วงเวลาแสนเศร้าที่ทำให้เหนื่อยหนักกว่าเดิม เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ปัญหาการเข้าประเทศเกาหลีใต้ของผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทยยังคงไม่หายไป และไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังสักที

จากเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ ทั้งจากเรื่องเล่าบนโต๊ะอาหาร จากโซเชียลฯ แต่ละคนล้วนมีประสบการณ์ต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองทำนองเดียวกัน และไม่ใช่เพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แม้แต่นักแสดงชื่อดังของประเทศไทยอย่าง นุ่น วรนุช หรือ ศิลปินแร็ปเปอร์ ผู้ให้กำเนิด Soft Power ของประเทศไทยอย่าง MILLI หรือ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล ก็ยังเคยประสบเหตุการณ์การโดนกีดกั้นห้ามเข้าประเทศ แม้จะมีหลักฐานเป็นรายชื่อสำหรับขึ้นแสดงในงานเทศกาลอย่างชัดเจนในปี 2022 ที่ผ่านมาก็ตาม 

เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกเป็นกังวลและเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า “หรือนี่จะเป็นความไม่น่าเชื่อถือที่มีต่อพาสปอร์ตไทย” ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ประเทศเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายควบคุมการเข้าประเทศเข้มงวดพอๆ กับประเทศญี่ปุ่นในช่วงหนึ่ง โดยคาดว่าสองประเทศนี้มีแนวโน้มในการเป็นประเทศชาตินิยมสูงจากประวัติศาสตร์สงครามที่ถูกกดขี่มา อย่างกรณีประเทศเกาหลีใต้นั้นเคยถูกรุกรานมานักต่อนัก ตั้งแต่มองโกลเข้ายึดครองไปจนถึงการรุกรานของชาวญี่ปุ่นสองครั้งใหญ่ๆ คือ ค.ศ. 1592 นำโดย โตโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) และช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1910 ที่ถูกผนวกเข้าไปอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ซึ่งจักรวรรดิญี่ปุ่น (ระบบปกครองญี่ปุ่นในขณะนั้น) ใช้กลยุทธ์ทางการเมืองเกือบทุกอย่างเพื่อลบอัตลักษณ์เกาหลี ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสถานที่สำคัญ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยสั่งห้ามใช้ภาษาเกาหลี ภาพยนตร์ถูกบังคับให้นำเสนอเป็นภาษาญี่ปุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะถูกยึดครอง การสอนประวัติศาสตร์โดยใช้หนังสือเรียนที่ไม่ได้รับอนุญาตกลายเป็นอาชญากรรม และทางการญี่ปุ่นได้เผาเอกสารทางประวัติศาสตร์ของเกาหลีมากกว่า 200,000 เล่ม

นี่ยังไม่นับการเป็นเชลยศึกสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจากการยึดครองของสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต การถูกกดขี่ของเกาหลีถูกก่อร่างสร้างแนวคิดชาตินิยมให้กับประเทศ และสร้างทัศนคติมุมมองต่อนานาชาติต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประเทศไทย โดยมีประเด็นสำคัญอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือเรื่องการเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย หรือที่เข้าใจกันในชื่อ ‘ผีน้อย’

อันที่จริงประเทศไทยกับประเทศเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์อันดีมานานแล้ว อย่างในช่วงยุคสงครามเกาหลี (ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้) ชาวเกาหลีใต้ได้ชาวไทยไปช่วยรบ ซึ่งนับว่าเป็นคุณความดีที่ชาวเกาหลีไม่เคยลืมไทยในเรื่องนี้ แถมประเทศไทยยังเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเป็นเวลา 90 วัน (และยังไม่คิดจะยกเลิก) แต่คุณงามความดีที่เคยทำมานี้ก็ยังกลบเรื่อง ‘ผีน้อย’ ไม่อยู่ โดยถึงขณะนี้มีคนไทยอาศัยอยู่ในเกาหลีอย่างผิดกฎหมายถึง 150,000 กว่าคน และนับวันก็เริ่มมีวิธีการในการเอาตัวรอดจากด่านตรวจคนเข้าเมือง และเงื้อมมือเจ้าหน้าที่เกาหลีในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ 

ณ เวลานี้ประเทศไทยยังไม่มีมาตรการอะไรในการรับมือกับปัญหาผีน้อย หรือคนทำงานผิดกฎหมายที่ย้ายเข้าไปอยู่ในเกาหลีใต้ ซึ่งเข้าใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้ให้เหตุผลว่า “การทำงานที่เกาหลีมีรายได้ดีส่งมอบให้ครอบครัวในไทยได้มากกว่า” (จากข้อมูลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่เป็นคนทำงานผิดกฎหมาย) อาจเป็นคำถามย้อนกลับให้กับประเทศไทยว่า คุณภาพชีวิตในไทยตกต่ำถึงขั้นที่ชาวไทยต้องจากครอบครัวไปทำงานที่ต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายกันแล้วหรือ? และตราบใดที่ปัญหานี้ยังไม่ถูกแก้ไขไม่ว่าจะเป็นปัจจัยใด เกาหลีก็ยังคงเข้มงวดในการที่ชาวไทยจะเดินทางเข้าประเทศไม่ว่าจะเป็นเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตาม

ประเด็นปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจึงชวนให้ทบทวนว่า “เกาหลีใต้ยังใช่จุดหมายในใจของคนไทยอยู่หรือไม่?”

ใครที่เคยประสบปัญหาในการเดินทางเข้าเกาหลีใต้ มาแชร์ประสบการณ์กัน!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์