“เฮ้ เฮ เฮ้ เห่ เฮ เฮ้” ขบวนเรือพระที่นั่ง เห่ทำไม เห่มาจากไหน ทำไมต้องเห่

24 ต.ค. 2567 - 06:11

  • การเห่เกิดขึ้น เมื่อเวลาคนมากทำสิ่งใด มักใช้ศัพท์สัญญาณ ‘บอกจังหวะ’ เพื่อให้พร้อมเพรียงกัน

why_sing_the_royal_barge_poem_SPACEBAR_Hero_6fc4c009dd.jpg

ในโอกาสพิเศษที่จะมีพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในวันอาทิตย์นี้ (27 ตุลาคม) หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมการพายเรือพระที่นั่งต้องมีการ “เห่เรือ” ทำไมไม่ให้จังหวะ แล้วพายเรือไปเฉยๆ หรือถ้าอยากให้ครึกครื้นทำไมไม่เปิดเพลงแล้วพายเรือ

why_sing_the_royal_barge_poem_SPACEBAR_Photo01_ead1e62734.jpg

เหตุผลที่ขบวนเรือพระที่นั่งต้อง “เห่” นั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ‘พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีไทย’ อธิบายไว้ว่า การเห่เกิดขึ้นเมื่อเวลาคนมากทำการอันใดที่จะต้องออกแรงในขณะเดียวกัน มักใช้ศัพท์สัญญาณอย่างหนึ่งอย่างใดสำหรับ ‘บอกจังหวะ’ ให้ทำพร้อมๆ กัน

ทั้งนี้ การเห่มี 2 โอกาส คือ เห่ในพระราชพิธี อย่างเห่เรือพระที่นั่ง กับเห่สำหรับเล่นเรือของคนธรรมดาชาวบ้าน

การเห่เรือไม่ได้มีแต่ในวัฒนธรรมไทย อินเดียก็มีการบอกจังหวะเช่นกัน

why_sing_the_royal_barge_poem_SPACEBAR_Photo02_5f46cd6483.jpg

ในอินเดียคำขึ้นต้นการเห่ คือ “โอมรามะ” น่าจะเป็นการแสดงความเคารพเทพเจ้า ‘รามะ’ หรือ ‘ราม’ คือพระนารายณ์ในแบบไทย

ตำราเห่เรือ มีคำว่า “สวะเท่” "ซาลวะเห่" และ "มูลเห่" จึงเป็นไปได้ว่าเราเอาการเห่เรือ มาจากอินเดีย

สิ่งสำคัญที่มากับการเห่ คือการแต่งกลอนประกอบการเห่ เป็นกาพย์หรือโคลงกลอนที่เรียกว่า “บทเห่เรือ” เพื่อให้เกิดความไพเราะ เนื้อหาอธิบายความงามของเรือพระที่นั่ง เรือในขบวนเรือ หรือบางครั้งก็มีเนื้อหาไม่เกี่ยวกับเรือเลย

why_sing_the_royal_barge_poem_SPACEBAR_Photo03_8d233248a0.jpg

เช่น บทเห่ชมเครื่องคาวหวานของรัชกาลที่ 2 ที่บรรยายถึงอาหารและความงาม ไม่ว่าจะเป็นบทเห่แบบไหน ในการบทกลอนที่ขับร้อง แฝงไว้ด้วยการให้สัญญาณของขบวนเรือ บอกถึงการออกเรือ การพาย การนำเรือพระที่นั่งเข้าเทียบ

นอกจากเห่ อีกสิ่งหนึ่งที่ให้จังหวะ คือ การกระทุ้งเส้า (เอาไม้เส้ากระทุ้งเพื่อให้จังหวะฝีพาย) แทนการเห่

ถึงตรงนี้ คงพอได้คำตอบใช่ไหมว่า “เห่…ไปทำไม” “เห่…มาจากไหน” และ “ทำไม…ต้องเห่”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์