หากพูดถึงการ์ตูนเรื่องโปรดในวัยเด็กของใครหลายคน คงหนีไม่พ้นชื่อของ ‘WINNIE THE POOH’ หมีสีเหลืองผู้หลงใหลน้ำผึ้งเป็นชีวิตจิตใจจากป่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ พร้อมผองเพื่อนที่น่ารักอย่าง คริสโตเฟอร์ โรบิน พิกเล็ต อียอร์ ทิกเกอร์ และอีกมากมาย อาจเด้งเข้ามาในหัวเป็นชื่อแรกๆ
ล่าสุด หลังลิขสิทธิ์ของ วินนี่ เดอะ พูห์ ที่เขียนโดย A. A. Milne และนักวาดภาพประกอบ E. H. Shepard เพิ่งหมดอายุลงในปี ค.ศ. 2021 ‘ริส เฟรค วอเตอร์ฟิลด์’ (Rhys Frake-Waterfield) ผู้กำกับหนังสยองขวัญเกรดบีทุนต่ำ ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ อ้างอิงจากหนังเรื่องก่อนๆ เช่น Dinosaur Hotel, Firenado ซึ่งจากปีที่แล้วเขานั้นก็ทำไปหนังถึง 14 เรื่อง! ในฐานะผู้กำกับบ้าง โปรดิวเซอร์บ้าง ซึ่งแม้ผลงานของเขาจะไม่ได้ประสบความสำเร็จและคะแนนวิจารณ์อาจจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่เรียกได้ว่าไอเดียของเขานั้นเป็นที่น่าจับตาเอามองมากๆ และสำหรับปีนี้เขาได้หยิบหมีพูห์เพื่อนซี้ในวัยเด็กของใครหลายคน มาทำเป็นหนัง ‘สยองขวัญ’ อีกด้วย
ล่าสุด หลังลิขสิทธิ์ของ วินนี่ เดอะ พูห์ ที่เขียนโดย A. A. Milne และนักวาดภาพประกอบ E. H. Shepard เพิ่งหมดอายุลงในปี ค.ศ. 2021 ‘ริส เฟรค วอเตอร์ฟิลด์’ (Rhys Frake-Waterfield) ผู้กำกับหนังสยองขวัญเกรดบีทุนต่ำ ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ อ้างอิงจากหนังเรื่องก่อนๆ เช่น Dinosaur Hotel, Firenado ซึ่งจากปีที่แล้วเขานั้นก็ทำไปหนังถึง 14 เรื่อง! ในฐานะผู้กำกับบ้าง โปรดิวเซอร์บ้าง ซึ่งแม้ผลงานของเขาจะไม่ได้ประสบความสำเร็จและคะแนนวิจารณ์อาจจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่เรียกได้ว่าไอเดียของเขานั้นเป็นที่น่าจับตาเอามองมากๆ และสำหรับปีนี้เขาได้หยิบหมีพูห์เพื่อนซี้ในวัยเด็กของใครหลายคน มาทำเป็นหนัง ‘สยองขวัญ’ อีกด้วย


เรื่องย่อ:
‘WINNIE THE POOH: BLOOD AND HONEY’ เป็นเรื่องราวของ หนูน้อย คริสโตเฟอร์ โรบิน เพื่อนรักของหมีพูห์และพิกเล็ต ที่ทอดทิ้งให้ทั้งคู่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในป่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ ก่อนจะกลับมาอีกครั้งที่บ้านเกิดของตัวเองพร้อมพาแฟนสาวมาด้วย แต่แล้วหมีพูห์กับพิกเล็ตผู้หิวโหย กลับกลายเป็นสัตว์ดุร้ายน่ากลัว ออกอาละวาดตาม ล่า ฆ่า ทรมาน ทุกคน นอกจากนี้ยังมีตัวละครอื่นอีกมากมายที่ต้องมาต่อกรกับสองคู่หู่คู่ฆาตรกรนี้อีกด้วย เรียกได้ว่านี่มันสูตรหนังสยองขวัญชัดๆ แถมงานนี้ยังได้ทีมงานพันธมิตรมาให้เสียงพากษ์ภาษาไทยอีกด้วย ที่จะสยองหรือฮามากกว่ากันก็ต้องไปตีตั๋วไปดูกันในโรงภาพยนตร์บ้านเราวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้!โดยทางผู้กำกับได้เปิดเผยว่า เรฟเฟอร์เรนส์ของการสร้างภาพยนตร์หมีเหลืองแสนหลอนนี้มาจาก HALLOWEEN, TAXAS CHAINSAW MASSACRE, WRONG TURN และทุนที่ใช้สร้าง WINNIE THE POOH: BLOOD AND HONEY นั้นน้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่สามารถเปิดตัวไปแล้วในต่างประเทศด้วยยอดบ็อกซ์ออฟฟิซมากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าฉายในทุกพื้นที่