เกิดเป็นคนไทยอะไรๆก็ดีหมด ยกเว้น อย่าเกิดมา ‘จน’ เพราะนอกจากจะหวังพึ่งอะไรรัฐบาลไม่ค่อยจะได้แล้ว หนำซ้ำรัฐบาลยังขยันครีเอท ‘คอนเทนต์’ สร้าง ‘ดราม่า’ ใหม่ๆออกมาให้เราต้องก่นด่าด้วยความคับแค้น ตอกย้ำบาดแผลแห่งความเหลื่อมล้ำ จนเกิดอาการเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ได้เกือบทุกวัน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ‘ดราม่า’ เรื่องเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ ก็โผล่มาสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับคนใช้บริการจนถูกก่นด่ากันไปทั้งเมือง และเป็นอีกตัวอย่างของวิธีการจัดการบริหารแบบ ‘ด้อยปัญญา’ ของกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก ซึ่งทำตัวเป็น ‘คุณพ่อรู้ดี’ จัดแจงเปลี่ยนเส้นทางและเลขสายการเดินรถเมล์ทั้งกรุงเทพฯใหม่หมด ชนิด ‘โนสน โนแคร์’ ไม่ยอมฟังเสียงค้านจากทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ขสมก. ที่เป็นผู้เดินรถ และคนโหนรถเมล์ มนุษย์เดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆ แม้แต่น้อย
บนเพจรถเมล์ไทยที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาเป็นปากเสียงคนใช้บริการรถเมล์ ผลปรากฏว่ามีทัวร์มาลงจอดกันถล่มทลาย หลังจากเปิด ‘วอร์’ ให้ผู้ใช้บริการรถเมล์ไทยที่อดรนทนไม่ไหวเข้ามาแสดงความเห็นกัน แต่ก็ยังคงไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสาย คือ กรมการขนส่งทางบก
แม้แต่ล่าสุด ถึงจะมีโพลของนิด้าออกมายืนยันว่า 63.98% ของผู้โดยสารเขาอยากให้ใช้เลขสายรถเมล์แบบเดิม
ดูเหมือนปัญหานี้จะยังไม่ผ่านสายตา และเสียงยังไม่ถึงหูของคนระดับเสนาบดี อย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้ากระทรวงคมนาคม และ ‘น้องเดือน’ มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ซึ่งยังคงจะฝืนเดินหน้า ‘ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง’ และคงจะปล่อยให้ผู้โดยยืนงงๆกันตามป้ายรถเมล์กันตั้งแต่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้เป็นต้นไป
ต้องยอมรับว่าคนใช้รถเมล์ทุกวันนี้น่าเวทนาจนแทบจะเกินขีดความสามารถของมนุษย์เดินดิน เพราะต้องมีความอดทนเหนือขีดจำกัด แต่ก็จำยอมไม่มีทางเลือกเพราะความจน ถึงขนาดมีคำตัดพ้อกันในเพจรถเมล์ไทยว่า
ทุกวันนี้ประชาชนคนไทยก็ต้อง ‘ประสาทแ_ก’ กับงานมาหนักพอแล้ว ยังต้องมา ‘ประสาทแ_ก’ กับ.เรื่องแบบนี้อีกหรือ?
ความจริงก่อนหน้าดราม่าเรื่องปรับเลขสายรถเมล์ ก็เกิดเรื่องประหลาดๆ ที่จู่ๆรถเมล์เอ็นจีวี สีฟ้า Bonluck ก็เริ่มทยอยหายไปจากท้องถนนโดยไร้ร่องรอยมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ยังไม่จัดการเคลียร์ปัญหาให้จบ แต่ใช้วิธีการ ‘ลูบหน้าปะจมูก’ โดยเขตการเดินรถต่างๆ ของ ขสมก. ได้มีการสลับสับเปลี่ยนรถโดยสารประจำทาง โดยนำรถโดยสารธรรมดา (ครีมแดง) และรถปรับอากาศยูโรทู สีส้ม มาให้บริการในบางเส้นทาง แทนรถโดยสารปรับอากาศสีฟ้า (NGV) แก้ขัดไปก่อน
ปัญหากรณีรถเมล์ปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ เอ็นจีวี 489คัน เป็นอีกหนึ่งมหากาพย์แห่งวงการรถเมล์ไทย ที่มีมาต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ตอนเปิดประมูลครั้งแรกในปี 2559 ที่ ขสมก.ไม่ยอมรับมอบรถจากบริษัทเบสเทิร์น กรุ๊ป เนื่องจากถูกคู่แข่ง คือ บริษัท ช ทวี ร้องเรียน ว่ามีการสวมรอยนำเข้ามาจากจีน ทั้งๆที่ควรจะต้องประกอบมาจากมาเลเซียเพื่อได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า จนต้องล้มประมูลไป
ผลการประมูลใหม่ SCN-Cho ของกลุ่มบริษัท ช ทวี ที่ร่วมกันเสนอโครงการร่วมกับบริษัทแสกนอินเตอร์ฯได้สัญญา
ภายใต้สัญญาซื้อขายและจ้างซ่องแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ ในราคาคันละ 3.86 ล้านบาท จำนวน 489 คัน รวมมูลค่า 1,891.452 ล้านบาท ภายใต้การรับประกัน 5 ปีแรก และ ขสมก.จะจ่ายค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา ในช่วง 5 ปีแรก ในอัตราคันละ 525 บาทต่อวัน และ ในปี 6-10 ในอัตราคันละ 1,730 บาทต่อวัน
แต่หลังจากผ่าน 5 ปีแรก มาได้ไม่นาน ก็เริ่มมีปัญหาซึ่งมาจาก ขสมก. เองที่ติดค้างค่าใช้จ่ายรับเหมาในการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถจาก ขสมก.ตามสัญญา โดยมีการติดค้างค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านบาท มาเป็นระยะเวลานานถึง 8 เดือน รวมเกือบ100 ล้านบาท ส่งผลให้ ช ทวี มีเงินค้างจ่ายกับ บริษัทรับเหมาช่วงในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา จนมีการประท้วงหยุดให้บริการไป
แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่กลับมีข่าวว่า ขสมก. เตรียมเรียก ช ทวี มาพูดคุยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อบอกเลิกสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วน เพราะเหตุไม่ปฎิบัติตามสัญญาจนทำให้ประชาชนเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีรถเพียงพอ เพราะรถจอดเสียหรือจอดจำนวนมาก ทำให้บางเส้นทางรถหายไปจากระบบเกินครึ่งหนึ่งของเส้นทางเดินรถ
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เคยยื่นหนังสือเรียกร้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการเหมาซ่อม บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) โดยเห็นสมควรให้ ขสมก.ทบทวนยกเลิกสัญญากับบริษัท ช ทวี และเร่งรัดจัดหาบริษัทใหม่เพื่อซ่อมบำรุงรถโดยสารปรับอากาศสีฟ้า (BONLUCK) เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ ขสมก.
สำหรับกลุ่ม ช ทวี เป็นธุรกิจของกลุ่มครอบครัวทวีแสงสกุลไทย (หรือกลุ่ม ช ทวี) โดย ชอ ทวีแสงสกุลไทย และอุษา ทวีแสงสกุลไทย เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจรถขนส่งในจังหวัดขอนแก่น และเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกตั้งแต่ปี 2511 ต่อมาได้ ขยายธุรกิจไปยังการผลิต และต่อตัวถังรถบัสในปี 2523 ได้ขยายการผลิต และต่อตัวถังรถพ่วง-กึ่งพ่วง และรถขนส่งประเภทต่างๆ
ผู้โดยสารโปรดทราบ คงต้องขอเวลาอีกนาน และไม่รู้ว่ากี่โมง? รถเมล์สีฟ้า จะกลับมาให้บริการได้ใหม่อีกครั้ง แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น ระหว่างนี้ ขอได้โปรดทานยาแก้ โรคซึมเศร้าไปพลางก่อนก็แล้วกัน...