ปัญหาไม่รู้จบรถเมล์ไทย เปลี่ยนเลขสาย-ไม่มีรถวิ่ง

12 ก.พ. 2567 - 10:08

  • การเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ประจำทาง ยังทำให้คนใช้บริการสับสน

  • คำถามชัดๆ เปลี่ยนเพื่ออะไร และต้องมาท่องเลขสายกันใหม่

  • ส่วนรถเมล์ NGV ก็มีปัญหา ไม่มีรถวิ่ง เพราะ ขสมก. ค้างจ่ายค่าซ่อมบำรุง

DEEP-SPACE-Bangkok-Bus-SPACEBAR-Hero.jpg

เกิดเป็นคนไทยอะไรๆก็ดีหมด ยกเว้น อย่าเกิดมา ‘จน’ เพราะนอกจากจะหวังพึ่งอะไรรัฐบาลไม่ค่อยจะได้แล้ว หนำซ้ำรัฐบาลยังขยันครีเอท ‘คอนเทนต์’ สร้าง ‘ดราม่า’ ใหม่ๆออกมาให้เราต้องก่นด่าด้วยความคับแค้น ตอกย้ำบาดแผลแห่งความเหลื่อมล้ำ จนเกิดอาการเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ได้เกือบทุกวัน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ‘ดราม่า’ เรื่องเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ ก็โผล่มาสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับคนใช้บริการจนถูกก่นด่ากันไปทั้งเมือง และเป็นอีกตัวอย่างของวิธีการจัดการบริหารแบบ ‘ด้อยปัญญา’ ของกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก ซึ่งทำตัวเป็น ‘คุณพ่อรู้ดี’ จัดแจงเปลี่ยนเส้นทางและเลขสายการเดินรถเมล์ทั้งกรุงเทพฯใหม่หมด ชนิด ‘โนสน โนแคร์’ ไม่ยอมฟังเสียงค้านจากทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ   ขสมก. ที่เป็นผู้เดินรถ และคนโหนรถเมล์ มนุษย์เดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆ แม้แต่น้อย

บนเพจรถเมล์ไทยที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาเป็นปากเสียงคนใช้บริการรถเมล์ ผลปรากฏว่ามีทัวร์มาลงจอดกันถล่มทลาย หลังจากเปิด ‘วอร์’ ให้ผู้ใช้บริการรถเมล์ไทยที่อดรนทนไม่ไหวเข้ามาแสดงความเห็นกัน แต่ก็ยังคงไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสาย คือ กรมการขนส่งทางบก

แม้แต่ล่าสุด ถึงจะมีโพลของนิด้าออกมายืนยันว่า  63.98% ของผู้โดยสารเขาอยากให้ใช้เลขสายรถเมล์แบบเดิม

ดูเหมือนปัญหานี้จะยังไม่ผ่านสายตา และเสียงยังไม่ถึงหูของคนระดับเสนาบดี อย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้ากระทรวงคมนาคม และ ‘น้องเดือน’ มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ซึ่งยังคงจะฝืนเดินหน้า ‘ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง’ และคงจะปล่อยให้ผู้โดยยืนงงๆกันตามป้ายรถเมล์กันตั้งแต่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้เป็นต้นไป 

ต้องยอมรับว่าคนใช้รถเมล์ทุกวันนี้น่าเวทนาจนแทบจะเกินขีดความสามารถของมนุษย์เดินดิน เพราะต้องมีความอดทนเหนือขีดจำกัด แต่ก็จำยอมไม่มีทางเลือกเพราะความจน ถึงขนาดมีคำตัดพ้อกันในเพจรถเมล์ไทยว่า 

ทุกวันนี้ประชาชนคนไทยก็ต้อง ‘ประสาทแ_ก’ กับงานมาหนักพอแล้ว ยังต้องมา ‘ประสาทแ_ก’ กับ.เรื่องแบบนี้อีกหรือ?

ความจริงก่อนหน้าดราม่าเรื่องปรับเลขสายรถเมล์ ก็เกิดเรื่องประหลาดๆ ที่จู่ๆรถเมล์เอ็นจีวี สีฟ้า Bonluck ก็เริ่มทยอยหายไปจากท้องถนนโดยไร้ร่องรอยมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ยังไม่จัดการเคลียร์ปัญหาให้จบ แต่ใช้วิธีการ ‘ลูบหน้าปะจมูก’  โดยเขตการเดินรถต่างๆ ของ ขสมก. ได้มีการสลับสับเปลี่ยนรถโดยสารประจำทาง โดยนำรถโดยสารธรรมดา (ครีมแดง) และรถปรับอากาศยูโรทู สีส้ม มาให้บริการในบางเส้นทาง แทนรถโดยสารปรับอากาศสีฟ้า (NGV) แก้ขัดไปก่อน 

ปัญหากรณีรถเมล์ปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ เอ็นจีวี 489คัน เป็นอีกหนึ่งมหากาพย์แห่งวงการรถเมล์ไทย ที่มีมาต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ตอนเปิดประมูลครั้งแรกในปี 2559  ที่ ขสมก.ไม่ยอมรับมอบรถจากบริษัทเบสเทิร์น กรุ๊ป เนื่องจากถูกคู่แข่ง คือ บริษัท ช ทวี ร้องเรียน ว่ามีการสวมรอยนำเข้ามาจากจีน ทั้งๆที่ควรจะต้องประกอบมาจากมาเลเซียเพื่อได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า จนต้องล้มประมูลไป

ผลการประมูลใหม่ SCN-Cho ของกลุ่มบริษัท ช ทวี ที่ร่วมกันเสนอโครงการร่วมกับบริษัทแสกนอินเตอร์ฯได้สัญญา 

ภายใต้สัญญาซื้อขายและจ้างซ่องแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ ในราคาคันละ 3.86 ล้านบาท  จำนวน 489 คัน รวมมูลค่า 1,891.452 ล้านบาท  ภายใต้การรับประกัน 5 ปีแรก และ ขสมก.จะจ่ายค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา ในช่วง 5 ปีแรก ในอัตราคันละ 525 บาทต่อวัน และ ในปี 6-10 ในอัตราคันละ 1,730 บาทต่อวัน

แต่หลังจากผ่าน 5 ปีแรก มาได้ไม่นาน ก็เริ่มมีปัญหาซึ่งมาจาก ขสมก. เองที่ติดค้างค่าใช้จ่ายรับเหมาในการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถจาก ขสมก.ตามสัญญา โดยมีการติดค้างค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านบาท มาเป็นระยะเวลานานถึง 8 เดือน รวมเกือบ100 ล้านบาท ส่งผลให้ ช ทวี มีเงินค้างจ่ายกับ บริษัทรับเหมาช่วงในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา จนมีการประท้วงหยุดให้บริการไป 

แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่กลับมีข่าวว่า ขสมก. เตรียมเรียก ช ทวี มาพูดคุยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อบอกเลิกสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วน เพราะเหตุไม่ปฎิบัติตามสัญญาจนทำให้ประชาชนเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีรถเพียงพอ เพราะรถจอดเสียหรือจอดจำนวนมาก ทำให้บางเส้นทางรถหายไปจากระบบเกินครึ่งหนึ่งของเส้นทางเดินรถ

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เคยยื่นหนังสือเรียกร้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการเหมาซ่อม บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) โดยเห็นสมควรให้ ขสมก.ทบทวนยกเลิกสัญญากับบริษัท ช ทวี และเร่งรัดจัดหาบริษัทใหม่เพื่อซ่อมบำรุงรถโดยสารปรับอากาศสีฟ้า (BONLUCK) เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ ขสมก. 

สำหรับกลุ่ม ช ทวี เป็นธุรกิจของกลุ่มครอบครัวทวีแสงสกุลไทย (หรือกลุ่ม ช ทวี) โดย ชอ ทวีแสงสกุลไทย และอุษา ทวีแสงสกุลไทย เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจรถขนส่งในจังหวัดขอนแก่น และเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกตั้งแต่ปี 2511 ต่อมาได้ ขยายธุรกิจไปยังการผลิต และต่อตัวถังรถบัสในปี 2523 ได้ขยายการผลิต และต่อตัวถังรถพ่วง-กึ่งพ่วง และรถขนส่งประเภทต่างๆ 

ผู้โดยสารโปรดทราบ คงต้องขอเวลาอีกนาน และไม่รู้ว่ากี่โมง? รถเมล์สีฟ้า จะกลับมาให้บริการได้ใหม่อีกครั้ง แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น ระหว่างนี้ ขอได้โปรดทานยาแก้ โรคซึมเศร้าไปพลางก่อนก็แล้วกัน...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์