คำสั่งนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ลงดาบย้ายคู่ขัดแย้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และลงนามตั้ง “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขึ้นมารักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พินิจพิศดูแล้วคล้ายเป็นการยุติความขัดแย้งที่ร้าวลึกระหว่างนายตำรวจสองกลุ่มในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่ดูลึกลงไปแล้ว เกจิอาจารย์ทางการเมืองแอบยิ้มกริ่มที่มุมปาก เพราะเป็นเกมที่ดูเหมือนเด็ดขาด เฉียบคมในการแก้ปัญหา แต่แฝงไปด้วยการเดินหมากกลที่แยบยล และลึกซึ้งกว่าเกมการวางหมาก และเกมการจัดการบริหารคน
ฝีมือเยี่ยงนี้ เกมเยี่ยงนี้ มีไม่กี่คนที่เดินเกมได้ เพราะการวางหมาก วางคนแต่ละจุด ก่อนตัดสินใจลงนาม ต้องมีผู้มากบารมีเรียกแต่ละคนมาเคลียร์ มาคุย มาตกลงกันก่อน
เรื่องหักด้ามพร้าด้วยเข่า สั่งก่อนเคลียร์ เกิดยากมากในประเทศนี้!
ส่วนใครจะเป็นผู้มากบารมี
ทำไมมาแก้ปัญหาในช่วงนี้
ทำไมก่อนนี้ไม่แก้
ปริศนาทั้งหมดนี้คงไม่ต้องเฉลย เพราะมองออกไม่น่ายากว่า งานนี้ฝีมือใคร และทำไมเพิ่งมาแก้เวลานี้ เวลาที่ใครบางคนเคลื่อนไหวได้อิสระมากขึ้น สั่งการได้มากขึ้น มีคนเข้าพบได้ง่ายขึ้น และมีสมาธิพอที่จะเดินเกมได้แยบยลขึ้น
ส่วน END Game จะเป็นเช่นไร นับจากนี้ต้องรอคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น ซึ่งจะเข้ามาสอบสวนรายละเอียดเพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 60 วัน
เป็น 60 วันที่นับจากนี้จะสิ้นสุดลงประมาณวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 หรือประมาณ 4 เดือนก่อนถึงวันสิ้นสุดอายุราชการของ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในวันที่ 30 กันยายน 2567
อันเป็นห้วงเวลา 4 เดือนสุดท้ายที่ “บิ๊กต่อ” น่าจะได้มีโอกาสกลับมาทำหน้าที่ ผบ.ตร.อีกครั้ง เพื่อจบชีวิตราชการในเครื่องแบบตำรวจอย่างสวยงาม และเพื่อส่งต่อไปยังภารกิจพิเศษได้อย่างราบรื่น
เพราะหากยังดำรงความขัดแย้งอยู่ใน สตช.ไปจนถึงเดือนกันยายน แน่นอนว่า เส้นทางในภารกิจพิเศษของ “บิ๊กต่อ” ก็อาจสะดุดและไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ
นอกจาก 4 เดือนของ “บิ๊กต่อ” ยังเป็นห้วงเวลา 2 เดือนเศษ สำหรับ “บิ๊กโจ๊ก” ที่หากสอบผ่านการสอบสวน ก็จะมีสิทธิ์กลับเข้าไลน์แคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่จะมีการพิจารณาและเสนอชื่อประมาณเดือนปลายเดือนสิงหาคม ต่อเนื่องต้นเดือนกันยายน
เพราะถึงวันนั้น หากผลการสอบสวนออกมาเป็นคุณ ก็จะทำให้มลทินและความมัวหมองของ “บิ๊ก โจ๊ก” หมดข้อกังขาลงทันที
เว้นแต่ผลการสอบสวนออกมาเป็นลบ (ซึ่งน่าจะยาก) ก็จะส่งผลให้บิ๊กโจ๊กหมดสิทธิ์ที่จะถูกเสนอชื่อขึ้นเป็นผบ.ตร.คนใหม่เช่นกัน
เกม 60 วัน ที่เรียกคู่ขัดแย้งมานั่งที่ทำเนียบ ซึ่งอยู่ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็น 60 วันที่ชื่นมื่นมากกว่าจะเป็น 60 วันที่ตึงเครียด
“บิ๊กต่อ” เองบอกว่า ก็จะได้พัก ส่วน “บิ๊กโจ๊ก“ก็บอกว่าคุ้นแล้ว เพราะมาบ่อย
ส่วนหลายๆ คดีที่เกี่ยวข้องกับลูกน้อง ก็น่าจะจบลงไม่ยาก เพราะหลักฐานที่ปรากฏตามหน้าสื่อ ยังไม่ถูกเปิดเผยว่า เป็นจริงในสำนวนหรือไม่
ท้ายที่สุด อาจจบลงที่สื่อคิดกันไปเอง เพราะเส้นเงินเหล่านั้น สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปได้ และไม่ได้มีต้นทางมาจากเว็บพนันอย่างที่ตั้งข้อสันนิษฐานแต่แรก
การพิจารณาในคดีประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเคลียร์ข้อเท็จจริงได้ ศาล อัยการ หรือพนักงานสอบสวนก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย ในหลักการปล่อยคนผิดร้อยคน ดีกว่าจับผิดคนแค่คนเดียว (ย้ำว่าแค่หลักการนะครับ ส่วนเรื่องจริงแล้วแต่จะเลือกใช้หลักการนี้กับใคร)
ห้วงเวลา 60 วัน ยังเป็นห้วงเวลาที่ไม่ได้สำคัญสำหรับ “บิ๊กต่อ” และ “บิ๊กโจ๊ก” เท่านั้น แต่ยังเป็นห้วงเวลาทองของ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ อีกด้วย
เพราะเป็น 60 วัน สำหรับ “บิ๊กต่าย” ที่จะพิสูจน์ตัวเอง ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ที่มีอำนาจเทียบเท่าผบ.ตร.
จาก “บิ๊กต่าย” นายตำรวจเงียบๆ ที่โปรไฟล์ไม่โดดเด่นนัก ชีวิตรับราชการส่วนใหญ่เติบโตมาในสายบริหาร อันเป็นสายบุ๋น ไม่ใช่สายบู๊เฉกเช่นแคนดิเดต ผบ.ตร.คนอื่นๆ
“บิ๊กต่าย” มีเวลา 60 วันที่จะโชว์กื๋นความเป็นนักบริหาร โชว์ความสามารถในการจัดการองค์กรตำรวจ ควบคู่ไปกับโชว์ความเด็ดขาดในคดีใหญ่ๆ และต้องแสดงความโดดเด่นที่พร้อมจะเป็นนักประสานสิบทิศ อันเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เข้าตารัฐบาลที่มาจากพรรคการเมือง
“บิ๊กต่าย” มีเวลา 60 วันที่จะทำให้ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการยุติความขัดแย้งครั้งนี้ เห็นว่า เขาคือ ตัวเลือกสำคัญ ที่พร้อมจะรับนโยบาย
ประการสำคัญ คือพร้อมรับหน้าที่ ‘หนังหน้าไฟ’ ที่จะขึ้นมาชะลอความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันเกิดมาจากการโตเร็วของบิ๊กโจ๊ก ด้วยการเป็น ผบ.ตร.คั่นให้ก่อน 2 ปี
เพราะ 2 ปีที่บิ๊กต่ายเป็นผบ.ตร. อย่างน้อยนายตำรวจตั้งแต่รุ่น ตท.27 จนถึง ตท.30 ก็ยังพอมีเวลาได้หายใจในตำแหน่งสำคัญๆ บ้าง
ส่วนอีก 2 ปีก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของบิ๊กโจ๊ก ตท.31 และ “บิ๊กราญ” พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ตท.34 ไปห้ำหั่นหรือไปตกลงกันเอง
ส่วนพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 3 ที่แอบหวังว่า จะมีลุ้นเข้าชิงตำแหน่งผบ.ตร.ในปีนี้ ดูแล้วน่าจะกลับไปริบหรี่เช่นเดิม
เกมการวางหมาก เกมการวางคนรอบนี้ จึงมิใช่แค่แยบยล ลึกซึ้ง เพราะยังแฝงไปด้วยรังสีอำมหิตแผ่คลุมไว้ด้วย
60 วันนับจากนี้ จึงต้องจับตาว่ารัศมี “บิ๊กต่าย” จะเรืองรองผ่องผุดขึ้นมาเพียงใด เพราะเกจิบางรายบอกว่า ยิ่งพินิจ ยิ่งพิจารณา กลับยังเห็น
รัศมี “บิ๊กโจ๊ก” ยิ่งเรืองรองกว่า
