เงินหมื่นดิจิทัล เลื่อนแล้วเลื่อนอีกโยนบาปให้ ป.ป.ช.

5 ก.พ. 2567 - 08:08

  • กลายเป็นการประสานเสียงของเพื่อไทย เพื่อหาทางออกแจกเงินดิติทัล 10,000 บาท

  • เหยื่อที่ถูกหยิบขึ้นมาเป็นคนรับผิดชอบคือ ป.ป.ช.

  • หน่วยงานที่บอกว่า นโยบายนี้สามารถทำได้ แต่อย่าทำสิ่งที่กฎหมายไม่อนุญาต

DEEP-SPACE-Digital-Money-SPACEBAR-Hero.jpg

ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คนในรัฐบาลพร้อมใจกันประสานเสียงปลุกผีแจกเงินหมื่น ดิจิทัล วอลเล็ตขึ้นบนหน้าสื่ออีกรอบ โดยเริ่มจาก ‘คู่รัก-ยม’ การเมือง ภูมิธรรม เวชยชัย เจ้าของฉายารองฯ กอง และหมอพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ต่างย้ำคำเดิมเรื่อง ‘วิกฤตเศรษฐกิจ’

ถึงขนาดยกวิกฤตต้มย้ำกุ้งในอดีตขึ้นมาขู่ว่า  หากวันนี้ไม่ทำอะไรที่ไปเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน วิกฤตต้มยำกุ้งปี2540 จะกลับมา 

‘หากเกิดวิกฤตขึ้นมาในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเหมือนต้มยำกุ้ง ต้องไม่ใช่แค่วิจารณ์ ถามหาความรับผิดชอบด้วย’

ส่วน หมอพรหมมินทร์ ยกเอาตัวเลขกระทรวงการคลังที่บอกว่า เศรษฐกิจปีถัดไปจะโตเพียง 1.8% พร้อมร่ายยาวมาเป็นชุด เศรษฐกิจโตต่ำ ลงทุนหด สภาพคล่องหายทั้งในตลาดเงิน ตลาดทุน หากปล่อยไว้จะเป็น ‘กบต้ม’ จำเป็นที่รัฐบาลต้องออกมาตรการแก้ไข ต้องออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท มาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

‘รัฐบาลยังเดินหน้านโยบายนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง...จะแจกให้เร็วที่สุด’

หมอมิ้งย้ำชัดๆ อีกครั้ง

ขณะที่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ก่อนขึ้นเครื่องไปศรีลังกา ตอบคำถามสื่อถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัล วอลเลต แบบจงใจฟาดแรงๆ ไปที่ ป.ป.ช.ว่า ต้องรอคำเสนอแนะจาก ป.ป.ช.ซึ่งก็รอมานานแล้ว คิดว่าต้องมีวิธีการอื่นรองรับ เพราะคำเสนอแนะยังไม่มาสักที พี่น้องประชาชนเขาคอยไม่ได้ 

และเมื่อถูกถามย้ำว่า ป.ป.ช.รอการดำเนินการที่ชัดเจนจากรัฐบาล และรัฐบาลก็รอข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช.จะทำให้ไทม์ไลน์ขยับไปมากหรือไม่ เศรษฐา ตั้งคำถามกลับว่า ไม่ค่อยแน่ใจ ป.ป.ช.รอรัฐบาลเรื่องอะไร จึงต้องขอสอบถามก่อนดีกว่า อย่าให้พูดไปโดยไม่มีข้อมูล ขอเป็นต้นสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน

ขากลับจากศรีลังกา นายกฯ เศรษฐา ยังสำทับซ้ำว่า 

‘ก็จะทำ พยายามทำให้ดีที่สุดและทำให้เร็วที่สุด’

ส่วนจะต้องรอ ป.ป.ช.หรือไม่ จะไปถามว่าจำเป็นต้องรอหรือไม่

ทำไปทำมากลายเป็นว่า ต่างฝ่ายต่างรอกันและกัน เลยทำให้ไม่มีความชัดเจนเสียที ทั้งๆ ที่่ก่อนหน้านี้รัฐบาลออกมารุมตำหนิผลศึกษาของ ป.ป.ช.ที่เผยแพร่ออกมาก่อนว่า เป็นการตั้งธง จินตนาการมากไป และเป็นเพียงข้อเสนอแนะที่จะทำตามหรือไม่ก็ได้ โดย สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นคนแรกๆ ที่ใช้คำว่า ป.ป.ช.ตั้งธง 

‘เข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ เป็นคำแนะนำที่รัฐบาลจะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้ ถ้ารัฐบาลเห็นว่าสิ่งที่ทำตามมันเป็นเรื่องถูกต้องหรือดีกว่า’

สมศักดิ์ ย้ำว่า ถ้าดูจากกฎหมายที่มีการเสนอเข้าไปในที่ประชุมเป็นมาตรา35 แต่ที่อนุมัติออกมาเป็น มาตรา32 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ลองไปตามดู เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้

‘อย่าไปซีเรียสกับเรื่องนี้ แล้วเขียนข่าวออกไปจนผู้คนที่เขาหวังรออยากจะได้เงินหนึ่งหมื่นบาท ดิจิทัลวอลเล็ตตัวนี้ เขาจะตกใจ ขอให้แสดงข้อเท็จจริงไปตามเนื้อผ้า ก็จะจบ’

สมศักดิ์ ย้ำ เอาไว้ในช่วงที่มีการเปิดผลศึกษา ป.ป.ช.

ในเมื่อผลศึกษาของป.ป.ช.อีกทั้งคำตอบจากกฤษฎีกา ที่ส่งกลับมายังรัฐบาลก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นแค่คำแนะนำที่รัฐบาลจะทำตามหรือไม่ก็ได้ แต่รัฐบาลกลับนำมาใช้เป็นข้ออ้างเลื่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ล่าสุดนายกรัฐมนตรี นำมาพูดเป็นนัยว่า 

‘ต้องมีวิธีการอื่นรองรับ เพราะคำเสนอแนะยังไม่มาสักที พี่น้องประชาชนเขาคอยไม่ได้’

กลายเป็นว่าที่ล่าช้าอยู่ทุกวันนี้ เพราะ ป.ป.ช.เป็นตัวฉุด ไม่ยอมส่งคำแนะนำมาให้สักที

ทั้งๆ ที่ 4-5 เดือนก่อนหน้านี้ รัฐบาลอ้างมาตลอดเป็นวิกฤตที่มิอาจรอได้ ทั้งเป็นนโยบายที่ประกาศต่อประชาชนไว้ในช่วงหาเสียง และได้แถลงต่อรัฐสภาไว้ จึงมีภาระผูกพันต้องทำ ที่สำคัญอยู่ในอำนาจของรัฐบาล

แต่การดำเนินการที่ผ่านมากลับโยกโย้ รอกฤษฎีกาบ้าง รอ ป.ป.ช.บ้าง และยังจะรอผู้ตรวจการแผ่นดินอีก แถมยังเลือกใช้ช่องทางตราเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ไม่ใช้ช่องทางด่วนเสนอเป็น พ.ร.ก.จะได้มีผลทันที สมกับเป็นวิกฤตที่มิอาจรอได้

ในเมื่อทอดเวลาข้าม พ.ศ. มาจนเลยคำว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤตไปแล้ว ไทม์ไลน์แจกเงินก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก และกำลังจะเลื่อนต่อ จากเดือนกุมภาพันธ์ ไปพฤษภาคม และเดือนต่อๆ ไปซึ่งไม่รู้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

แต่นาทีนี้เหมือนโยนบาปไปที่ ป.ป.ช.ว่าทำให้โครงการแจกเงินหมื่นล่าช้า เพราะไม่ยอมส่งคำแนะนำมาให้เสียที รอดูหลังหารือนอกรอบวันนี้แล้ว จะได้คำตอบออกมาอย่างไร

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์