พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน คิ๊กออฟ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ เมื่อวานนี้
เป็นผลงานชิ้นเดียวและชิ้นแรกของรัฐบาลนี้ ที่เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นอนาคตของประเทศ ที่ทำได้จริง เพราะทำแล้ว ทำอยู่มาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และมา ‘ทำต่อ’ ในรัฐบาลนี้ โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ดูแลกระทรวงพลังงานกับกระทรวงอุตสาหกรรม
‘ไฟฟ้าสีเขียว’ เป็น ‘แต้มต่อ’ ใหม่ หรือความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศไทย ในการส่งออกสินค้า และดึงดูดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยและคู่แข่งในภูมิภาค ใช้ปัจจัยเรื่องค่าแรง ทักษะแรงงาน การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี การให้วีซ่าระยะยาว สิทธิในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เป็นสิ่งจูงใจ ดึงดูดการลงทุน
หมดยุคแข่งขันด้วยค่าแรงถูก ยกเว้นภาษีแล้ว เพราะทุกประเทศมีเหมือนกันหมด บางประเทศให้มากกว่าไทยด้วยซ้ำ
ไฟฟ้าสีเขียวคือ ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานชีวภาพ เป็นต้น
โลกร้อน เป็นปัญหาความท้าทายใหม่ที่คุกคามมนุษยชาติ เป้าหมาย Net Zero ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 เพื่อไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเชียส เป็นเป้าหมายร่วมของทุกประเทศ เพื่อความอยู่รอด
ภาคธุรกิจ ซึ่งสร้างและปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ยกเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญ เร่งด่วน จะซื้อสินค้าอะไร ต้องดูว่า สินค้านั้นใช้พลังงานในการผลิตแบบไหน ปล่อยก๊าซคาร์บอน สู่ชั้นบรรยากาศเท่าไร นักลงทุนต่างชาติ จะไปลงทุนที่ไหน ขอดูก่อนว่า ไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน มาจากไหน
อียูซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย ประกาศใช้มาตรการ CBAM มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีนี้ กับสินค้า 5 ประเภทก่อนคือ เหล็กและเหล็กกล้า ซีเมนต์ กระแสไฟฟ้า ปุ๋ย และอลูมิเนียม
CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) คือ มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน เป็นการกำหนดราคาสินค้านำเข้าบางประเภทเพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเข้ามาใน อียู โดยสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนา ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เพื่อเข้าสู่ตลาดอียูได้
นี่คือ กติกาใหม่ของโลก ที่เชื่อกันว่า เป็นทางออกทางเดียวจากปัญหาโลกร้อน
ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีความพร้อมเรื่อง ไฟฟ้าสีเขียว ทั้งระบบ คือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ที่จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การจัดหาไฟฟ้าสีเขียวให้โรงงานอุตสาหกรรม ผู้ส่งออก และการออกใบรับรองไฟฟ้าสีเขียว ให้ผู้ส่งออกนำไปแสดงต่อประเทศผู้นำเข้า
การมีไฟฟ้าสีเขียวให้บริการทั้งระบบ เป็นจุดแข็งของไทยในการดึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง อุตสาหกรรมดิจิทัล รถอีวี ฯลฯ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีความพร้อมในเรื่องนี้
การตัดสินใจมาตั้งData Center ในประเทศไทยของ Google ,Amazon ,Huawai ฯลฯ ปัจจัยสำคัญคือ ประเทศไทยมีไฟฟ้าที่มั่นคง และเป็นไฟฟ้าสะอาด
สี่เดือนกว่าที่ผ่านมา ของรัฐบาลนี้ ก็มีเรื่องไฟฟ้าสีเขียว นี่แหละ ที่เป็นเหมือนแสงส่องนำทางให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้