การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกชุดใหม่ ที่จะเริ่มเลือกตัวแทนระดับอำเภอ ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ คนไทยไม่สนใจ ส่วนใหญ่อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีการเลือก สว. เพราะผู้มีสิทธิเลือกคือผู้สมัคร สว. เท่านั้น ประชาชนไม่มีสิทธิ และระบบการเลือกที่แบ่งตามกลุ่มอาชีพ มีความซับซ้อน ยุ่งยาก คนทั่วไปไม่เข้าใจว่าเลือกอย่างไร
คนที่สนใจจึงมีแต่ผู้สมัครด้วยกัน และกลุ่มคนที่มีวาระซ่อนเร้น วาระแอบแฝงที่จะใช้ สว. เป็นช่องทางหนึ่งในการเปลี่ยนประเทศไทย ให้เป็นตามที่ตัวเองอยากเห็น คือ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ กับพวก ‘คณะก้าวหน้า’ และ ‘ยิ่งชีพ อัชฌานนท์’ แห่งโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw
ทั้งคณะก้าวหน้าและiLaw เอาการเอางาน ทุ่มสุดตัวให้กับการเลือก สว. ครั้งนี้ ยิ่งกว่า กกต. ที่มีหน้าที่จัดเลือก สว. ด้วยซ้ำ
ตลอดระยะเวลา 1 เดือนก่อน กกต. เปิดรับสมัคร สว. ยิ่งชีพ ร่วมกับคณะก้าวหน้า เดินสายไปทั่วประเทศ กว่า 40 ครั้ง เพื่อรณรงค์ ชักชวนให้ประชาชนมาสมัคร สว. ให้มากที่สุด เพื่อสู้กับระบบเลือกตั้ง ที่เขาคิดว่ามีการจัดตั้ง สว. เพื่อสืบทอดอำนาจ ‘คสช.’
แต่การเดินสายของคณะก้าวหน้า และยิ่งชีพ iLaw นั่นแหละ คือการ ‘จัดตั้ง’ ของจริง การลงพื้นที่ทั่วประเทศ คือการเปิดตัว สว. ในสังกัดให้ผู้สมัคร สว. อื่นๆในพื้นที่ได้รู้จัก เป็นการสอดส่อง แมวมองหาผู้สมัครที่สามารถรับแนวทางการเปลี่ยนประเทศไทย ของก้าวหน้า และ iLaw ได้ มาเป็นพวก เพื่อแลกคะแนนกันในรอบ โหวตไขว้ ข้ามสายอาชีพ
ยิ่งชีพ iLaw ใช้ คีย์เวิร์ดการรณรงค์ให้คนมาลงสมัคร สว. ว่า‘ เปลี่ยนประเทศไทย เริ่มรับหนึ่งที่ สว’
ประเทศไทยที่ ยิ่งชีพ ต้องการเปลี่ยนคือมีการ ‘แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ’ ซึ่งจะมีผลรูปแบบการปกครอง ที่อาจไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกต่อไป ‘สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจแยกตัวเป็นเขตปกครองพิเศษ’
หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงหมวดพระมหากษัตริย์ ที่รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติว่า
‘พระมหากษัตริย์ อยู่ในสถานะอันเป็นที่เคาระสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาฟ้องร้องมิได้’
รวมทั้ง การลดทอนอำนาจพระมหากษัตริย์
ก่อนหน้านี้ ยิ่งชีพ เคยร่วมเคลื่อนไหวกับแนวร่วมกลุ่ม ‘ประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ’ ล่ารายชื่อ ประชาชน 50,000 คน เพื่อจัดทำประชามติ ให้มีการเลือกตั้ง สสร. ทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากต้องใช้เสียง สส. เกินครึ่งหนึ่ง คือ 250 คนแล้ว ยังต้องให้ สว. 1 ใน 3 คือ 67 คน เห็นชอบด้วย สว. มีวาระ 5 ปี การเลือกตั้งสมัยหน้าสมมติว่า พรรคก้าวไกลชนะถล่มทลาย ได้เสียงเกินครึ่งก็ยังแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ ต้องใช้เสียง สว. ชุดใหม่อีก 67 คน จึงจะบรรลุเป้าหมายเปลี่ยนประเทศไทย
ในเว็บไซต์senate 67 ที่คณะก้าวหน้า และiLaw ใช้เป็น จุดนัดพบให้ผู้สมัคร สว. ที่ผ่านการจัดตั้งเบื้องต้น ได้รู้จักผู้สมัครในกลุ่มอาชีพอื่นๆ ที่มีจุดยืนเปลี่ยนประเทศไทยเหมือนกัน โดยพิจารณาจากคำตอบ ในแบบสอบถามว่า ‘เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย’ หรือ ‘ขอพิจารณา’
หัวข้อในแบบสอบถาม ก็คือประเทศไทยที่ยิ่งชีพ เคลื่อนไหวมาตลอด เช่น ‘การแก้ไขมาตรา112’ , ให้ ‘สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเขตปกครองพิเศษ’ , ยกเลิกกฎหมายปรายบปรามค้าประเวณี, ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ,ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ
การเลือก สว. ครั้งนี้ ทั้งคณะก้าวหน้า และยิ่งชีพ เห็นว่า ไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะปิดกั้นประชาชนไม่ให้มีส่วนร่วม แต่พวกเขาก็มองเห็นโอกาส ที่จะใช้เวทีนี้ เปลี่ยนประเทศไทยอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็นจึงทุ่มเทสุดตัว
