ไม่น่าเชื่อว่า บริษัทก่อสร้างอันดับหนึ่งของไทย และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อย่าง อิตาเลียนไทย เดเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD จะประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง ถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายผู้รับเหมารายย่อย ที่เป็นผู้รับเหมาช่วง หรือซับคอนแทรคเตอร์
แม้แต่เงินเดือนพนักงาน ก็ต้องกู้แบงก์มาจ่าย โดยต้องยอมให้แบงก์เป็นผู้ควบคุมการจ่ายเงินให้พนักงาน และจ่ายหนี้ซัพพลายเออร์ด้วย
สภาพจึงเหมือนถูกเจ้าหนี้ ‘พิทักษ์ทรัพย์’ ซึ่งโดยปกติ กิจการที่ล้มละลายเท่านั้น จึงจะถูกพิทักษ์ทรัพย์ โดยคำสั่งศาล ITD ยังห่างไกลจากการล้มละลาย เพียงแต่มีปัญหาสภาพคล่อง แต่การถูกเจ้าหนี้ ‘พิทักษ์ทรัพย์’ ด้านการเงิน ก็บ่งบอกถึงความหนักหนาสาหัสของปัญหาสภาพคล่อง ที่ ITD กำลังเผชิญอยู่
ในขณะเดียวกันก็เป็นการส่งสัญญาณของเจ้าหนี้ ที่เป็นธนาคารใหญ่คือ แบงก์กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์ และกรุงไทย ว่า ITD ใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้ม เพราะจะเกิดผลกระทบที่ใหญ่หลวงตามมา จำต้องช่วยกันประคับประคองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้ก่อน
ITD เพิ่งแก้ปัญหา ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 1.45 หมื่นล้านบาท เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหนี้หุ้นกู้ยอมให้เลื่อนจ่ายหนี้หุ้นกู้รวม 5 รุ่น ออกไปอีก 2 ปี แลกกับการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มจากอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วอีก 0.25- 0.50 %
หนี้หุ้นกู้ จำนวนดังกล่าวเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ของหนี้สินก้อนใหญ่ราวๆ 1 แสนกว่าล้านบาทของ ITD ประกอบด้วย หนี้เงินกู้แบงก์ เกือบ 4 หมื่นล้าน หนี้เจ้าหนี้การค้า 2 หมื่นกว่าล้านบาท หนี้ซัพพลายเออร์อีกจำนวนหนึ่ง ฯลฯ
ผลประกอบการของ ITD ช่วง 5 ปีย้อนหลัง ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีรายได้ต่อปีระดับ 5-6 หมื่นล้านบาท เพิ่งเริ่มกลับมามีกำไรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ราว 379 ล้านบาท
ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา มีปัจจัยลบจากภายนอกหลายอย่างที่เข้ามากระทบต่อธุรกิจของ ITD ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เรื่องโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบถึงต้นทุนในการดำเนินงานโครงการต่างๆ
ในเวลาเดียวกันโครงการเมกะโปรเจกต์หลายๆโครงการก็ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย โครงการรถไฟความเร็วสูง ไปจนถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมทั้งโครงการเหมืองโปแตช ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนหลายหมื่นล้านบาท แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ยิ่งไปกว่านั้นผลจากการที่ ITD หันมาใช้วิธีระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ในช่วง อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ก็กลับกลายเป็นภาระหนักในเวลานี้ เมื่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเริ่มกลับทิศทาง และกลายเป็นเรื่องยากลำบากในการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อนำไป Roll Over ทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิม
ต้องยอมรับว่า ผลจากวิบากกรรมเรื่อง ‘คดีฆ่าเสือดำ’ ทำให้ ‘เจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต’ ที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณ และทุกอย่างของ อิตาเลียนไทยฯ ต้องวางมือไปจากการบริหารในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ ITD เปรียบเสมือนเรือขาดหางเสือ และเกิดอาการชะงักงัน เพราะขาดผู้นำที่จะตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่ถาโถมเข้ามาชนิดแทบไม่ทันตั้งหลัก
เปรมชัย ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก หลังพ้นโทษ เมื่อไปต้อนรับ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ไปแวะชม โครงการเหมืองแร่โปแตช ของบริษัทเอเชีย แปซิฟิค คอร์ปอเรชั่น หรือเอพีพีซี ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออิตาเลียน ไทยฯ ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นายกฯเศรษฐา สอบถามถึงเรื่อง เงินทุนที่จะใช้ เปรมชัย ลุกขึ้นตอบเองว่า
เจรจากับสถาบันการเงินในประเทศเรียบร้อยแล้ว และได้รับคำยืนยันว่า จะสนับสนุนเงินทุนให้โครงการนี้
ถัดมาอีกแค่ 4 วัน ITD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาหาผู้ร่วมทุนบางส่วนในเอพีพีซี
การแจ้งตลาดหลักทรัพย์ มีขึ้นหลังจาก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวว่า ITD กำลังเจรจาขายหุ้น 90 % ในเอพีพีซี แก่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมีนักลงทุนจากจีนด้วย
การขายหุ้นเหมืองโปแตช อาจจะเป็นทางรอดทางเดียวของ ITD ก็ได้