ชำแหละ ‘โผนายพล 67’ ศึกสายเลือด-เกมชิงอำนาจรุ่นพิเศษ

23 ก.ย. 2567 - 04:31

  • เจาะลึกโผนายพล2567 กว่าจะจบทำเอาลุ้นกันหนัก ท่ามกลางกระแสข่าวลือวางไลน์รุ่น ตท.นำไปสู่การจัดวางตำแหน่ง แบบพลิกฟ้าพลิกดินและแหวกม่านประเพณี

  • กองทัพเรือได้ ‘บิ๊กแมว’ ผบ.ทร.คนใหม่ ตามที่ ‘บิ๊กดุง’ เสนอและยืนยันมาตั้งแต่ต้น คนที่ไม่ใช่เลยต้องย้ายข้ามฟากกันไป

  • กองทัพบก ที่ ตท.บางรุ่นหวังขึ้นยกแผง และใช้ยุทธวิธีกดดัน ทำให้ ‘บิ๊กต่อ’ ต้องให้ลูกชายลาออกจากทหาร จนได้ ‘บิ๊กปู’ เป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ พร้อมกับการวางไลน์ไปถึงระดับกองพล

deep-space-military-officer-2024-general-royal-thai-army-navy-SPACEBAR-Hero.jpg

จบไปแบบเลือดพล่าน นับศพกันแทบไม่ถูก สำหรับบัญชีโยกย้ายนายทหารระดับนายพลประจำปี 2567 โดยเฉพาะกองทัพบกและกองทัพเรือ ที่ปีนี้ ไม่ได้เปลี่ยนแค่หัว แต่ลำตัวยังขยับเกือบทั้งองคาพยพ 

ส่วนกองทัพอากาศและสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม อาจจะขยับไม่มากนัก แต่ก็มีประเด็นที่เห็นชัด คือ การมีชื่อ พล.อ.ธราพงษ์ มาละคำ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ไปดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘บิ๊กหนุ่ย’ ที่พลาดหวังจากกองทัพบก ขยับไปเป็นรองปลัด เพื่อรอขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อจาก พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.24 ในปี 2568 

ขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย ผบ.อ๊อบ พล.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.สส. เสนอขยับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง เพื่อจัดวางไลน์ เคลียร์เส้นทางรองรับ ว่าที่ผู้บัญชาการกองทัพไทย คนต่อไป และจัดทัพกองทัพไทยใหม่ ให้เตรียมยกระดับกองทัพขึ้นสู่มาตรสากล หลังหนึ่งปีที่ผ่านมา ‘บิ๊กอ๊อป’ ปูพื้นฐานและแนวทางการทำงานให้กับกำลังพลมาแล้วระยะหนึ่ง

โดยปีนี้กองทัพบก ส่ง ‘บิ๊กหยอย’ พล.อ.อุกฤษฏ์  บุญตานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.(ตท.24) ข้ามฟากจากถนนราชดำเนินมาเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อจ่อขึ้นเป็น ผบ.สส.คนต่อไป เพราะ บิ๊กหยอย น่าจะเป็นนายทหารที่มีคุณสมบัติ เหมาะสำหรับแนวทางที่ พล.อ.ทรงวิทย์ วางเอาไว้ เพราะครบทั้งบู๊และบุ๋น ด้วยความเป็นนายทหารที่เติบโตด้านยุทธการ สุขุม นิ่ง และสามารถประสานงาน กับผบ.เหล่าทัพในต่างประเทศได้ 

การจัดวางตำแหน่งหลักในกองทัพไทยปีนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ จึงวางนายทหารที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2568 ขึ้นมาในตำแหน่งหลักทั้งสิ้น เพื่อลดจำนวนแคนดิเดทที่จะเข้ามาเบียดแข่งกับ พล.อ.อุกฤษฏ์ ในปีหน้า

เพราะเพื่อนเตรียมทหาร 24 ที่ขยับเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญในอัตราพลเอกพิเศษ ที่สามารถขยับขึ้นเป็น ผบ.สส.ทั้ง พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รอง ผบ.สส.และพล.อ.มนัส จันดี ในตำแหน่งเสนาธิการทหาร ทั้งคู่เกษียณอายุราชการในปี 2568 ทั้งสิ้น 

ส่วน พล.อ.ชิดชนก นุชฉายา (ตท.26) ที่เคยเป็นดาวรุ่งและมีชื่อว่าอาจจะเป็นแคนดิเดต ผบ.สส.คนต่อไป การโยกย้ายรอบนี้ ย้ายมาในตำแหน่งหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งไม่ใช่อัตราพลเอกพิเศษ ทำให้เมื่อเทียบกับ พล.อุกฤษฏ์ ในปีหน้า พล.อ.ชิดชนก จะมีอาวุโสน้อยกว่า ส่วน รอง ผบ.สส.คนอื่นๆ ในอัตราพลเอกพิเศษ ก็เกษียณอายุราชการปี 2568 ทั้งหมด

ความดุเดือดของบัญชีโยกย้ายนายทหารปี 2567 ไฮไลท์จึงอยู่ที่ กองทัพบกและกองทัพเรือ ที่ปีนี้ เป็นศึกสายเลือดระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้องโรงเรียนเตรียมทหาร และเป็นศึกที่เล่นกันถึงหลังบ้าน งัดเอาเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัวมาอยู่ในเกมต่อรอง และเกมช่วงชิงอำนาจ

กองทัพบก ‘บิ๊กต่อ’ พล.อ.เจริญชัย  หินเธาว์ ผบ.ทบ. ถึงขั้นยอมกลืนเลือด ให้ลูกชายที่กำลังเติบโตในเส้นทางการรับราชการทหาร ‘ลาออก’ และให้มีผลทันที เพื่อลดแรงกดดันที่โถมเข้ามาใส่ทั้งตัว พล.อ.เจริญชัย และลูกชาย

เกมนี้ ‘บิ๊กต่อ’ จึงวางโผที่เรียกว่า พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน ดับฝันหลายคน ทั้งคนเบื้องหน้า และคนเบื้องหลัง ที่วางแผนสืบทอดอำนาจในกองทัพบก จนบัญชีโยกย้ายปีนี้ ดาวรุ่งหลายคนถูกดองไว้ในตำแหน่งเดิม เพื่อชะลอเส้นทางการเติบโตที่วาดฝันไว้ 

ตำแหน่ง 5 เสือกองทัพบก พล.อ.เจริญชัย เลือก ‘บิ๊กปู’ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เสนาธิการทหารบก (ตท.26) ขยับขึ้นเป็น ผบ.ทบ. และเป็นเสนาธิการทหารบก หนึ่งในไม่กี่คนที่ขยับจากตำแหน่งนี้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก่อนนี้มีเพียง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ ‘บิ๊กจิ๋ว’ เท่านั้น ที่ขยับจากตำแหน่งเสนาธิการทหารบกขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

‘บิ๊กต่อ’ บอกกับคนใกล้ชิดว่า สามารถตอบได้ทุกคำถาม ว่าทำไม เขาถึงเลือก ‘บิ๊กปู’ ขึ้นเป็นผบ.ทบ.ทั้งที่เป็นรุ่นน้อง และอาวุโสน้อยกว่า ‘บิ๊กหนุ่ย’ พล.อ.ธราพงษ์ มาละคำ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.24) และ ‘บิ๊กหยอย’ พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.(ตท.24) อีกคน และยืนยันว่า ทั้ง 3 คน ได้รับโอกาสขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งของกองทัพ

“หนุ่ย ไปกลาโหม ก็ทำงานร่วมกับ หนุ่ม สนิธชนกได้ และเหมาะที่จะขึ้นเบอร์หนึ่งที่นั่น ส่วน หยอย มีคุณสมบัติการเป็นนายทหารสายบุ๋นที่เหมาะสำหรับภารกิจด้านต่างประเทศ ที่นับจากนี้กองทัพไทยจะมีบทบาทมากขึ้นในระดับภูมิภาค”

“ปูจะได้ทำงานต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงของประเทศ ทั้งภายในและภายนอก ที่นับวันจะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น”

ตำแหน่งอื่นใน 5 เสือ พล.อ.เจริญชัย เฉลี่ยที่นั่งให้แต่ละรุ่น โดยคืนความชอบธรรมให้ ‘บิ๊กต้น’ พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร (ตท.24) ขยับจากที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก มาเป็นพลเอกพิเศษก่อนเกษียณในตำแหน่ง รองผู้บัญชาการทหารบก และให้โควตา พล.อ.วสุ เจียมสุข (ตท.25) อดีตนายทหารฝ่ายเสธฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

พร้อมกับขยับ แม่ทัพรุ่ง พลโท ชิษณุพงศ์ รอดสิริ (ตท.26) แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาเป็นพลเอกในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกอีกคน เพื่อเป็นมือทำงานให้กับ พล.อ.พนา ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น และดึง ‘บิ๊กย้อย’ ของเพื่อนๆ หรือ ‘พี่ธง’ ของน้องๆรบพิเศษ พล.ท.ธงชัย รอดย้อย (ตท.25) รองเสนาธิการทหารบก ขึ้นมาเป็นเสนาธิการทหารบก อัตราพลเอก เพื่อดูแล กอ.รมน.ให้กับ ‘บิ๊กปู’

ทำให้โผ 5 เสือ ทบ.รอบนี้ พล.อ.พนา จะมี ผู้ช่วยรุ่ง และ เสธย้อย ที่คอยช่วยงานในภารกิจสำคัญๆ นอกเหนือจากงานอื่นที่จะมอบหมายให้กับ รองต้นและผู้ช่วยวสุ ดูแล 

ถัดจาก 5 เสือ เกมที่ดุเดือดที่สุดของโผ ทบ.รอบนี้ เป็นศึกชิงตำแหน่งแม่ทัพภาคแต่ละภาค และผู้บัญชาการกองพลหลัก โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการกองพลหลักในกองทัพภาคที่ 1

ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ก่อนหน้านี้เป็นอีกหนึ่งจุดแตกหัก และมีผลต่อการตัดสินใจ ซึ่งทำให้ พล.อ.เจริญชัย ต้องลงนามในใบลาออกของลูกชาย เมื่อมีการต่อรองบางประการ ที่คนใกล้ชิด พล.อ.เจริญชัย บอกว่า “เป็นเรื่องที่พี่ต่อรับไม่ได้ เพราะไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ควรเป็น” 

หลังจากเปิดศึกช่วงชิงกันระหว่าง แม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) และ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ (ตท.28) รองแม่ทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธ์ (ตท.28) รองแม่ทัพภาคที่ 1 อีกคนรอสอดแทรก ที่พร้อมจะชิงทั้งตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 กรณีที่ พล.ต.วรยส พลาด และแม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อรอเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนต่อไป 

แต่สุดท้าย พล.อ.เจริญชัย ก็หักโผคุณขอมา ด้วยการเลือก ‘บิ๊กใหญ่’ พล.ท.อมฤต ให้ขยับขึ้นจากแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เพราะหากมองตามหลักอาวุโส ทั้งรุ่น และในฐานะแม่ทัพน้อยที่ 1 แม่ทัพใหญ่ เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง 

ส่วน พล.ต.วรยส โผนี้ พล.อ.เจริญชัย ยังเปิดทางให้ขยับขึ้นเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อให้โอกาสรอลุ้นขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปีถัดไป ทั้งที่ก่อนนี้มีการคาดการณ์ว่า พล.ต.วรยส อาจถูกส่งออกนอกทัพภาค ไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าด้วยซ้ำ 

ขณะที่ รองกอล์ฟ ตัวเต็งของรุ่น ตท.28 ที่คาดหวังทั้งตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 หรือแม่ทัพน้อยที่ 1 บัญชีนี้ รองกอล์ฟ ยังคงเป็นแค่รองเช่นเดิม เพราะโยกย้ายรอบนี้ไม่ได้ขยับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 เช่นเดิม หลังจากถูกมองว่า เป็นดาวเด่นของรุ่น เพราะขยับแบบ Fast Track มาตลอด 

เช่นเดียวกับ รองมด พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร รองแม่ทัพภาคที่ 1 ดาวรุ่งอีกหนึ่งคนของ ตท.28 ปีนี้ก็ไม่ได้ขยับเช่นกัน แม้จะเคยถูกคาดการณ์ว่า จะขยับขึ้นเป็น พล.ท. ในตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน

นั่นหมายถึงทั้ง รองกอล์ฟและรองมด ดาวรุ่งแถวหน้าของ ตท.28 จะต้องรอสู้ใหม่ในปีหน้า ที่มีเพื่อนร่วมรุ่น ตท.28 รองแอ้ม พล.ต.ณัฐเดช  จันทรางศุ ม้านอกสายตาของเพื่อนในรุ่น ที่ขยับจากรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นมาเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไลน์มาพร้อมขยับเป็นทั้งแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพน้อยที่ 1 อีกคน 

นอกจากนั้นแล้ว โผนี้ พล.อ.เจริญชัย ยังขยับ ‘ผบ.ลาภ’ พล.ต.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ตท.30) เข้าไลน์มาเป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ที่พร้อมเป็นแคนดิเดตแม่ทัพน้อยที่ 1 ในปีหน้าด้วย

ทั้ง พล.ต.ณัฐเดช และพล.ต.สิทธิพร ล้วนแต่เกษียณอายุปี 2572 แม้จะเกษียณก่อน รองกอล์ฟ ที่เกษียณปี 2573 แต่ถ้า รองกอล์ฟ จะก้าวไปสู่ตำแหน่งเบอร์หนึ่งของกองทัพตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ปี 2568 รองกอล์ฟ จะต้องก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ให้ได้ก่อน และระหว่างนั้นจนถึงปี 2570 ที่ พล.อ.พนา เกษียณ จะต้องไม่มีรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้อง ที่เกษียณพร้อมกัน หรือเกษียณหลังก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตร่วม

เพราะแผนชะลอการเติบโต ทีมดาวรุ่ง ตท.28 นอกจากวางแคนดิเดต ทั้งจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน และรุ่นน้องขยับเข้ามาล้อม รองกอล์ฟกับรองมด แล้ว 

ระดับผู้บัญชาการกองพลหลัก บิ๊กต่อ ยังขยับเด็กในคาถา 3 ทหารเสือราชินี พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล (ตท.31) รองผบ.พล.1 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ., พ.อ.เบญจพล เดชาชิตวงศ์ (ตท.32) รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ขึ้นเป็นผบ.พล.ร. 2 รอ. และ พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ (ตท.30) รอง ผบ.พล.ร.11 ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 เพื่อเตรียมเติบโตเข้ามาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ในอนาคตไว้อีกด้วย เพราะ พ.อ.ยุทธนา เกษียณ ปี 2574 และ พ.อ.เบญจพล เกษียณ ปี 2575 ล้วนเกษียณหลัง รองกอล์ฟ ทั้งสิ้น 

ปี 2570 ที่ พล.อ.พนา เกษียณ ทั้ง รองแอ้ม และ ผบ.ลาภ ที่เกษียณปี 2572 รวมถึง 1 ใน 3 ทหารเสือราชินี ต่างก็ล้วนมีสิทธิขยับเข้าสู่ 5 เสือ เพื่อรับช่วงต่อจาก พล.อ.พนา หรือกรณีที่ แม่ทัพใหญ่ พล.ท.อมฤต ที่เกษียณปี 2571 ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.พนา ทั้ง รองแอ้ม หรือ ผบ.ลาภ รวมทั้ง คนใด คนหนึ่งใน 3 ทหารเสือ ก็มีสิทธิเข้าไปเป็นแคนดิเดตร่วมเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดโผแรกของ พล.อ.พนา ช่วงกลางปี 2568 และโผที่สองช่วงปลายปี 2568 ว่า พล.อ.พนา จะวางใครเข้ามาในไลน์ว่าที่ ผบ.ทบ.คนต่อจากเขาด้วย

“สู้กันต่อไปนะ…ทาเคชิ”

EP.หน้าจะว่ากันเรื่องหลังฉากม่านประเพณี และม่านกองโคลนในกองทัพเรือว่า ‘บิ๊กดุง’ ดัน ‘บิ๊กแมว’ ผ่าน 2 ม่านนี้มาได้อย่างไร

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์