‘ก้าวไกล’ ยังได้ลุ้นก้าวต่อ

6 มิ.ย. 2567 - 10:01

  • ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดพิจารณายุบพรรคก้าวไกล 12 มิถุนายน

  • เป็นการตรวจสอบรายละเอียดคตำชี้แจงว่าเพียงพอหรือไม่ และไม่ลงมติ

  • ก้าวไกลยังคาดหวังว่า จะได้ไปต่อในเส้นทางการเมือง

‘Move Forward’ still has a chance to move forward-SPACEBAR-Hero.jpg

ในที่สุดวันพิพากษาพรรคก้าวไกล ก็เดินทางมาถึง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไว้ในสำนวนเมื่อวานนี้ (5มิถุนายน 2567) พร้อมกำหนดนัดพิจารณาต่อไปในวันพุธที่ 12 มิถุนายน สัปดาห์ถัดไปทันที

คดียุบพรรคก้าวไกล จึงเดินทางมาถึงยกสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุดเสียเลยทีเดียว เพราะในวันดังกล่าวจะยัง ‘ไม่มีการลงมติ’ เพื่อวินิจฉัยว่า ‘ยุบ’ หรือ ‘ไม่ยุบ’ พรรคก้าวไกลแบบม้วนเดียว

เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่า ในวันพุธหน้าจะเป็นการประชุมเพื่อพูดคุยถึงเนื้อหาคำชี้แจง ว่ามีตรงไหนที่ต้องเพิ่มเติมอีกบ้าง มีรายละเอียดพอที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยได้หรือยัง หากครบถ้วนแล้ว ถึงจะนัดหมายวันลงมติเพื่อวินิจฉัยคำร้องต่อไป

ตกลงวันพุธที่ 12 มิถุนายนนี้  ‘ยังไม่มีอะไร’ ให้ลุ้นเสียวกันทั้งขาเชียร์ ขาแช่ง อย่างเร็วสุดก็อีกหนึ่งสัปดาห์ถัดไป ซึ่งเป็นหลังวันที่ 18 มิถุนายนไปแล้ว เท่ากับว่า ‘หวยคดีมาตรา 112’ ของ ทักษิณ ชินวัตร ต้องออกก่อน จากนั้น ค่อยมาลุ้นผลคดียุบพรรคก้าวไกลกันต่อ

แน่นอนชั่วโมงนี้ ฝ่ายที่ต้องลุ้นแบบตัวโก่ง คือคนในพรรคก้าวไกล แม้แกนนำแต่ละคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกัน ‘ไม่ได้รู้สึกวิตกหรือกังวล’  ยังคงเดินหน้าทำงานกันปกติก็ตาม น่าจะเป็นอารมณ์แบบปลุก ‘ปลอบ’ กันเองเสียมากกว่า

โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ ยังมีความหวังกับการขอให้ศาลเปิดการไต่สวนอยู่ แม้ด้านหนึ่งจะบอกได้สู้ทุกมุมทุกเหลี่ยมไปแล้ว ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงก็ตาม 

‘พรรคก้าวไกลจะยื่นคำร้อง ขอให้มีการไต่สวนและสืบพยานเพิ่มขึ้นอีก สุดท้ายต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญ มีความเห็นอนุญาตให้ไต่สวนเพิ่มเติม เรียกพยานเอกสารหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ถ้าเปิดให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ น่าจะมีการไต่สวน แต่ถ้าศาลบอกว่า ข้อเท็จจริงเท่านี้เพียงพอแล้ว ก็ไม่ต้องไต่สวน’

ชัยธวัช ยังเชื่อว่า กรณีนี้ไม่สมเหตุสมผลที่จะ ‘ยุบก้าวไกล’  แม้ว่าจะมีคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้เป็นไปตามมาตรา 49 แต่เป็นคดีที่วินิจฉัยคนละประเด็นกัน เพียงเพื่อให้หยุดการกระทำ ดังนั้นการพิจารณาข้อเท็จจริง การวางหลักกฎหมายวินิจฉัยคดีใหม่ ซึ่งมีความมุ่งหมายร้ายแรงในการยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมือง เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคดีก่อนหน้านั้น 

ด้าน ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’  ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งจะแถลงรายละเอียดคำชี้แจงในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ บอกไว้เช่นกันว่า เตรียมคำชี้แจงไว้ 8 ประเด็น เช่น ขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ข้อชี้แจงในข้อกฎหมายมาตรา 92 และ 93 ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง และคดีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม จนมาถึงคดีนี้ ไม่ผูกพันกัน 

นับเป็นการออกแแรงดิ้นถึงนาทีสุดท้ายของพรรคก้าวไกล ส่วนจะรอดหรือไม่นั้น ในสายตานักวิชการคนนอกพรรคอย่าง ‘แก้วสรร อติโพธิ’  วิเคราะห์คดียุบพรรคก้าวไกล ในสไตล์ถามเอง ตอบเอง ไว้ในเฟสบุ๊คส่วนตัวได้น่าสนใจว่า

ถาม : คดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งยกคำร้องของ กกต.ที่ให้ยุบพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ ในเมื่อศาลได้เคยวินิจฉัยให้ พรรคหยุดรณรงค์เลิก 112 เพราะมีผลกร่อนเซาะสถาบันของชาติไว้คดีหนึ่งแล้ว

ตอบ : ผมว่าทีมพรรคก้าวไกลเขาสู้คดีไว้ถูกต้องตามแนวทางในกฎหมายแล้วว่า แม้การกระทำจะไม่ถูกต้องก็ไม่ได้หมายความว่าต้องยุบพรรค รัฐธรรมนูญก่อนฉบับปี 60 ก็เคยบัญญัติไว้ชัดแล้วว่า แม้ศาลจะสั่งให้หยุดพฤติการณ์อันเป็นการล้มล้างแล้วก็ตาม ศาลยังมีดุลพินิจที่จะยุบหรือไม่ยุบพรรคนั้นก็ได้ 

ถาม : แล้วมารัฐธรรมนูญ 60 ตัดอำนาจยุบพรรคของศาลออกไปหรือไม่

ตอบ : เขาตัดออกไปให้ กกต. เป็นผู้เริ่มคดีเป็นอีกคดีหนึ่ง คือให้ไปรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ว่า พรรคก้าวไกลเป็นการรวมตัวเพื่อเซาะกร่อนสถาบันกษัตริย์จริงๆ หรือไม่ ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็ไม่ทราบว่ามีพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนในศาลเพียงพอหรือไม่   

ถาม : ถ้าศาลยกคำร้อง พวกสลิ่ม คงตีอกชกหัวตายเป็นฝูงเลย

ตอบ : ศาลท่านต้องตัดสินไปตามครรลองที่ปรากฏในครรลอง ถ้ายังสงสัยท่านจะไต่สวนเพิ่มเติมก็ได้ ส่วนพวกสีต่างๆ จะลุ้นกันอย่างไรก็ว่ากันไปเป็นส่วนตัว ตาม รัก โลภ โกรธ หลงที่มี

สุดท้ายประธานศาลรัฐธรรมนูญ ‘นครินทร์ เมฆไตรรัตน์’  ให้สัมภาษณ์เรื่องยุบพรรคก้าวไกลเอาไว้แบบเปิดใจในโอกาสครบรอบวันสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาว่า กระบวนการวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ยังไม่เกิดเกิดขึ้นภายในเดือน เมษายนนี้ เพราะการขอขยายเวลาจากพรรคก้าวไกลตามกรอบเลยเดือนเมษายนนี้ ยังไม่ทราบว่าจะมีการไต่สวนหรือไม่

ในเวลาต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้อนุญาตให้พรรคก้าวไกลขยายเวลายื่นคำชี้แจงได้ถึง 3 ครั้ง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ไว้ พร้อมยังตอบคำถามเรื่องการคาดการณ์กันในเวลานั้นว่า ก้าวไกลต้องถูกยุบพรรคแน่ๆ ด้วยว่า

‘เป็นที่คาดการณ์เช่นนั้น แต่ข้อกฎหมายคนละข้อ  การตัดสินครั้งที่ผ่านมาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.49 ส่วนการยุบพรรคเป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน’

ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยังย้ำด้วยว่า คำร้องนี้กับกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ เป็นคำร้องคนละอย่างกัน

‘เราชอบคิดว่าข้อเท็จจริงเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกัน มันต่างกันมาก แค่ชื่อของตัวแสดงทางการเมือง หรือตัวแสดงในคดีก็ต่างกันอยู่แล้ว ไม่ใช่ตัวแสดงคนเดียวกัน’

นำคำให้สัมภาษณ์ของประธานศาลรัฐธรรมนูญ มาให้อ่านกันอีกครั้ง แม้จะเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ก็เป็นหนึ่งในเก้าขององค์คณะที่จะเป็นผู้ชี้ขาดคำร้องในคดีนี้ ‘ยุบ-ไม่ยุบ’ พรรคก้าวไกล

คนในพรรคก้าวไกลอ่านดูแล้ว ไม่รู้จะอยู่ในอารมณ์ไหน ทำให้ ‘ใจชื้น’ ผ่อนคลายลง หรืออยู่แบบปลงๆ ก็ไปใคร่ครวญกันเอาเอง เพราะฟังจากกระแสสังคมรอบข้างนาทีนี้ยังให้น้ำหนัก 50 : 50 ถ้าอิงการเมืองก็จะไหลไปข้างหนึ่ง แต่ถ้าอิงหลักกฎหมายก็จะไหลไปอีกข้าง

มรสุมชีวิตพลพรรคสีส้มรอบนี้ ถ้าเชื่อตามที่อาจารย์แก้วสรรว่าไว้ คงได้เห็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ไม่ซ้ำรอยพรรคอนาคตใหม่เมื่อสี่ปีที่แล้ว

นั่นคือ ทำให้พรรคก้าวไกล ยังได้ลุ้นที่จะก้าวต่อไปได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์