รำวงกันมาเกือบจะสองปี เปลี่ยนท่ามาเป็น ‘เซิ้ง’ บ้าง
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกกล่าวหา ‘ไม่มีความจริงใจ’ ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขจริงๆ แต่ต้องทำเพราะตกกระไดพลอยโจน ประกาศต่อสาธารณะไว้ต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งด้วยกัน
ในท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่อง ‘ดีลลับบรูไน’ แบบเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง พูดจากันหนาหูในแวดวงการเมือง จากการเดินทางไปบรูไน ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ของ ‘ส.ท.ร. ทักษิณ ชินวัตร’ ถึงการเปลี่ยนขั้วรอบใหม่
ได้เวลาเขี่ยทิ้ง ‘ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ’ แล้วเอาพรรคส้มมาเสียบแทน!!
โดยอาศัยจังหวะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่
แหละเป็น ‘เวทีสังหาร’..ใครนะช่างกล้าคิด งานนี้ขืนพรรคส้ม ที่คนมองถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก เคลิ้มตามรับรองไม่ใช่แค่เสียคนธรรมดาเท่านั้น
ในอีก 2-3 วันข้างหน้า ทักษิณมีโปรแกรมลงใต้ไปดูปัญหา 3 จังหวัดชายแดนด้ามขวาน ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน โดยมีสองทหารเสือในรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ร่วมคณะไปด้วย
หวังว่าคงไม่มีใครพูดถึงดีลลับฉบับสุไหงปาดีกันอีก
เอาเป็นว่า จะมีดีลลับดีลสว่างอะไรที่ไหนก็ให้ว่ากันไป แต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่สองพรรคใหญ่ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ เหยียบหัวแม่เท้ากันไปสัปดาห์ก่อนนั้น ตอนนี้กลับมาจูนกันติดเป็นที่เรียบร้อย
ทำนอง ‘เพื่อไทยว่างาม ภูมิใจไทยก็ว่างามตามไปด้วย’ ประมาณนั้น
เมื่อการเมืองแบบลิ้นกับฟัน ลงตัวกันได้แบบนี้ แล้วยังจะมีดีลลับที่ไหนให้เสียเวลา ‘คิด วิเคราะห์ แยกแยะ’ ให้เปลืองสมองกันอีก จึงไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทย เดินหน้าม้วนเดียว ยื่นญัตติด่วนถึงประธานรัฐสภาทันที เรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คาสภาอยู่
ส่วนประธานฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็ไม่ให้เสียเวลารอนาน พร้อมเรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย รวมทั้งตัวแทนรัฐบาล มาหารือกันทันทีเหมือนกันว่า จะประชุมรัฐสภาวันไหน และจะมีญัตติอะไรที่ต้องพิจารณาก่อนหลังตามลำดับ
‘เพื่อความเรียบร้อยของการประชุม เพราะเรามีสมาชิกถึง 700 คน จึงจำเป็นต้องหาข้อยุติบางส่วนล่วงหน้า เพื่อความเรียบร้อยและไม่เกิดความสับสน ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมเร็วๆ นี้’ ประธานวันนอร์ ท่านว่ามาแบบนี้
ทีนี้ก็เหลือแต่การแก้รัฐธรรมนูญฉบับ ‘เพื่อไทยวิธี’ (ปิยบุตร แสงกนกกุล ตั้งให้) จะไปต่ออย่างไร และหวยจะมีโอกาสออกได้กี่หน้า โดยอย่างแรกเลย ในวันที่ประธานฯ วันนอร์ เรียกประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ก็ต้องเริ่มจากเรื่องที่ค้างอยู่ก่อน
แต่ตามสูตร ก็จะอาศัยเสียงข้างมากขอให้ที่ประชุมเลื่อน ‘ญัตติด่วน’ ที่เพื่อไทยเสนอขึ้นมาพิจารณาก่อน ปาดหน้าญัตติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่เสนอไว้ให้คาอยู่แบบนั้น หรือหากจะรักษาน้ำใจก็อาจจะให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาไปพร้อมกัน เพราะมีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน ก็ไม่น่าจะผิดกติกา
ถึงตรงนี้ก็คงเป็น หวยล๊อค ที่ประชุมคงโหวตสนับสนุนญัตติของเพื่อไทย ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสียก่อน
จากนั้น ก็รอฟังคำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญท่านจะว่าอย่างไร รับหรือไม่รับไว้พิจารณา?!
ถ้าไม่รับ ก็คงเป็นปัญหาไม่รู้จบอีก แต่ถ้ารับไว้พิจารณา อีกไม่นานเกินรอก็จะได้ ซ.ต.พ.กันเสียทีว่า ที่เถียงกันมานานเรื่องทำประชามติกี่ครั้ง ต้องทำก่อนหรือทำหลังนั้น จะได้ข้อยุติกันเสียที
สรุปง่ายๆ คือ ถ้าที่คาสภาอยู่นั้น ถูกต้องแล้ว ก็กลับมาเดินหน้าต่อ แต่ถ้าไม่ถูกจะให้ทำอย่างไร ก็กลับมาทำใหม่ให้ถูกต้องตามนั้น ซึ่งอย่างมากก็คงแค่ขอถอนร่างที่อยู่ในสภาออกมา และไปเริ่มนับหนึ่งทำประชามติถามประชาชนเสียก่อนก็เท่านั้น
ในระหว่างนี้หรือหลังมีคำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญแล้ว พรรคเพื่อไทยจะเซิ้ง หรือจะเปลี่ยนท่ามารำวงย้อนยุคอีก ก็เลือกเอาตามสะดวก
เพราะคงหมดตัวช่วย ไม่มีคำถามใดให้ถามอีก นอกเสียจากประชาชนจะหันมาตั้งคำถามกับพรรคเพื่อไทยเสียเอง!!
