‘คลิป’ เปลือยการเมือง ยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว

12 ก.ย. 2567 - 03:30

  • คลิปเสียง ส่งผลสะเทือนการเมืองไทย

  • เปิดเกมเอาคืน ใครอ่อนแอก็แพ้ไป

  • คลิปจริง หรือ คลิป Ai ไม่สำคัญเท่าทุกคนเชื่อไปแล้ว

deep-space-politic-audio-clip-SPACEBAR-Hero.jpg

ป่านนี้คนในบ้านป่า คงจับทิศทางที่มาของ 4 คลิปเสียง ที่ถูกปล่อยออกมาเขย่าการเมืองให้สะเทือนเลือนลั่นกันไปเมื่อวาน (11 กันยายน 2567) ได้แล้วว่า มีต้นตอมาจากที่ใด เป็นฝีมือใคร กลุ่มไหน ที่บรรจงปล่อยอกมาในช่วงจังหวะเวลาแบบนี้

แม้โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ‘พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย’ จะปฏิเสธเสียงแข็งว่า ‘ไม่จริง’ และโยนให้เป็นฝีมือของพวก AI ที่จัดฉากทำลาย ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรค อย่างไร้จริยธรรมก็ตาม

แต่จากเนื้อหาในคลิปทั้ง 4 ที่มีทั้งคลิปเก่าคลิปใหม่ปนกัน ก็คงพอจะแยกออกว่าในแต่ละเหตุการณ์มีใครร่วมวงอยู่บ้าง โดยเฉพาะคลิปที่ 4 น่าจะยังอุ่นๆ อยู่ เพราะพูดถึงการจัดแผน ‘นิติสงคราม’ แบ่งงานกันจะให้ใครรับบทยื่นร้องเรียนเรื่องไหน

ส่วนคลิปที่ 2 การสนทนาทางโทรศัพท์กับคนปลายสายที่ชื่อ ‘โอ๋’ เรื่องการออกจากหัวหน้าพรรค และการแบ่งเงินแบ่งทอง รวมทั้ง ‘รับเงินมาแล้วไม่จ่าย’ สันนิษฐานว่าน่าจะเก่าเก็บมาก หรือพอๆ กับคลิปที่ 3 เรื่องการจัดวางตำแหน่งข้าราชการในบางกระทรวงนั่นแหล่ะ

ในคลิปที่ 3 แม้ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ จะออกตัวเป็นคลิปเก่า ไม่มีในสมัยนี้ ซึ่งสอดรับกับที่ ‘สุทธิพงษ์ จุลเจริญ’ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า 1 ใน 4 คลิปเป็นเสียงของตัวเอง สมัยพล.อ.ประวิตร กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคงและดูแลกระทรวงมหาดไทย

‘การพูดคุยดังกล่าวเป็นการรายงานเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเสนอชื่อแต่งตั้ง นายขจร ศรีชวโนทัย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กับนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงเสนอแต่งตั้งเพื่อเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งพล.อ.ประวิตร ต้องให้ความเห็นชอบ จึงต้องนำเรียน ซึ่งท่านก็เมตตาไม่ก้าวก่าย ให้ความเห็นชอบเสนอเข้า ครม.เพื่อเห็นชอบ’

การออกมายอมรับของปลัดกระทรวงมหาดไทย อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่า 1 ใน 4 คลิปที่ถูกเปิดออกมานั้น มีที่มาที่ไปไม่ใช่ฝีมือ AI อย่างที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาโพนทะนากล่าวโทษคนอื่น

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใครจะมองอย่างไร เป็นเรื่องของ นานา จิตตัง เพราะบ้าง ‘ตำหนิสื่อ’ ที่ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือของใคร หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองกัน

แต่มีหลายคนสนับสนุนให้นำมาเปิดเผย เพราะนักการเมืองถือเป็นคนสาธารณะ และที่สำคัญเป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ของบ้านเมืองโดยตรง

จึงต้องนำมาเปิดเผยและถือโอกาส ‘เปลือยการเมือง’ ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ว่านักการเมืองเขามีอะไรกัน และทำกันอย่างไร

ส่วนจะผิดถูกอย่างไร คนที่เกี่ยวข้องหากเห็นว่าตัวเองได้รับความเสียหาย ก็คงตามไปฟ้องร้องกันเอง

ทีนี้ในทางการเมืองเป็นที่รู้กันว่า ชั่วโมงนี้เกิดปัญหา ‘ความขัดแย้ง’ หลายเรื่องในพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่การถูก ‘เขี่ย’ ออกจากการเป็นพรรครัฐบาล แต่กลับมีสส.กลุ่มหนึ่ง จำนวน 20 คน แยกตัวไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาล ซึ่งพรรคกำลังอยู่ระหว่างตั้งกรรมการสอบ

ขณะที่ในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไม่กี่วันก่อน ก็เกิดการ ‘ขัดลำ’ กันเองในกลุ่มที่เหลืออยู่ จึงทำให้พวกบ้านใหญ่และสมาชิกที่ไม่พอใจบางส่วน ถอนตัวออกจากพรรคไป

เอาเป็นว่า พลังประชารัฐยามนี้ มีทั้ง ‘ศึกนอก ศึกใน’ ไหนจะออกแบบเรื่องนิติสงคราม ชำระแค้นที่ถูกถีบออกจากรัฐบาลอย่างไม่แยแส แถมต้องมาสะสางเอาผิดคนในพรรคที่ทำตัวแตกแถวอีกต่างหาก

เมื่อเปิดศึกหลายด้าน แต่แม่ทัพ นายกอง ขุนพลข้างกาย ‘ลุงหยุม’ กลับมีฝีมือที่จำกัด อาจถนัดแต่เรื่องบุ๋น ไม่ชำนาญเรื่องบู๊ รู้เรา ไม่รู้เขา จากที่เคยขู่มีหมัดเด็ดจะแฉคลิป ครม.บ้านจันทร์ส่องหน้า

แต่ยังไม่ทันได้ขยับก็ถูกมือนิรนามปล่อยคลิปชุดใหญ่ย้อนศร สวนกลับแรงๆ ทีเดียวหลายดอก

งานนี้เห็นว่า เป้าหมายนอกจากต้องการหยุดเกมใต้ดิน เบรกนิติสงครามแล้ว ยังถือโอกาสดิสเครดิตนักร้องรายวันไปด้วยในตัว ตามสไตล์ ‘นักฆ่าลุ่มน้ำปิง’ ยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว?!

นี่คือการรุกฆาตจ้าวป่าชรา ที่วันนี้อยู่ในสภาพพยัคฆ์สิ้นลาย และดูเหมือนจะรู้ชะตากรรมต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร จึงได้สั่งอพยพออกจากบ้านป่า ไปสร้างรังใหม่รอรับวันป่าแตกเอาไว้แล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์