ไขปมมัดตราสังบิ๊กโจ๊ก จาก ‘มาดามกุ๊บ’ ถึง ‘ดร.นิดมหิดล’

25 เม.ย. 2568 - 07:01

  • ไขรหัสปฏิบัติการสะท้านผ้าเหลือง จาก ‘มาดามกุ๊บโมเดล‘ ถึง ‘ดร.นิด มหิดล’

  • เปิดโปงขบวนการโกงสอบที่หวังมัดตราสัง ย้ำฝาโลง ‘บิ๊กโจ๊ก’ แต่เรื่องนี้ ‘ไม่ง่าย’ อย่างที่คิด

deep-space-politics-transfer-position-important-big-joke-SPACEBAR-Hero.jpg

เดือนพฤษภาคม เป็นห้วงเวลาที่บรรดานักโหราศาสตร์ และบรรดาเกจิสายมู ออกมาเตือนว่าจะเป็นช่วงดาวสำคัญย้ายตำแหน่ง อันจะมีผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงรุนแรงทั้งทางการเมืองโลก และการเมืองในประเทศ และต่อบุคคลสำคัญในหลายวงการ 

ช่วงนี้นอกจากจะเห็นบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลาย เดินสายทำบุญ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทุกสารทิศแล้ว 

บางรายก็ถือโอกาสนี้ หันหน้าเข้าหาผ้าเหลือง บวชเพื่อลดความแรงของดวงดาว บ้างก็บวชเพื่อหาความสงบ บ้างก็บวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับ

ระดับบิ๊กสีกากี ที่เพิ่งบวชไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มี ‘บิ๊กแจง’ พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ที่แม้จะพยายามบวชแบบเงียบๆที่วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร โดยมีพระธรรมวชริเมธี เจ้าคณะภาคที่ 1 เป็นพระอุปัชฌาย์

แต่บรรยากาศงานบวชที่มีทั้ง อดีต ผบ.ตร. ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ‘บิ๊กต่าย’ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธ์เพ็ชร์ มาร่วมในพิธี ก็ทำเอาวัดแทบแตก

ส่วนวันธรรมดา ก็ยังเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาสีกากี ทั้งสายงานตำรวจไซเบอร์ที่เคยเป็นรุ่นน้อง และผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งสายงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเพื่อนร่วมรุ่น ตท.25 หรือ นรต. 41 ที่รวมกันอยู่ที่ สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ผลัดกันเข้าไปถวายเพลแน่นวัด 

ส่วนหนึ่งก็สะท้อนถึงบารมีของ พระแจง พล.ต.อ.กรไชย ที่ไม่ธรรมดา แม้จะเหลืออายุราชการอีกเพียง 1 ปี เพราะจะเกษียณอายุราชการในปี 2569 พร้อม **บิ๊กต่าย ผบ.ตร.**ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนรต. 41 ซึ่งอาจจะเพราะด้วยความที่เป็นผู้วางรากฐานสำคัญ ให้กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ทำให้ บิ๊กแจง หรือพระแจง เป็นนายตำรวจซึ่งมีบารมีและมีคอนเนคชั่นที่ค่อนข้างจะกว้างขวางในหลายวงการ 

ส่วนอดีตบิ๊กสีกากีอีกราย ที่ซุ่มเงียบหันหน้าเข้าหาความสงบ โดยไปบวชที่วัดไทยในอินเดีย หลังเสร็จสิ้นภารกิจรับ-ส่งคนใต้กลับภูมิลำเนาในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ก็คือ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ที่วันนี้อยู่ในระหว่างงัดทุกหลักฐาน เพื่อต่อสู้คดีที่ถูกให้ออกจากราชการในข้อหากระทำผิดวินัยร้ายแรง  

บิ๊กโจ๊ก เดินทางไปบวชที่อินเดียแบบเงียบๆ โดยมี ‘มาดามกุ๊บกิ๊บ’ ดร.ศิรินัดดา หักพาล ร่วมเดินทางไปปฏิบัติธรรมด้วย การบวชครั้งนี้ น่าจะต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะครั้งนี้ว่ากันว่า บิ๊กโจ๊ก บวช เพราะเริ่มเบื่อหน่ายความวุ่นวายที่เข้ามากดดันจากคดีที่ถูกกล่าวหา และยังมีข้อกล่าวหาเพิ่มมาเรื่อยๆ 

แต่แม้จะซุ่มไปบวชแบบเงียบๆ แต่ท้ายที่สุดก็ยังกลับมาโด่งดังอีกครั้งจากกรณี ‘ดร.นิด’ ขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ ซึ่งถูกตำรวจไซเบอร์ ที่นำโดย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจ สอท. 1 นำหมายจับไปจับกุมที่บ้านพักย่านถนนบางบอน 5 ซอย 68

ตำรวจกล่าวหาว่า ดร.นิด เป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ในการลักลอบนำข้อสอบของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อนำไปให้คนสนิทของ บิ๊กโจ๊ก ที่ประกอบด้วย พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกต และ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร โดยทั้งคู่ได้นำข้อสอบไปเพื่อประโยชน์สำหรับบิ๊กโจ๊ก ที่ขณะนั้นกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ จนเป็นผลให้บิ๊กโจ๊ก สำเร็จการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปีที่ผ่านมา 

แม้จะยังไม่พบหลักฐานชัดเจนนอกจากข้อสมมติฐาน จากการพบเส้นเงินโยงใยจากบัญชีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ดูแลอยู่ ไปยัง ดร.นิด แต่กลับมีการสาวถึงข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่าง บิ๊กโจ๊ก และ ดร.นิด ที่สนิทสนมกันตั้งแต่ร่วมกันทำวิทยานิพนธ์ในหลักสูตรปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมหิดล 

ดร.นิด ซึ่งจบปริญญาเอกมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี 2563 ถูกระบุว่า อาจมีส่วนร่วมในการทำวิทยานิพนธ์ให้กับบิ๊กโจ๊ก จนช่วยให้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก เมื่อปี 2566 และรับปริญญาในปี 2567 และถูกเชื่อมโยงว่า มีฐานะเสมือนหนึ่งเลขานุการส่วนตัวของบิ๊กโจ๊ก

ข้อมูลทั้งหมด แม้ ดร.นิด จะปฏิเสธอย่างหนักแน่น และได้รับประกันตัวไปแล้ว แต่ยังต้องพิสูจน์ข้อกล่าวหากันอีกหลายชั้น และข้อกล่าวหาทั้งหมดก็มิได้พุ่งเป้าไปที่ ดร.นิด แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่มีเป้ากระทบที่ชัดเจนยิ่ง ชัดเจนว่า หอกทั้งหมด หันคมไปยัง บิ๊กโจ๊ก ทั้งสิ้น 

ชัดเจนที่ทำให้แม้ด้านหนึ่ง บิ๊กโจ๊ก แสวงหาความสงบอยู่ที่อินเดีย แต่อีกด้านในกรุงเทพ ก็กำลังเผชิญข้อกล่าวหาใหม่ คือ จบนิติศาสตร์บัณฑิต จากการที่มีผู้ลักลอบนำข้อสอบออกมาทำให้ และอาจมีคนช่วยทำวิทยานิพนธ์แทน จนจบปริญญาเอกที่มหิดล 

ข้อกล่าวหานี้ แม้ในทางอาญาจะน้อยนิด หากเทียบการกระทำความผิดเกี่ยวพันกับเว็บพนันเถื่อน จนถูกออกจากราชการ แต่ในทางสังคม ข้อกล่าวหาจ้างคนขโมยข้อสอบ จนจบปริญญาตรี และจ้างคนทำวิทยานิพน์แทนจนจบปริญญาเอก น่าจะรุนแรงและหนักหน่วงยิ่ง

หนักหน่วงพอๆกับข้อกล่าวหาที่เคยมีการระบุถึง มาดามกุ๊บ ภรรยาบิ๊กโจ๊กว่า มีความสัมพันธ์ล้ำลึกกับนายตำรวจที่เป็นอาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และมีการลักลอบนำเงินสดจำนวนมหาศาลไปเก็บไว้ที่ห้องในคอนโดของนายตำรวจคนนั้น ซึ่งท้ายที่สุดข้อกล่าวหาดังกล่าวก็กลับโอละพ่อ เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏภายหลัง กลับเป็นอีกเรื่อง จนมาดามกุ๊บ กำลังไล่ฟ้องหมิ่นประมาทกับผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ 

รอบนี้ เมื่อข้อกล่าวหาที่จับกุมผู้หญิงอีกคน คือ ดร.นิด ขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ และมีการพาดพิงไปถึงบิ๊กโจ๊กอีกครั้ง ทั้งที่หลักฐานยังบางเบายิ่ง

โมเดลคดีมาดามกุ๊บ ก็ลอยเด่นกลับขึ้นมาอีก…

แม้ผู้บังคับการตำรวจ สอท.1 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ จะระบุว่า เป็นการดำเนินการตามหลักฐานที่ปรากฏ ไม่ได้เจาะจงที่จะตอกฝาโลงอดีตนายตำรวจใหญ่ เหมือนที่มีการตั้งข้อสังเกตและรับว่าได้ให้ประกัน ดร.นิด ไปด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนบาท เพราะเป็นคดีที่ไม่ได้มีความผิดอุกฉกรรจ์

แต่คำถามคือ คดีนี้จะเดินหน้าไปสู่โมเดลเดียวกับคดีมาดามกุ๊บ หรือไม่…?

หนึ่ง คือ คำถามสำคัญว่า นายตำรวจระดับ พล.ต.อ. ที่ผ่านคดีสำคัญๆมาเป็นจำนวนมาก และเชี่ยวชาญในข้อกฎหมาย มาตลอดชีวิตรับราชการ เมื่อมาเรียนปริญญาตรีนิติศาสตร์ ทำไมยังต้องจ้างคนขโมยข้อสอบมาให้ ในเมื่อกฎหมายที่ต้องเรียนและต้องสอบกว่าครึ่ง คือสิ่งที่ต้องเจอในชีวิตการรับราชการมาโดยตลอดอยู่แล้ว 

สอง วิทยานิพนธ์ในหัวข้อ “การใช้มาตรการที่เป็นแนวปฏิบัติที่ดีของตำรวจ ในการลดปัญหาเด็กแว้นในประเทศไทย” ก็เป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับงานที่ทำ 

สุดท้าย ดร.นิด มีฐานะที่จำเป็นต้องรับจ้างมาทำงานแบบนี้หรือไม่ เพราะประวัติ ดร.นิด นอกจากจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ฐานะทางสังคมยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 2565 ในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 กองบัญชาการตำรวจนครบาล 

รวมทั้งฐานะทางบ้านของ ดร.นิด ก็อยู่ในขั้นเป็นผู้มีอันจะกิน ว่ากันว่า ร้านค้าในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ ดร.นิด ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้ประกอบการร้านค้าในมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2562 นั้น ล่าสุด เป็นร้านกาแฟยักษ์เขียวแบรนด์เนมระดับโลก ไม่ใช่ร้านขายน้ำธรรมดาในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย

คมหอกในคดีขโมยข้อสอบ เพื่อประโยชน์ในการสอบปริญญาตรีนิติศาสตร์ รวมทั้งการจบปริญญาเอกเพราะจ้างคนทำวิทยานิพนธ์ ถ้าขว้างออกมาไม่สุดและเป้าหมายไม่แม่นพอ คนขว้างก็ต้องระวังคมหอกสะท้อนกลับเช่นกัน

ปฏิบัติการสะท้านผ้าเหลืองรอบนี้ ถ้าหลักฐานไม่ชัด ประจักษ์พยานไม่ชัดเจน ระวังจะเจอ ‘มาดามกุ๊บโมเดล’

ใครที่หวังจะมัดตราสังข์ ย้ำฝาโลง ‘บิ๊กโจ๊ก’ จะกลายเป็นปลุกผี ให้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ รอดกลับมาสร้างชีวิตที่ 10 ได้อีกครั้ง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์