หากใครได้ฟังนายกฯเศรษฐา ถุงเท้าหลากสี พูดถึงประเด็นร้อนหลังการลาออกยกคณะของ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ที่มี ‘น้องอุ้ง’ กมลนาถ องค์วรรณดี เป็นประธานฯแล้ว
ทำให้เกิดคำถามตัวโตๆ ถึงการประเมินและชั่งน้ำหนัก ‘หนัก เบา’ ของปัญหาของคนระดับผู้นำรัฐบาล ที่ดูจะมองข้ามความสำคัญของทีมงานระดับมันสมองที่อาสาตัวมาช่วยทำงานวางแผนยุทธศาสตร์ฯให้กับรัฐบาลจนน่าตกใจ
‘ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปดราม่าเลย ก็หาบุคคลเข้ามาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะแต่ละคนที่เข้ามาทำงานก็ไม่ได้เงินเดือน แต่ยังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง ซึ่งแต่ละคนอาจจะรู้ว่างานมันโหลดเยอะมากเกินไปก็อาจจะไม่ไหว และกลัวว่าคณะกรรมการจะเสียหายมั้ง ไม่มีอะไรหรอก’
ในสายตาของคนทั่วไป การลาออกของคณะอนุกรรมการฯ แบบยกชุดทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มตั้งหลัก จัดทำแผนกันได้ไม่นาน ต้องถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกติอย่างยิ่ง แต่นายกฯ เศรษฐากลับ ‘ยักไหล่’ ใส่ปัญหา แถมยังบอกอีกว่า ‘หมอมิ้ง’ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ยังไม่ได้รายงานตรงขึ้นมา แต่เห็นจาก x ที่หมอมิ้งทวิตว่า จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการชุดใหม่ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้
ทุกอย่างมันง่ายขนาดนั้นในสายตาของประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นายกฯเศรษฐาไม่แม้แต่จะสอบถามสาเหตุของปัญหาว่า ทำไมจู่ๆ คณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้ถึงพร้อมใจยื่นลาออกแบบยกชุด และคิดว่าสามารถแก้ปัญหาง่ายๆ เหมือน ‘เปลี่ยน’ ถุงเท้าหลากสีตามใจชอบ เมื่อชุดเก่าลาออกไปก็ตั้งชุดใหม่เข้ามาก็จบ ง่ายๆ แค่นั้นเอง
เช่นเดียวกับ แม่ทัพใหญ่ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ก็ดูจะคิดคล้อยตามไปในทิศทางเดียวกัน คือเชื่อตามคำชี้แจงของ ‘หมอมิ้ง’ พี่เลี้ยงข้างกาย ที่บอกว่าคณะอนุกรรมการฯ ส่วนใหญ่มาทำงานด้วยจิตอาสา แต่เกรงว่าการทำงานในช่วงต่อไปอาจจะหนัก และไม่มีเวลามากพอที่จะลงไปช่วยขับเคลื่อนแผนงาน จึงเปิดทางให้มีการตั้งอนุกรรมการฯชุดใหม่มา ‘ลุยงาน’ แทน
แต่หากนายกฯ เศรษฐา และ อุ๊งอิ๊ง ไตร่ตรองสักนิด พินิจเนื้อความในจดหมายของ ‘น้องอุ้ง’ ที่ส่งตรงถึงตัวท่านทั้งสองคน ก็จะพบร่องรอยของปัญหาบางอย่าง เพราะในจดหมายระบุว่า
คณะอนุกรรมการและที่ปรึกษาฯ ได้ร่วมกันดำเนินการรวบรวมข้อมูลและจัดทำนโยบายและแผนงาน ตลอดจนกำหนดแนวทางและมาตรการในการส่งเสริมการใช้กลยุทธ์ซอฟต์พาวเวอร์เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอในขั้นตอนแรกซึ่งเป็นรากฐานสำคัญ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยงานดังกล่าวได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ที่คณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้ที่สู้อุตส่าห์ ‘อดตาหลับ ขับตานอน’ ช่วยกันวางกรอบกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย
แต่หลังจากทำข้อเสนอเสร็จกลับตัดสินใจทิ้งงาน วางมือไปดื้อๆ โดยให้เหตุผลสุดพิลึกว่า งานขั้นต่อไปอาจจะเกินความสามารถที่จะบริหารจัดการเวลาในการติดตาม ลงรายละเอียด ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานในความรับผิดชอบให้แผนงานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคณะอนุกรรมการและที่ปรึกษาต่างมีภารกิจ และหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพในการดำเนินธุรกิจของแต่ละคน
พร้อมกับตบท้ายจดหมายแบบหักมุมชนิดไม่เกรงใจว่า
ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยุติการทำงานในตำแหน่งสำคัญนี้ และขอขอบคุณที่ให้โอกาสมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ด้านแฟชั่นของไทย
ความจริงหาก นายกฯเศรษฐา และ อุ๊งอิ๊ง ลองกดเข้าไปอ่านโพสต์ที่อยู่ในเฟซบุ๊กของ ‘อุ้ง’ Kamonnart Ong หลายๆโพสต์ ก็จะเข้าใจทันทีถึงปัญหาที่ผ่านมา ซึ่งชนวนเหตุสำคัญน่าจะมาจากการจัดงานอีเวนต์ใหญ่ Thailand Soft Power x Guinness World Records Challenge ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะจัดขึ้นใน วันที่ 21-27 กุมภาพันธ์นี้ ที่ลานน้ำพุ พาร์คพารากอน สยามพารากอน
อีเวนต์ดังกล่าว ตั้งใจที่จะโปรโมท ซอฟต์พาวเวอร์ 5 ด้านของไทย คือ มวยไทย อาหาร เทศกาล ภาพยนตร์ และ แฟชั่น โดยการแข่งขันความเร็วในการ ชกลูกโป่ง ทานปาท่องโก๋ ใส่หน้ากากผีตาโขน ทานป๊อปคอร์น และ ใส่กางเกงช้าง
โครงการมีการนำเสนอและผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ให้ดำเนินการ โดยที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากอนุกรรมการทั้ง 5 ด้าน ที่ทำให้ตัวประธานอนุกรรมการด้านแฟชั่น คือ ‘อุ้ง’ กมลนาถ ถึงกับโพสต์ออกตัวเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า
คณะอนุกรรมการฯ สาขาแฟชั่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับไอเดีย Guinness นี้
ยิ่งไปกว่านั้นยัง **‘แขวะ’**แรงว่า
อยากเห็นหน้าคนอนุมัติงบมาก ห้ามก็ไม่ได้ ปรึกษาก็ไม่ปรึกษา คิดกันเองเห็นดีเห็นงามกันเอง ทำแล้วได้อะไรคะ ทีมเอกชนอาสาทำงานกันหนักมาก เพื่อวางกรอบคิดการพัฒนาอุตสาหกรรม ในขณะที่หน่วยงานทำอีเวนต์จุดพลุแล้วไงต่อ สร้าง value อะไรขึ้นมา
ก่อนตบหน้าฉาดใหญ่
ฝากหน่วยงานทุกหน่วยที่อยากเอาใจนาย ก่อนจะทำอะไรปรึกษาหารือกรรมการยุทธศาสตร์ หรือคิดให้รอบด้านด้วยค่ะ เงินภาษีประชาชน
โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้ามาให้ความเห็นถล่มทลายและถูกดแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ที่ดูเหมือนจะ ‘ตรงจัด ชัดเจน’ ที่สุด ก็คือ
Soft power = งบประมาณ สำหรับโปรโมตแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ถึงเวลาก็ ขอบคุณแสดงความยินดี มีป้าย ING ไปแปะเคลม
หากนายกฯ เศรษฐา และ อุ๊งอิ๊ง เพียงแค่ลองเข้าไปอ่านโพสต์ และอ่านความเห็นให้หมด ก็น่าจะตอบทุกคำถาม และคงจะทำให้เข้าใจได้ทันทีว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น และอนาคตของเรือธงลำนี้ของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ...