หากถือเอา ‘ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์’ เป็นหมุดหมายที่ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ นารีขี่ม้าขาว อดีตนายกฯ หญิงคนแรกของไทย ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ต่างแดนจะได้ฤกษ์เดินทางกลับประเทศ ตามที่ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชาย ประกาศไว้
นับจากนี้ไปก็เหลือเวลาอีกราวสามเดือน และอาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำ เพราะล่าสุดทักษิณให้สัมภาษณ์ นิคเคอิ เอเชีย ว่าอาจจะเร็วกว่านั้นเล็กน้อย เอาเป็นว่าช้าเร็วคงไม่เกินสามเดือนต่อจากนี้
แต่คำถามคือ จะใช้ช่องทางไหนในการเดินทางกลับประเทศไทย?!
ก่อนหน้านี้หลายคนเคยเดาทางกันไปต่างๆ นานา ทั้งการเดินทางกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ใน**‘ช่องทางเดียวกับทักษิณ’** หรือจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้น ณ สถานทูตไทยแห่งใดแห่งหนึ่ง ที่เสมือนเป็นพื้นที่ของประเทศไทยเช่นกัน
จากนั้น เมื่อเคลียร์ทุกอย่างจบ มาลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมืองแล้ว ก็เดินตัวปลิวกลับเข้าบ้าน ถนนโยธี ย่านเลียบด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา ไปได้เลย ประมาณนั้น
ผ่านมาถึงวันนี้ย่างเข้าสู่ปีที่แปดแล้ว ที่อดีตนายกฯ คนที่ 28 หลบหนีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ หลังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในวันที่ 27 กันยายน 2560
หากยิ่งลักษณ์ จะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในช่องทางปกติ ไม่อาศัยช่องทางพิเศษใด คงกลับมานานแล้ว ไม่ต้องรอฤกษ์ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง นอนหนาวเล่นอยู่เมืองนอกนานถึงวันนี้หรอก
นั่นแสดงว่า ต้องการใช้ช่องทางพิเศษ ที่อยู่ระหว่างการเคลียร์รันเวย์อยู่?!
ล่าสุดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้พูดถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไว้ว่า
‘ก็คงอยากกลับตามธรรมดาของคนที่ไปอยู่ต่างประเทศ คงอยากกลับบ้าน เพราะไม่มีที่ไหนมีความสุขเท่ากับบ้านเรา แต่ทุกอย่างต้องมีกระบวนการ ทุกกอย่างต้องมีเหตุและผล ถ้าเข้ามาโดยมีเหตุและผล มีกติกา มีกฎหมายยอมรับ ก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร
ก็ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม นางสาวยิ่งลักษณ์เคยถูกข้อกล่าวหาอะไร ก็ต้องเคลียร์ข้อกล่าวหานั้นให้มันจบ และมีกระบวนการยุติธรรมในหลายๆ มิติ ก็ใช้กระบวนการยุติธรรมนั้น ถ้าใช้ได้ เป็นกระบวนการยุติธรรมที่มีการเสนอ ก็ไม่มีปัญหาอะไร’
จับสัญญาณจากคำพูดของรองฯ อ้วน เจ้าของฉายา ‘สหายใหญ่ใส่บูต’ มีคำที่ต้องขีดเส้นใต้หนาๆ อยู่ 3 ประโยคสำคัญ คือ
หนึ่ง ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม
สอง มีกระบวนการยุติธรรมในหลายๆ มิติ ก็ใช้กระบวนการยุติธรรมนั้น
สาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยถูกข้อกล่าวหาอะไร ก็ต้องเคลียร์ข้อกล่าวหานั้นให้มันจบ
ทั้งสามข้อล้วนให้ใช้ช่องทางผ่านกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น และมีหลายมิติ พูดง่ายๆ คือ ช่องทางไหนที่ ‘ถูกโฉลก’ ก็เลือกใช้ช่องทางนั้นแหล่ะ
แต่ที่น่าสนใจและต้องขีดเส้นใต้หนากว่าข้ออื่นๆ คือข้อที่สาม เพราะดูเหมือนจะยังมองปัญหาที่เกิดขึ้นเป็น ‘ข้อกล่าวหา’ และต้องเคลียร์ข้อกล่าวหานั้นให้มันจบก่อน
ถ้าจะใช้วิธีหลังนี้ ต้องใช้เวลาอีกนาน คงกลับประเทศไทยภายในสามเดือนนี้ไม่ทันแน่ๆ หากจะต้องรื้อฟื้นคดีที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา และคดีถึงที่สุดไปแล้ว มาพิสูจน์กันใหม่
