ยุบพรรคก้าวไกล สารตั้งต้นจุดชนวนการเมืองร้อน

18 ก.ค. 2567 - 07:16

  • จับตาเดือนสิงหาคม การเมืองอาจถึงจุดเปลี่ยน

  • การตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล จะอยู่หรือไป

  • คดีถอดถอนนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินก็จะมีบทสรุป

dissolution-move-forward-party-SPACEBAR-Hero.jpg

ช่างบังเอิญอย่างเหลือร้าย ที่การนัดหมายฟังคำตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล ของศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 7 สิงหาคมเดือนหน้า ไปตรงกับวันทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับปี2560 เมื่อแปดปีที่แล้ว ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม 2559

หากถอยไปไกลกว่านั้น วันที่ 7 สิงหาคม 2508 เป็น ‘วันเสียงปืนแตก’ หรือแตกเสียงปืนของชาวพลพรรค ‘คอมมิวนิสต์’ ไทย ที่เริ่มต้นต่อสู้ด้วยอาวุธกับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นครั้งแรกที่บ้านนาบัว อ.เรณูนคร จ.นครพนม อันเป็นการต่อสู้ระหว่างอำนาจรัฐกับประชาชน ซึ่งเป็นความขัดแย้งของคนในชาติด้วยกันเมื่อ 59 ปีที่แล้ว

บังเอิญทั้งสองเหตุการณ์หลัง เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดหมายฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ที่ใช้เวลาต่อสู้กันมานานข้ามปี และมาตัดสินเอาในวันที่ 7 สิงหาคมนี้พอดี เพียงแต่ต่าง พ.ศ.กันเท่านั้น

แค่หยิบเอาเหตุการณ์ในอดีตมาให้ได้เห็นว่า ‘มีอะไรเกิดขึ้น’ บ้างในวันเดียวกันนี้

ส่วนคนในพรรคก้าวไกล และชาวสีส้มจะ ‘ชอบหรือไม่ชอบใจ’ อย่างไร ก็คงเลือกไม่ได้แล้ว เหมือนกับที่ ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกปากบอกนักข่าวไปว่า เสียดายที่ศาลไม่เปิดไต่สวนนั่นแหล่ะ 

เหลือแต่ไปรอลุ้นอย่างเดียวว่า 7 สิงหาคมนี้ ผลจะออกมาเป็น **‘บวกหรือลบ’**เท่านั้น

เรื่องยุบพรรคก้าวไกล แม้ ‘เดอะ ต๋อม’ ชัยธวัช ตุลาธน จะตอบนักข่าวที่ถามนำ ‘ยังมีแนวโน้มพรรคจะถูกยุบอยู่หรือไม่’ ในอารมณ์แบบทีเล่นทีจริงว่า 

‘น่าจะไม่ยุบแล้วมั๊ง ?????!!!!! ’

ไม่ว่าจะมั่นใจหรือคิดเข้าข้างตัวเองขนาดไหนก็ตาม มาถึงนาทีนี้ทั้งกองเชียร์และกองแช่ง ต้องรอฟังคำตอบจากศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนว่า หากผลออกมาเป็น ‘บวก’ กับพรรคก้าวไกล การเมืองแบบไทย ๆ ก็เดินหน้าไปต่อ 

คงไม่มีใครที่ผิดหวังพรรคก้าวไกลไม่ถูกยุบ แล้วพากันลุกขึ้นมาเผาบ้านเผาเมืองหรอก

ในทางกลับกัน หากผลออกมาเป็น ‘ลบ’ กับพรรคก้าวไกล ตามครรลองกฎหมาย เมื่อพรรคถูกยุบก็สิ้นสภาพไป ใครที่เป็นกรรมการบริหารพรรค ณ วันที่กระทำความผิด ก็ต้องถูก ‘ตัดสิทธิ’ การเมือง 10 ปี ส่วน สส.ก็ไปหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน

ส่วนจะเกิดปรากฎการณ์**‘ผึ้งแตกรัง’** เกิด **‘งูเห่าสีส้ม’**ภาคใหม่ หรือพรรคไหนใครจะมาช้อนซื้อสส.สีส้มไปเข้าพรรคเพิ่มพลังต่อรองทางการเมืองให้ตัวเองหรือไม่ ตรงนี้จะเป็นปฐมบทนำไปสู่จุดเปลี่ยนทางการเมืองขึ้น

ยิ่งสัปดาห์ถัดไป หากศาลนัดฟังคำตัดสินคดี ‘ถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน’ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าผลออกมา ‘ไม่รอด’ ยิ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ เพราะต้องล้างไพ่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ หาตัวนายกรัฐมนตรีกันใหม่

เพียงแค่นึกก็ได้เห็นภาพการ ‘สลายขั้ว’ ทางการเมืองอีกครั้ง และเมื่อมีการล้างไพ่เกิดขึ้น คำว่า ตระบัดสัตย์ หรือผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ที่เป็นรอยตราบาปอยู่บนหน้าผาก ก็จะค่อยๆ จางลง พอๆ กับความเป็น ‘พรรคเทพ-พรรคมาร’ ในอดีตที่หลงลืมกันไปนานแล้ว 

ทีนี้การเมืองในเดือนสิงหาคมจะร้อนแรงขนาดไหน คงนับหนึ่งกันที่คดียุบพรรคก้าวไกลก่อน หากผลออกมาไม่รอด ก็จะเกิดแรงปะทุขึ้นตั้งแต่วันนั้น โดยเฉพาะอารมณ์ ‘ความไม่พอใจ’ ของมวลชน ที่ได้รับการปูพื้นทางความคิดจากข้อมูลที่แกนนำพรรคก้าวไกล นำออกมาสื่อสารผ่านการแถลงนอกศาลครั้งแล้วครั้งเล่า

ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่แยกแยะให้เห็นชัดเจนอันไหนเป็นเรื่องเก่า อันไหนเป็นเรื่องใหม่ แต่ถูกฝ่ายความมั่นคงนำมายัดลงในเข่งเดียวกัน จนถูกเหมารวมเป็นการ ‘เซาะกร่อนบ่อนทำลาย’ และนำมาใช้เป็นสารตั้งต้นร้องยุบพรรคก้าวไกลในที่สุด

นอกจากนั้น ยังมีมุมมองของนักกฎหมายใหญ่ ที่เปลืองตัวมาเป็นหนึ่งในพยานปากสำคัญอย่าง ‘ดร.สุรพล นิติไกรพจน์’ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เป็นอีกหลักในฐานะของนักกฎหมายมหาชน ที่ถูกนำมาอธิบายในเรื่องนี้

เอาเป็นว่า หลังการยุบพรรคก้าวไกล อุณหภูมิทางการเมืองจะค่อย ๆ เพิ่มความ ‘ร้อนแรง’ ขึ้นเป็นลำดับ จากสารพัดปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องที่รุมเร้า รวมทั้ง การกลับเข้าสู่การเมืองแบบเต็มตัวของ ทักษิณ ชินวัตร หลังการพ้นโทษในวันที่ 22 สิงหาคม 

หรือแม้แต่กระแสข่าวการเตรียมเดินทางกลับไทยของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะกลับมาในเดือนตุลาคมนี้ ก็จะเป็นเชื้อที่กระพือโหมความร้อนแรงอุณหภูมิทางการเมืองเช่นกัน

จึงไม่แปลกที่วันก่อน ผู้กำกับ สน.นางเลิ้ง ได้ไปยื่นร้องศาลแพ่ง ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ที่ปักหลักพักค้างมานาน 5 เดือน ‘เลิกการชุมนุมภายใน 7 วัน’ เสมือนเป็นการเคลียร์ที่ทางไว้รอ ไม่ให้เป็นหัวเชื้อให้กับกลุ่มต้านทักษิณ ที่เตรียมการ ‘ก่อหวอด’ จะกลับมาอีกครั้ง

ทั้งเรื่องคดียุบพรรคก้าวไกล คดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา และการหวนคืนสู่การเมืองของทักษิณ ชินวัตร ที่จะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม จะทำให้อุณหภูมิการเมืองในเดือนนี้ร้อนผ่าวขึ้น และถ้าจัดการไม่ดีอาจได้เห็นการ **‘เผชิญหน้า’**ทางการเมืองกลับมาอีกครั้ง

การยุบพรรคก้าวไกล จึงเป็นทั้งสารตั้งต้น เป็นทั้งชนวนความร้อนแรงทางการเมืองรอบใหม่ ที่จะเริ่มนับหนึ่งในเดือนสิงหาคมนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์