พนันออนไลน์เสรี ตราบาปรัฐบาล ‘อิ๊งค์’

9 ม.ค. 2568 - 02:31

  • จบจากนโยบายกาสิโนเสรี ก็มีความพยายามครั้งใหม่

  • พนันออนไลน์เสรี จากที่อยู่ใต้ดิน ถูกนำมาอยู่บนดินให้ได้เล่นกัน

  • ทั้ง 2 เรื่อง กำลังกลายเป็นตราบาปของรัฐบาล

economic-business-free-online-gambling-paethongtarn-SPACEBAR-Hero.jpg

มันเป็นเรื่องน่าอึดอัด ชวน‘พะอืดพะอม’หวานอมขมกลืน ซึ่งพอจะเข้าใจได้กับอาการของนายกฯ ‘อิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร ที่ต้องคอยออกมา ‘แก้ต่าง’ แทนผู้เป็นพ่อจากวาทกรรมที ‘ล้นเกิน’ พร้อมๆกับความพยายามในการยืนยันถึงบทบาทของตัวเองว่าเป็นนายกฯตัวจริง

แทบจะไม่มีใครเชื่อ เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงหลัง ๆ ผู้ช่วยหาเสียง ผู้เป็นพ่ออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร มักจะ ‘ก้าวข้ามเส้น’ ออกมาแสดงบทบาทของการเป็นผู้ยึดกุมอำนาจทางการเมืองตัวจริง และเป็นผู้กำหนดทิศทางและนโยบายในด้านต่างๆของรัฐบาลชุดนี้ จนกลายเป็นเรื่อง ‘ปกติใหม่’ อย่างไม่อาจปฎิเสธได้ 

ถึงแม้ นายกฯอิ๊งค์ จะพยายามอธิบายว่าเป็นธรรมดาของคนเป็นพ่อ-ลูกกัน และสิ่งที่อดีตนายกฯทักษิณพูดในหลาย ๆ เรื่องก็มีประโยชน์นำมาประยุกต์ใช้ได้ เพราะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ จะนำมาปฎิบัติหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายบริหาร เพราะหลาย ๆ เรื่องต้อง**‘ผ่าน’** มติพรรค มติครม. ก่อนที่จะนำไปปฎิบัติ 

แต่หากยอมรับความจริง นายกฯอิ๊งค์ ต้องยอมรับว่าเกือบทุกเรื่องที่ ผู้ช่วยหาเสียง แสดง ‘วิชั่น’ ส่งสัญญาณออกมาในทุก ๆ เวที เปรียบเสมือน ‘ใบสั่ง’ ที่บรรดารัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะจากปีกพรรคเพื่อไทย ต้อง ‘ลุกลี้ลุกลน’ ออกมา ‘เด้ง’ รับไป ‘เทค แอคชั่น’ ทันที 

ล่าสุดในเวทีหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อดีตนายกฯทักษิณก็แสดง วิชั่นในการแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ ด้วยการระบุว่าจะนำขึ้นมา ‘บนดิน’ แต่จะกำหนดไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เล่นพนัน แต่ถ้าอายุเกิน เล่นจนติดพนัน จะมีการนำไปบำบัดทางจิต เพื่อให้สามารถเก็บภาษีเข้ารัฐ โดยคาดว่ามีเม็ดเงินในธุรกิจพนันออนไลน์หมุนเวียนอยู่ไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี

หลังจากอดีตฯนายกทักษิณออกมาส่งสัญญาณ ทั้งที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไรในรัฐบาล แต่ปฎิกิริยาที่ตามมาคือ คนในรัฐบาลอย่าง รองนายกฯและรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ กลับออกมา **‘เด้ง’**รับนโยบายไปปฎิบัติทันที เพื่อให้เข้าตา ‘นายใหญ่’

โดยระบุว่า การเอานำการพนันออนไลน์จาก**‘ใต้ดิน’** ขึ้นมา ‘บนดิน’ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากธุรกิจสีเทาหลายเรื่อง และน่าจะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้เก็บภาษีได้ตามกฎหมาย พร้อมกับระบุว่ากำลังเร่งศึกษาและผลักดันในเรื่องนี้ต่อไป 

ก่อนหน้านี้ ถึงแม้รัฐบาลจะมี ‘ไอเดีย’ หรือ แนวคิดในการผุดโครงการสถาบันบันเทิงครบวงจร เพื่อเปิดให้มีบ่อนกาสิโนแบบถูกกฎหมายขึ้นมา โดยอ้างว่าเพื่อกระตุ้นการลงทุน และต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ตามแนวคิดของ อดีตนายกฯทักษิณ 

โดยคาดว่า คณะรัฐมนตรี จะมีการนำ ‘ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร’ เสนอต่อรัฐสภาในสมัยการประชุมนี้ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากภาคประชาชน ที่หวั่นถึงผลกระทบทางสังคมที่จะตามมา แต่คงไม่มีใครคิดว่า 

อดีตนายกฯทักษิณจะมีแนวคิดไปไกลสุดกู่ถึงขนาดจะนำธุรกิจพนันออนไลน์ขึ้นมาอยู่บนดินอย่างถูกกฎหมาย

เมื่อปีที่แล้ว ศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน ของ ‘รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์’ ได้จัดให้มีการศึกษาพฤติกรรมการเล่นพนันออนไลน์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ พบว่าในปี 2566 มีคนรุ่นใหม่ ในวัย 15-25 ปี ตกเข้าไปอยู่ในวงจรอุบาทว์ของการเล่นการพนันออนไลน์เกือบ 3 ล้านคน มากกว่าการเล่นพนันแบบ **‘ออฟไลน์’**ถึงกว่าล้านคน และมีวงเงินที่สูญเสียจากการเล่นพนันคิดเป็นมูลค่ากว่า 5.8 หมื่นล้านบาท โดยมีการพนันยอดฮิต คือ ตู้สลอตแมชชีน หรือตู้พนัน ตามมาด้วย หวยใต้ดิน พนันทายผลฟุตบอลออนไลน์ สลากกินแบ่งรัฐบาล และ เกมไพ่โป๊กเกอร์ 

ทั้ง ๆ ที่การพนันออนไลน์ ยังคงผิดกฎหมาย แต่ทุกๆปีเด็กและเยาวชนไทยก็จะตกเป็นเหยื่อกลายเป็นนักพนันหน้าใหม่ ก้าวเข้าสู่วงจรอุบาทว์ที่บรรดาธุรกิจพนันออนไลน์อาศัยเทคโนโลยีในการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กลายเป็นสวนสนุกที่ไร้ทางออกซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. 

โดยมีการเชิญชวนและกระตุ้นความสนใจผ่านสื่อออนไลน์หลากหลายช่องทาง รวมทั้งมีการใช้อินฟลูเอนเซอร์ ในการโฆษณาโน้มน้าว ด้วยวิธีการสารพัดรูปแบบ 

ไม่เพียงกลุ่มคนรุ่นใหม่และเยาวชนจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มผู้สูงวัย ก็เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของธุรกิจพนันออนไลน์เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีผู้ที่จะพลัดหลงเข้ามาไม่มากนัก แต่เม็ดเงินในการเล่นพนันต่อรายจะมีสูงกว่า เนื่องจากมีเงินออม เช่นเดียวกับกลุ่มคนวัยทำงานที่มีรายได้ แต่หวังจะอยากเข้ามา ‘เสี่ยงโชค’ แต่สุดท้ายก็มักจะตกไปสู่ ‘หลุมดำ’ แห่งความโลภ 

ข้ออ้างที่บอกว่าการเอาธุรกิจพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมายจะทำให้มีการจัดระเบียบให้เล่นพนันเฉพาะบุคคลที่มีอายุเกิน 20 ปี และหากใครติดการพนันจนมีปัญหาชีวิตจะมีการส่งไปบำบัด 

ก็เป็นเพียงวาทกรรมแบบ ‘โลกสวย’ ที่ไม่มีทางเป็นไปได้

รัฐบาลอาจจะสามารถเก็บรายได้ภาษีบาปจากทุนสีเทาที่จะแปลงร่างขึ้นมาอยู่บนดินได้จำนวนหนึ่ง ในขณะที่อาจจะเป็นโอกาสหาผลประโยชน์ของทุนการเมืองที่ใกล้ชิดรัฐบาล 

แต่หากมองถึงเงินจากคนไทยที่จะต้องตกเป็น ‘เหยื่อ’ หรือกลายเป็น ‘ผีพนัน’ ที่จะหลั่งไหล ถูกดูดเข้าไปสู่วงจรธุรกิจพนันออนไลน์หลายแสนล้านบาท ที่จะย้อนกลับไปสร้างปัญหาชีวิตด้านการเงิน และนำไปสู่ปัญหาทางสังคมกระทบไปถึงหน่วยเล็กที่สุด 

แต่เป็นรากฐานสำคัญที่สุดของสังคม อย่างสถาบันครอบครัว รวมทั้งอาจเป็นบ่อเกิด ปัญหาอาชญากรรม จนอาจนำไปสู่หายนะและนำไปสู่การล่มสลายของสังคมไทยในที่สุด จึงเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะมองในมุมไหนก็เป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง

นายกฯ ‘อิ๊งค์’ แพทองธาร ควรจะตระหนักและเห็นถึงมหันตภัยทางสังคมหากปล่อยให้ ธุรกิจพนันออนไลน์ ถูกดึงขึ้นมาบนดิน และเธอคงไม่อยากเห็นสังคมไทยต้องล่มสลายกลายเป็นดินแดนแห่งอบายมุข ในยุคสมัยที่ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี 

ในฐานะคนรุ่นใหม่ และในฐานะคุณแม่ลูกสองของน้อง ‘ธิธาร’ และ ‘ธาษิณ’ ที่สำคัญในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของไทย นายกฯ ‘อิ๊งค์’ คงไม่อยากสร้าง ‘ตราบาป’ ที่จะต้องถูกจารึกไว้ว่าเป็นผู้อนุมัติให้ ธุรกิจพนันออนไลน์ กลายเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายที่นำไปสู่การล่มสลายของสังคมไทยในอนาคต 

ทั้งหมดคงต้องขึ้นอยู่กับความกล้าหาญทางการเมืองที่ยึดประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และกล้าพอที่จะเล่นบท ‘เด็กดื้อ’ กับผู้เป็นพ่อหรือไม่ เพราะมันจะเป็นบทพิสูจน์ถึงภาวะความเป็นผู้นำ และช่วยสร้างภาพลักษณ์ของการเป็น ‘ผู้นำตัวจริง’ ที่ไม่ได้ถูกครอบครองและครอบงำจากผู้เป็นพ่อได้เสียที...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์