รัฐบาลเสพติด ‘พนัน’ ดัน กอช.ออก ‘หวยเกษียณ’

4 ธ.ค. 2567 - 02:31

  • รัฐบาลเสพติดพนัน ผลักดันให้ออกหวยเกษียณ

  • ใช้กองทุนการออมแห่งชาติเป็นตัวหลัก

  • ออกหวยขูดสัปดาห์ละครั้ง รางวัลที่หนึ่ง รับ 1 ล้านบาท

economic-business-government-retirement-lottery-SPACEBAR-Hero.jpg

ในที่สุดหลังจากพยายามปลุกปั้นมาเป็นเวลานานสองนานรมช.คลัง ‘อ๊อฟ’ เผ่าภูมิ โรจนสกุล ก็สามารถผลักดันผลงานชิ้น ‘โบว์แดง’ ของตัวเองออกมาเป็นผลสำเร็จเสียที หลังจากแทบไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จะทำให้ภาคภูมิใจ

ทั้ง ๆ ที่นั่งในตำแหน่งมาแรมปี คือการทำคลอด ‘หวยเกษียณ’ ที่จับเอานิสัยชอบเสี่ยงดวง เล่นพนันของคนไทยมาใช้เป็นกลไกในการส่งเสริมการออมเพื่อวัยเกษียณ โดยใช้กองทุนการออมแห่งชาติ เป็นเครื่องมือ  

เมื่อวานนี้ (3 ธันวาคม 2567) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการแก้ไขร่าง พรบ.กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอให้ทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเรื่อง แนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติเพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ โดยมีการเปลี่ยนชื่อโครงการ จาก ‘โครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ’ เป็น ‘โครงการสลากออมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลากเกษียณ)’ และเพิ่มเติมหลักการให้ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปี ให้สามารถซื้อสลากของกองทุนต่อไปได้อีก 10 ปี 

ในการจัดทำโครงการดังกล่าว รัฐบาลจะมีการจัดสรรงบประมาณเบื้องต้นให้กับกองทุนการออมแห่งชาติ ในการดำเนินโครงการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการ**‘แก้ไขเพิ่มเติม’** วัตถุประสงค์ของกองทุนการออมแห่งชาติให้รวมถึงการส่งเสริมการออมทรัพย์ โดยการออกและขายสลากฯ 

นอกจากนี้มีการกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกที่ซื้อสลากฯ ให้ครอบคลุมทั้งสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติในปัจจุบัน และผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม 2533 ซึ่งเป็นผู้มีอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบที่ไม่มีนายจ้าง เช่น พ่อค้า แม่ค้า แม่บ้าน รับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์  

วัตถุประสงค์หลังของสลากเกษียณ เพื่อสร้าง**‘แรงจูงใจ’**ให้สมาชิกมีการซื้อสลากฯ ที่ถือเป็นการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง รวมทั้งช่วยเป็นกลไกการออมเพื่อการชราภาพสำหรับแรงงานนอกระบบให้มีการสะสมเงินออมได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อรองรับการเกษียณ และการเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ของไทย ตามรูปแบบที่กำหนดคือ 

สมาชิกประเภท ก. คือ สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติที่ส่งเงินสะสมเข้ากองทุนฯ

สมาชิกประเภท ข. คือ สมาชิกของกองทุนประกันสังคมที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จะมีสิทธิ์ในการซื้อสลากเกษียณที่ออกขาย โดยสมาชิกที่ซื้อสลากฯต่อเนื่องจนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิซื้อต่อเนี่องไปอีก 10 ปี โดยจะได้รับเงินเกษียณจากเงินที่ซื้อสลากฯสะสมไว้จากจากกองทุนฯ  

มีการกำหนดราคาขายสลากฯแบบขูดดิจิทัลใบละ 50 บาท จำนวน 5 ล้านใบต่องวดต่อสัปดาห์ จำนวน 52 งวดต่อปี หรือเท่ากับ 260 ล้านใบ คิดเป็นเม็ดเงินราวปีละ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยสมาชิกสามารถซื้อสลากฯผ่านแอปพลิชันได้รวมกันไม่เกินเดือนละ 3,000 บาท และจะมีการออกสลากทุก ๆสัปดาห์ในวันศุกร์ เวลา 17:00 น.

สลากเกษียณดังกล่าวจะมีการกำหนดรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาทจำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1 พันบาท จำนวน 1 หมื่นรางวัล คิดเป็นรางวัลราวปีละ 780 ล้านบาท 

เงินที่ได้รับจากการซื้อสลากฯถึงแม้จะไม่ถูกรางวัลจะถูกนำไปเก็บสะสมให้กับสมาชิกเพื่อรับเป็นเงินบำนาญเมื่อเกษียณอายุ หรือหากถึงแก่ความตาย กอช.จะจ่ายเงินที่ซื้อสลากฯ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่บุคคลซึ่งสมาชิกผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้หรือทายาท ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้แรงงานนอกระบบเกิดการออมมากขึ้น 

คาดว่าหากนำ ร่างพ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติฯ เสนอเข้าสู่สภาฯได้ทันในสมัยประชุมหน้า และผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา บรรดาคนชอบเสี่ยงดวงก็จะมีของชิ้นใหม่ให้ได้เสี่ยงดวงกันเพิ่มขึ้นอีกทุกสัปดาห์ในราวต้นปีหน้า

โดยคราวนี้ต่อให้ซื้อแล้วไม่ถูกรางวัล เงินก็ยังไม่ตกน้ำหายไปไหน แต่จะกลายเป็นเงินออมเอาไว้ใช้หลังเกษียณ ซึ่งหากซื้อหวยเกษียณเดือนละ 3 พันบาท ต่อเนื่องถึง 30 ปี (3,000 x 12 x 30 = 1,080,000) ก็สามารถจะมีเงินหลังเกษียณแตะหลักล้านบาทได้อย่างสบาย ๆ ...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์