บัญชีโยกย้ายนายทหารระดับนายพลของกองทัพบกปีนี้ แม้จะดุเดือดและเต็มไปด้วยเรื่องที่เล่าได้ และเล่าไม่ได้ แต่ที่สุด กองทัพบก ก็คือ กองทัพบก ความมีวินัยที่เข้มข้น ทำให้ทันทีที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯโผทหารลงมา ความเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงก่อนหน้านี้ ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
คนสมหวัง ก็เตรียมตัวเข้ารับหน้าที่ใหม่ คนผิดหวังก็น้อมรับ กลืนเลือดไปสู้กันใหม่ปีหน้า
เรื่องจะออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นทางลบ เรื่องโจมตีกันผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่มีเกิดขึ้น สำหรับกองทัพบก
เพราะเมื่อพิจารณาการจัดวางขุมกำลังแต่ละส่วนในปีนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก จัดวางหลายตำแหน่งได้อย่างลงตัว โดยยึดภารกิจเป็นหลัก มากกว่าจะมองที่ตัวบุคคล
กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นกองทัพหลัก แม้จะมีศึกสายเลือดระหว่างรุ่น ระหว่าง ตท.27 และ ตท.28 ในการช่วงชิงตำแหน่งแม่ทัพภาค และถูกตั้งข้อสังเกตถึงนายทหารระดับผู้บัญชาการกองพลหลัก ที่ส่วนใหญ่เติบโตมาจาก กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือทหารเสือราชินี
แต่เมื่อลงลึกในรายละเอียด จะเห็นสิ่งที่ ‘บิ๊กต่อ’ ใช้ความละเมียดอย่างยิ่งในการจัดวาง และบริหารความขัดแย้งไม่ให้ขยายวงกว้าง
ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 แม้จะเป็น แม่ทัพใหญ่ พล.ทำ.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แต่ ‘บิ๊กต่อ’ ก็ไม่ได้หักหาญน้ำใจรุ่นน้อง และไม่ได้ถึงกับไม่เปิดทางออก เพราะแทบจะไม่ได้ขยับตำแหน่งอื่นในทัพภาคที่ 1 เลย
เพราะเมื่อขยับ พล.ท.อมฤต จากแม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เขาก็ขยับ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ (ตท.28) จากรองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 แทน
ส่วนตำแหน่งรองแม่ทัพภาคของ รองไก่ ที่ว่างลง พล.อ.เจริญชัย ก็ขยับ รองแอ้ม พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ (ตท.28) อีกคน จากรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นมาแทน และเลื่อน ผบ.ลาภ พล.ต.สิทธิพร จุลปานะ (ตท.30) รุ่นน้อง จากผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 แทนรองแอ้ม
นอกจาก รองไก่ รองแอ้ม และ ผบ.ลาภ ที่ขยับแทนที่กันแล้ว บิ๊กต่อ ก็ไม่ได้ขยับใครออกจากไลน์ เพราะทั้ง รองกอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ และ รองมด พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร คู่หู ตท.28 ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ทั้งคู่ ยังมีสิทธิช่วงชิงที่จะเข้าไลน์หลักในปีหน้า หากพล.ท.อมฤต ขยับขึ้นไปเป็น 5 เสือ ทบ.
แต่ที่มีการจัดระเบียบครั้งใหญ่ พล.อ.เจริญชัย เลือกที่จะจัดระเบียบกองพลหลักรอบกรุงเทพทั้ง 6 กองพล คือ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 9 กองพลทหารราบที่ 11 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และกองพลรบพิเศษ
โดย พล.1 รอ.นั้น เมื่อขยับ พล.ต.สิทธิพร ขึ้นเป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ‘บิ๊กต่อ’ ตัดสินใจวางรุ่นน้องทหารเสือราชินี ที่เติบโตมาด้วยกันใน กรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ หรือ ร.21 รอ. คือ พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล รองผบ.พล.1 รอ. (ตท.31) ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน จากเดิมที่คาดว่า จะเป็น ผบ.ด้วง พล.ต.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ ผบ.มทบ.11 ที่เป็น ตท.31 อีกคน แต่เนื่องจาก ผบ.ด้วง ยังคงมีภารกิจสวนสนามในวันที่ 5 ธันวาคม พ.อ.กิตติ จึงได้ขยับขึ้นมาดำรงตำแหน่ง **ผบ.พล.1 รอ.**ก่อน
ส่วนอีก 5 กองพล ‘บิ๊กต่อ’ ขยับ พล.ต.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผบ.พล.ร.2 รอ. (ตท.31)น้องรักสายบูรพาพยัคฆ์ ของ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ไปเป็น รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ออกจากไลน์คุมกำลังไปยังสายการศึกษา และยังเป็นการย้ายก่อนกำหนด เพราะ พล.ต.เทพพิทักษ์ เพิ่งดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ. ยังไม่ถึง 2 ปี พร้อมขยับพ.อ.เบญจพล เดชาชาติวงศ์ รองผบ.พล.ร.2 รอ. (ตท.32) อีกหนึ่งน้องรักสายทหารเสือราชินี ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ. แทน
กองพลหลักอีกกองพลที่มีการขยับคือ ตำแหน่ง ผบ.พล.ร.11 กองพลสไตรเกอร์ พล.อ.เจริญชัย ขยับ ผบ.โอ่ง พล.ต.อนันต์ เหมะบุตร ผบ.พล.ร.11 (ตท.30) จากผู้บัญชาการกองพลรบ ไปเป็น**รอง ผบ.โรงเรียนนายร้อย จปร.**ที่เป็นสายการศึกษาอีกคน เรียกว่าพลิกความคาดหมาย เพราะเดิมคาดว่า ผบ.โอ่ง หากขยับก็ต้องเข้าไลน์ไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 แต่กรณี ผบ.โอ่ง เชื่อว่า ยังมีโอกาสที่จะกลับเข้าไลน์ได้อีกครั้ง
ส่วน ผบ.พล.ร.11 คนใหม่ พล.อ.เจริญชัย เลือกน้องรักทหารเสือราชินีอีกคน พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ รอง ผบ.พล.ร.11 (ตท.30) ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน พ.อ.ยุทธนา แม้เส้นทางการเติบโตจะไปเติบโตที่ พล.ร.9แต่รับราชการครั้งแรกที่ ร.21 รอ. และสวมเครื่องแบบสวนสนามสีม่วงที่เป็นสัญญลักษณ์ทหารเสือราชินีเช่นกัน
เรียกว่า 6 กองพลหลักรอบกรุงเทพ สายทหารเสือราชินีเข้าไปคุมกำลังไปแล้ว 3 กองพล
ส่วนอีก 3 กองพลนั้น บิ๊กต่อ ย้าย พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผบ.พล.ร.9 (ตท.28) ไปเป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ออกนอกสายคุมกำลังอีกราย และขยับ พ.อ.อัษฏาวุธ ปันยารชุน รองผบ.พล.ร.9 (ตท.29) ม้านอกสายตาที่เป็นลูกหม้อ พล.ร.9 ขึ้นมาเป็น ผบ.พล.ร.9 แทน
นอกจากนั้นยังย้าย พล.ต.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน ผบ.พล.ม.2 รอ. (ตท.29) น้องรักคู่คิดของ รองกอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ออกนอกสายคุมกำลังไปเป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกอีกราย โดยมี พล.ต.ศรัณย์ รอดบุญธรรม เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 (ตท.30) ทหารม้าลูกหม้อพล.ม.2 รอ. ขยับมาเป็น **ผบ.พล.ม.2 รอ.**คนใหม่
อีกหนึ่งกองพลสำคัญที่มีการขยับเช่นกัน คือ กองพลรบพิเศษที่ 1 ที่ พล.อ.เจริญชัย ตัดสินใจส่ง พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน ผบ.พล.รพศ.1 (ตท.28) ลงไปเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 แบบพลิกโผ!
และบิ๊กต่อ ก็เลือก เสธฯเอิร์ธ พ.อ.อินทนนท์ รัตนกาฬ รอง ผบพล.รพศ.1 (ตท.31) ขึ้นเป็น ผบ.พล.รพศ.1 แทน หลังจากที่ เสธฯเอิร์ธ เบียดตีคู่มากับ พล.ต.เสด็จ อาคะจักร เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ตท.30) การขยับรอบนี้ ทำให้ เสธฯเอิร์ธ อดีตนายทหารคนสนิทของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ยังเป็นดาวรุ่งรบพิเศษที่ถูกคาดหวังว่า จะมีเส้นทางเติบโตขึ้นไปเป็นถึง **5 เสือ ทบ.**ในอนาคต
การจัดระเบียบทั้ง 6 กองพลหลักรอบกรุงเทพ จึงเป็นการจัดวางขุมกำลังครั้งใหญ่ ที่มีการขยับพร้อมกันถึง 6 กองพล
โดยการปรับย้ายครั้งนี้ บิ๊กต่อ กระจายรุ่นทั้ง 6 กองพล คละกัน โดย ตท.29 คุมหนึ่งกองพล ตท.30 และ ตท.31 คุมรุ่นละสองกองพล ส่วน ตท.32 น้องเล็กผงาดขึ้นมาคุมหนึ่งกองพล
นอกจากนั้นรอบนี้ยังเป็นการปรับย้าย ตท.28 ออกนอกหน่วยคุมกำลังแทบทั้งหมด จากเดิมที่ ตท.28 ในยุคของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เคยคุมกองพลหลักรอบกรุงเทพพร้อมกันถึง 5 กองพลมาแล้ว
แต่อย่าถามนะว่า ทำไมต้องปรับย้ายรุ่นนี้ ที่ว่ากันว่าเป็น รุ่นพิเศษ เป็นอีกประเด็นที่มีคำพูดอยู่ในหัวเป็นหมื่นล้านคำ แต่เข้าโหมดเล่าลงลึกรายละเอียดออกสื่อไปกว่านี้ไม่ได้ และยังเล่าตอนนี้ไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง