นฤตม์ เทอดถิรศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)เปิดเผย ตัวเลขการขอรับบีโอไอ ปี 2566 ว่า มีโครงการขอรับการส่งเสริม2,307 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 16% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน848,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43% และสูงสุดในรอบ 5 ปี
สาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติแห่กันเข้ามาลงทุนในประเทศไทย คือ ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่มีการแบ่งขั้วของกลุ่มประเทศต่าง ๆ ทำให้บริษัทชั้นนำมองหาแหล่งลงทุนใหม่ที่มีความมั่นคง มีความพร้อมและไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี สามารถตอบโจทย์ในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่โดดเด่นของภูมิภาค ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศรับการลงทุนครั้งใหญ่
นี่คือ สิ่งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำไว้ ในช่วงก่อนหน้านี้ คือ ทำให้ประเทศไทย มีความพร้อม เป็นฐานการผลิตใหม่ของนักลงทุนต่างชาติ เป็นผลงานที่ต้องใช้เวลากว่าจะผลิดอกออกผล ไม่ใช่ ‘quick win’ ที่ได้แค่สร้างภาพชั่วคราว โดยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ความพร้อมที่รัฐบาลก่อนสร้างไว้ คือ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ ในรอบ 30 ปีของประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การอำนวยความสะดวกในการเข้ามาลงทุน ทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะการให้วีซ่าระยะยาว 10 ปีแก่คนต่างชาติศักยภาพสูง ที่ต้องการมาทำงานในประเทศไทย การลงทุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี เพื่อเป็นฐานการผลิตและส่งออก อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ฯลฯ
ยอดการขอส่งเสริมการลงทุนที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี แสดงถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติ เป็นผลงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่ผ่านการคิดวิเคราะห์ ศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก หาจุดแข็งของประเทศไทย พัฒนาให้เป็นความสามารถในการแข่งขัน มียุทธศาสตร์ ‘โรดแมป’ ที่ชัดเจน ทำได้จริง แล้วจึงออกทำ ‘โรดโชว์’ ชักชวนนักลงทุนต่างชาติ
ไม่ใช่ทำโรดโชว์ไปก่อน โดยไม่รู้ว่า ทำได้หรือไม่ได้ อย่างที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังทำอยู่
