‘อู่ตะเภา’ เมืองการบิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์

25 มี.ค. 2567 - 09:38

  • รัฐบาลเอาจริง เอาจัง กับแผนงานโครงการเปิดกาสิโนในบ้านเรา

  • วางแผนเตรียมการมาดีระดับหนี่ง พร้อมผลักดันให้เกิด

  • เปลี่ยนปกใหม่เรียกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ลดกระแสต้าน

DEEP-SPACE-economy-casino-legal-SPACEBAR-Hero.jpg

หากไม่มี ‘อุบัติเหตุ’ ร้ายแรงอะไรในทางการเมืองจากนี้ไปจนต้องมีการยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ เชื่อว่าเมืองไทยคงจะมี ‘กาสิโน’ แบบถูกกฎหมายเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน เพียงแต่มีการ _‘เปลี่ยนปก เปลี่ยนชื่อ’ _ ให้ฟังดูแล้วไม่ ‘แสลงใจ’ สายบุญจนเกินไปนัก โดยจำแลงมาในชื่อ ร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... 

ที่กล้าบอกแบบนี้ เพราะดูเหมือนทั้งรัฐบาล และสภาผู้แทนราษฎุรชุดนี้มี ‘วาระ’ ชัดเจน ชนิดใสกิ๊ก_เป็น ‘ตาตั๊กแตน’_ ในการที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว เห็นได้จากการที่คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฏร ที่มี จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธาน จะนำเสนอผลการศึกษาการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนเป็นกิจการหลัก และตัวร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ เข้าสู่สภาในวันพฤหัสที่ 28 มีนาคมนี้ เพื่อปลดล็อกให้สามารถเกิดบ่อนพนันหลากหลายขนาด ตั้งแต่ระดับ เล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่มากในภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ไปจนถึงระดับตำบล  

ที่ผ่านมารัฐบาลของนายกฯ เศรษฐา ผ้าขาวมาหลากสี ให้ความสำคัญกับการอาศัยจุดแข็งในเรื่องการท่องเที่ยว และภาคบริการของไทย เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนและพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และมองว่า ‘ธุรกิจสีเทา’ หรือธุรกิจใต้ดินของไทย หากนำขึ้นบนดินให้ถูกกฎหมายจะสามารถสร้าง GDP ของไทยให้เติบโตได้อีกมหาศาล  

สิ่งที่น่าสนใจของร่าง พ.ร.บ.นี้คือ การกำหนดหลักเกณฑ์ซึ่งอาจจะมีการเปิดประมูลให้สัมปทานในระยะแรก สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น คือ ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท มีการลงทุนระดับ XL หรือขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่าระดับแสนล้านบาท โดยมีพื้นที่เป้าหมายต้องอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ หรืออู่ตะเภา ไม่เกิน 100 กม. ซึ่งจะให้สัมปทาน 20 ปี และต่อได้คราวละ 5 ปี 

หากสำเร็จก็คงจะมีการขยายลงไปในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ครอบคลุม 17 จังหวัด ภาคกลางและภาคตะวันออก รวมถึงพื้นที่จังหวัดที่เป็นท่องเที่ยวหลัก จำนวน 22 จังหวัด และพื้นที่ตามแนวชายแดนรวม 22 จังหวัด 

ภายในสถานบันเทิงครบวงจร นอกเหนือจากกาสิโนจะต้องมีสถาบันบันเทิงอื่นๆเป็นองค์กระกอบ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า  ร้านอาหาร ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต สนามกีฬา สวนสนุก และพื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรม และสินค้า OTOP ของไทย รวมถึง สถานพยาบาล และศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร 

เมื่อเห็นเงื่อนไขเบื้องต้นแบบนี้ หลายคนจึงพุ่ง ‘โฟกัส’ ไปที่พื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ตั้งของ ‘กาสิโน’ แบบถูกกฎหมายซึ่งจะเป็นที่แรกของไทยว่าจะอยู่ตรงจุดไหน?  

หาก ‘แกะรอย’  ย้อนกลับไป ในช่วงปลายสมัยรัฐบาลยุคลุงตู่ ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ จะพบว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ EEC ดูจะมีความพร้อมมาก และเป็นไปได้มากที่สุด เพราะเคยมีมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เหมือนปูทางเอาไว้ล่วงหน้า โดยมีการอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่...) พ.ศ..... ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ เพื่อปลดล็อควันเวลาเปิดปิดของสถานบริการทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองการบิน ภายในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่งเสริมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เปิดสถานบริการได้ 24 ชั่วโมง  

ในตอนนั้นมีการเสนอแนวคิดที่ต้องการจะส่งเสริมให้เกิดเมืองการบินภาคตะวันออก(EEC) ที่มีสถานะเป็น Airport City เพื่อยกระดับให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางการบินและเมืองธุรกิจสำคัญของภูมิภาคจึงมีความจำเป็นที่ต้องกำหนดกฎกติกาสอดคล้องกับแนวปฎิบัติของธุรกิจที่จะอยู่ในพื้นที่รวมถึง ‘สถานบันเทิง’  

พื้นที่เมืองการบินดังกล่าวปัจจุบันบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานในการบริหารสนามบินและเมืองการบินอู่ตะเภา คือ บริษัทอู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด (UTA) ซึ่งอาจจะกลายเป็นเอกชนที่จะได้ ‘ส้มหล่น’ จากการปลดล็อค ‘กาสิโน’ และสถานบันเทิงครบวงจรไปโดยแทบไม่ต้องออกแรง  

เพราะตามแผนเมืองการบินของ EEC ทาง สกพอ. ก็มีการร่วมทำแผนบริหารจัดการพื้นที่กว่า 6.5 พันไร่ ร่วมกับ UTA ที่จะดำเนินการลงทุน สร้างโรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ร้านอาหาร เหมือนสนามบินชั้นนำทั่วโลก 

หากมีกฎหมายที่เปิดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนเป็นแม่เหล็ก จึงน่าจะทำให้ UTA สามารถที่จะให้ความมั่นใจกับนักลงทุนที่บริษัทจะไปชักชวนให้เข้ามาลงทุนในสนามบินในการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้สะดวกมากขึ้น  

พลิกกลับไปดูว่า UTA อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น มีนายแพทย์ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ และคีรี กาญจนพาสน์ ที่ได้สัมปทานเข้ามาพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อให้เป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์ แห่งที่สามของไทย...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์