โคแสนล้านฝันที่เป็นจริง ของ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’

20 มี.ค. 2567 - 09:20

  • โครงการโคแสนล้านของสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็เดินหน้าต่อได้

  • หลังผลักดันสุดตัวมาตลอดทุกครั้งที่มีโอกาส

  • วาดฝันกำไรเกือบ 5 เท่าในระยะเวลา 4 ปี หรือไม่

economy-cattle-breed-cow-SPACEBAR-Hero.jpg

หากถามว่าคนที่มีความสุขมากที่สุด หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่พะเยา คำตอบอาจจะไม่ใช่ ‘พี่แป้ง’ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเจ้าภาพการจัดประชุมที่สามารถผลักดันให้ครม.มีมติให้ทำการศึกษาโครงการสร้างสนามบิน ‘พะเยา’ ได้สำเร็จ

แต่ดูเหมือนคนที่มีความสุขมากกว่าถึงขั้นน้ำตาคลอ คือ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หรือ กทบ. ที่ทั้งผลักทั้งดันโครงการ ‘โคแสนล้าน’ มายาวนานถึง 20 ปี !!!

สมศักดิ์ ยอมรับว่าตัวเองฝันอยากเห็นโครงการนี้ได้แจ้งเกิดมานานมากกกกก และพยายามผลักดันผ่านรัฐบาลหลายชุด แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ในที่สุด ‘ฝันก็เป็นจริง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ตั้งแต่กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลในโควตาของพรรคเพื่อไทยรอบนี้ ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งในกระทรวงเกษตรฯ แต่ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ก็ยังขอมานั่งเป็น ‘ประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ’ เพื่อผลักดันโครงการโคแสนล้านของตัวเองต่อผ่านโครงการของกองทุนหมู่บ้านฯ

สมศักดิ์พยายามเอาเรื่องโครงการโคแสนล้านเข้าไปพิจารณาใน ครม.หลายครั้ง โดยได้แรงสนับสนุนจากนักการเมืองรุ่นน้องในกลุ่มวังน้ำยมเก่า ‘เดอะแฮงค์’ อนุชา นาคาศัย แต่ก็ต้องถอนเรื่องมาทบทวนหลายครั้ง แม้แต่เที่ยวล่าสุดก่อนการประชุมก็ไม่ได้ถูกบรรจุให้เป็นวาระพิจารณา ต้องต่อรองจนถึงกลางดึกคืนวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม ที่ได้ข้อสรุปให้เสนอเป็น ‘วาระจร’ พอถึงวาระพิจารณาใน ครม.รองนายกฯสมศักดิ์เป็นผู้เสนอเรื่องดังกล่าวเอง โดยระบุว่าจะใช้งบของกองทุนหมู่บ้านฯ แต่ปรากฏว่า ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ รมช.มหาดไทย จากค่ายภูมิใจไทย ได้แสดงความเห็นว่า

ในฐานะที่เป็นคนเลี้ยงและคนชำแหละโคขาย มีประสบการณ์ในวงการนี้มายาวนาน เห็นว่าไม่ควรเอาเงินไปซื้อโคให้ชาวบ้าน เพราะจะทำให้ระบบเสียหาย แต่ควรให้เกษตรกรไปกู้เงินจากธนาคารรัฐ อย่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส.

ซึ่งปรากฎว่ามีรัฐมนตรีหลายคนเห็นด้วยกับ รมช.ชาดา

เดือดร้อนถึงน้องรัก รมช.เกษตรฯ เดอะแฮงค์ อนุชา ต้องออกมาช่วยปกป้องแสดงความเห็นช่วยสนับสนุนสมศักดิ์ โดยระบุว่า มีประสบการณ์ทำมาแล้วเป็นพันตัว และโคเหล่านี้กินหญ้าฟรี กระทั่งที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบในหลักการ

รองนายกฯ สมศักดิ์ เปิดแถลงข่าวด้วย ‘ใบหน้ายิ้มแย้ม’ เป็นพิเศษ โดยยืนยันว่า โครงการนี้จะเป็นโครงการนำร่อง ของ ‘โครงการโคแสนล้าน’ โดยจะเริ่มจากวงเงิน 5 พันล้านบาท ซึ่งจะให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีประวัติดี จำนวน 1 แสนครัวเรือน กู้เงินครัวเรือนละ 5 หมื่นบาท เพื่อนำไปซื้อแม่โค ตั้งแต่ 2-3 ตัว ภายในวงเงิน 5 หมื่นบาท

เมื่อซื้อมาเป็นแม่วัวผสมแล้วได้ลูกแล้ว ก็สามารถขายลูกเมื่อหย่านม หรือจะเลี้ยงต่อเป็นโคขุน และจะเริ่มชำระหนี้คืนในปีที่ 3 โดยดอกเบี้ยส่วนหนึ่งภาครัฐจะช่วยชดเชยให้ แต่ยังไม่มีการกำหนดให้ชัดเจน โดยขอให้ กองทุนหมู่บ้าน ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และ ธกส. ไปประชุมกัน เพื่อกำหนดว่าอัตราดอกเบี้ยควรเป็นเท่าไร เกษตรกรต้องรับผิดชอบเท่าไร และรัฐจะช่วยจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้เท่าไร

รองนายกฯ สมศักดิ์ วาดฝันให้เกษตรกรว่า หากได้รับคำแนะนำการเลี้ยงโคจากกรมปศุสัตว์ และรัฐช่วยจัดหาตลาดเพื่อรองรับ ต่อยอด จะสามารถขยายผลในการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ   มีรายได้ต่อครัวเรือนอย่างน้อย 240,000 บาทต่อครัวเรือน จากต้นทุน 50,000 บาทหรือ 4.8 เท่า ในระยะเวลา 5 ปี หรือซื้อโค 2 ตัว เฉลี่ยราคาโคตัวละ 25,000 บาท และจะสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 120,000 บาทต่อตัว หรือ 240,000 บาท

ก็คงต้องจับตามองต่อไปว่าในที่สุด โครงการโคแสนล้าน ของ รองนายกฯ สมศักดิ์ จะประสบความสำเร็จอย่างที่วาดฝันไว้ได้จริงหรือไม่? เพราะหลายคนอดคิดถึงนิทาน เรื่อง เศรษฐีกับยาจกเลี้ยงโคไม่ได้

เพราะแนวคิดที่จะให้เกษตรกรไปเลี้ยงวัวเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้อาจจะดูดีสวยหรู แต่บนโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อเกษตรกรซื้อโคมาเลี้ยงแล้วหากไม่ตั้งใจดูแลอย่างจริงจัง หรือหากมองว่าเป็นภาระ ในที่สุดก็อาจจะขายทิ้งเหมือนยาจกในนิทานที่ขายเอาเงินไปใช้ จากโคเนื้อ กลายเป็นหมู และจบลงด้วยการฆ่าไก่กิน ไม่เหลืออะไร แถมกลับกลายเป็นหนี้ก้อนใหม่ก็เป็นได้...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์