การ ‘ปิ๊กบ้าน’ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14-16 มีนาคมนี้ เป็นการกลับบ้านครั้งแรก ในรอบ 17 ปีของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของการไปพบญาติ ไหว้กู่อัฐิบรรพบุรุษ ไปพบแพทย์ทางเลือก หรือไปโรดโชว์การเมือง ฟื้นฐานที่มั่นเก่า เรียกคืนความเป็นแชมป์สส.ในจังหวัดล้านนาของพรรคเพื่อไทยกลับมาก็ตาม
แต่วันนี้ของคนชื่อทักษิณและพรรคเพื่อไทยในแผ่นดินล้านนา ‘อดีต ปัจจุบัน อนาคต’ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เพราะอดีตการเลือกตั้งในปี 2544 กระแสคิดใหม่ ทำใหม่ และ ‘ตาดูดาว เท้าติดดิน’ ทำให้ทักษิณนำพรรคไทยรักไทย ชนะเลือกตั้งกวาด สส. เข้าสภาได้มากถึง 248 ที่นั่ง เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตามมาเป็นที่สอง ได้ 128 ที่นั่ง โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ กระแสนายกฯ ลูกข้าวนึ่ง ทำให้ไทยรักไทย ชนะเกือบยกจังหวัด ได้ 9 ที่นั่ง เหลือให้ประชาธิปัตย์ 1 ที่นั่ง
จากนั้น ในการเลือกตั้งครั้งต่อ ๆ มา ความร้อนแรงของกระแสทักษิณฟีเวอร์ ทำให้ จ.เชียงใหม่ กลายเป็นพื้นที่ยึดครอง เสมือนเป็นเมืองหลวงของพรรคไทยรักไทยไปโดยปริยาย รวมทั้งพื้นที่ จ.ล้านนาอื่น ๆ ด้วย
แต่มาถึงการเลือกตั้งหนล่าสุดในปี2566 การเมืองเปลี่ยนพอ ๆ กับสายลมเปลี่ยนทิศ พรรคเพื่อไทย พ่ายปรากฎการณ์ ‘สีส้ม’ เป็นการแพ้เลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยเฉพาะฐานที่มั่นใหญ่ใน จ.เชียงใหม่ ถูกพรรคก้าวไกล ยึดไป 7 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง ในขณะที่คนของเพื่อไทย เบียดเข้ามาได้เพียง 2 ที่นั่ง
เช่นเดียวกับใน จ.ล้านนาอื่น ๆ พรรคเพื่อไทย สูญเสียเก้าอี้สส.ไปไม่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง จนกระทั่งทักษิณต้องไประบายออกในคลับเฮ้าส์ ตำหนิลูกพรรคไม่เว้นหัวหงอกหัวดำ ด้วยความรู้สึกที่เสียหน้าอย่างแรง
การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย มีความพร้อมทุกอย่างทั้งกระแส กระสุน มาพร้อมกับเดิมพันที่สูงลิ่ว เหมือนเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของทักษิณ ซึ่งประกาศดับเครื่องชน ‘สองลุง’ – ‘ปิดสวิตซ์สองป.’ เพื่อแก้เกมพรรคก้าวไกล ที่โยนประเด็น ‘มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา’ ที่ได้รับการตอบรับอย่างมาก
แต่ดูเหมือนเพื่อไทยจะสลัดสองลุงไม่ออก เพราะมีกระแสดีลลับพันคออยู่ สุดท้ายต้องเสียแชมป์เลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกลไปอย่างเจ็บปวด และยิ่งทำให้สูญเสียมวลชนหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อเพื่อไทย ‘ตระบัตสัตย์’ ทิ้งพรรคก้าวไกลมาจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วกับพรรคสองลุง
วันนี้พรรคเพื่อไทย ในสายตาของคนการเมืองจึงถูกมองเป็น ‘พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่’ เมื่อนำพลพรรคเสื้อแดงที่ยังภักดีกับทักษิณไปจับมือกับสีเหลืองบางปีกและสีน้ำเงิน ต่อสู้กับพรรคสีส้ม
เมื่อสถานะของทักษิณและพรรคเพื่อไทย ที่เคยประกาศตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยต่อสู้กับเผด็จการ วันนี้กลับมาจูบปากกับฝ่ายที่เคยอยู่ตรงข้ามเสียเอง ดังนั้น การจะฟื้นฐานที่มั่นเดิมและทวงคืนความเป็นแชมป์ล้านนากลับมาให้พรรคเพื่อไทยจึงไม่ใช่ของง่าย
โดยเฉพาะหากมวลชนยังยืนหยัดอยู่ในจุดยืนความคิดทางการเมืองแบบเดิม ในขณะที่มวลชนเสื้อแดงเดิมบางกลุ่มได้ผันตัวเองไปเป็นพลังสีส้มไปแล้ว
สุดท้ายโรดโชว์การเมือง ทวงคืนแชมป์สส.ล้านนาของทักษิณครั้งนี้จะทำได้สำเร็จหรือไม่ สิ่งแรกเลยคงต้องรอดูมวลชนคนเสื้อแดงที่จะไป ‘วัดโรงธรรมสามัคคี’ ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ มีจำนวนมากน้อยขนาดไหน อยู่ในวัยไหนบ้าง และที่สำคัญมาจากในพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูนล้วน ๆ หรือระดมกันมาจากที่อื่น
มวลชนเสื้อแดงที่มาในวันนั้น จะเป็นคำตอบของโรดโชว์การเมืองครั้งนี้ได้ระดับหนึ่ง
จากนั้น ให้รอดูผลการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2568 หากตระกูลชินวัตร สูญเสียเก้าอี้นายก อบจ. ,นายกเทศบาลนครเชียงใหม่ ให้กับพรรคก้าวไกล เหมือนการเลือกตั้งสส .ปี 2566 ก็คงพอคาดเดาถึงอนาคตทักษิณและพรรคเพื่อไทยได้ว่า โอกาสทวงคืนแชมป์ สส.ล้านนากลับมานั้นจะเป็นไปได้หรือไม่