ประชาธิปัตย์ เกาะกระแสทันสมัย

25 มี.ค. 2567 - 08:23

  • พรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้จัดหนักรัฐบาลในหลายเรื่อง

  • สมาชิกพรรคออกมาวิพากษ์รัฐบาลเพื่อให้สมบทบาทพรรคฝ่ายค้านมืออาชีพ

  • ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ก็กำลังจะกอบกู้ด้วยนโยบาย ประชาธิปัตย์ทันสมัย

DEEP-SPACE-economy-democratparty-SPACEBAR-Hero.jpg

การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระ 2-3 ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ของสส.พรรคประชาธิปัตย์ ในสายตาสื่อไม่ได้มีความโดดเด่น ออกหมัดจะแจ้งได้เท่ากับ สส.พรรคก้าวไกล จึงทำให้ยังไม่สามารถเรียกความเป็นฝ่ายค้านมืออาชีพกลับมาได้ในนัดนี้ ต้องรอดูการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลในวันที่ 3-4 เมษายนนี้อีกครั้ง

แต่ถามไถ่จากคนในประชาธิปัตย์ดูแล้ว คงมีเพียง ‘อู๊ดด้า’ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์คนเดียวที่พอจะเป็นไฮไลท์ได้บ้าง เพราะเป็นมาเกือบทุกตำแหน่งและผ่านจุดสูงสุดทางการเมืองมาแล้ว จึงไม่มีอะไรให้ต้องออมแรง เหลือแต่ฝากฝีปากไว้ในแผ่นดิน ส่วนคนอื่น ๆ ยังมองไม่เห็น 

แต่น่าสังเกตว่า ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา คนในประชาธิปัตย์ ต่างเรียงหน้ากันออกมาจัดหนักรัฐบาล ทั้งโฆษกพรรคฯ ‘ราเมศ รัตนเชวง’ ที่ย้ำเรื่องการอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ที่จะพูดถึงกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีพระคุณของรัฐบาล 

‘ขอย้ำว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องตอบคำถามให้ชัดเพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง’

ราเมศ กระแทกไปที่เป้าใหญ่

วันถัดมารองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ‘ชนินทร์ รุ่งแสง’ ฟาดหนัก ๆ ไปที่รัฐบาลอีก โดยกล่าวหาทำงานล้มเหลวตลอด 6 เดือน แถมบกพร่องเรื่องจริยธรรมทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย และเอาแต่เดินสายไปต่างประเทศจนได้สมญานามเป็น ‘เซลล์แมน’  

‘นายกฯ อาจรู้สึกภูมิใจนิตยสารดังให้สมญานามเป็นเซลล์แมน แต่สำหรับผมอายคนทั้งโลก เพราะนายเศรษฐาเป็นได้เพียงเซลล์แมนขายฝัน เป็นผู้นำแฟชั่น แต่ไม่ใช่ผู้นำประเทศ’

ชรินทร์ตำหนินายกฯ เศรษฐาไปแรง ๆ

สำหรับประชาธิปัตย์ อีกไม่กี่วันจะครบกำหนดตามที่ ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ หัวหน้าพรรคฯ ประกาศไว้ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประชาธิปัตย์ ที่อย่างน้อยจะต้องได้เห็นและสัมผัสได้ในเดือนเมษายน ปี2567 แต่ผ่านมาถึงวันนี้ยังสัมผัสไม่ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ว่านั้น

วันพรุ่งนี้ (26 มีนาคม 2567) ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เชิงสะพานกรุงธนบุรี ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น.เฉลิมชัย ที่พึงพอใจกับการให้สื่อเรียกตัวเองว่า ‘ดร.เฉลิมชัย’ ได้จัดโครงการสัมมนาเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของสาขาพรรคและตัวแทนพรรคประจำจังหวัดทั่วประเทศขึ้น โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมด้วย

โดยรูปแบบการจัดงานเป็นแบบกึ่ง ๆ การประชุมใหญ่ ที่เปิดโรงแรมให้ตัวแทนและสาขาพรรคเข้าพัก พร้อมจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ก่อนจะประชุมใหญ่ในวันถัดไป

หนนี้แม้จะมีคนในประชาธิปัตย์ สงสัยถึงการจัดสัมมนาแบบอุ่นเครื่องก่อนการประชุมใหญ่ที่จะมาถึงในเดือนเมษายนนี้อยู่บ้าง แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าคงเป็นความประสงค์ของหัวหน้าฯ และเลขาฯ ที่ต้องการพบปะกับหัวหน้าสาขาและตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก่อนการประชุมใหญ่

ขณะที่มีการพูดถึงไฮไลท์ของงานสัมมนาครั้งนี้ จะประกาศความเป็น ‘ประชาธิปัตย์ทันสมัย’  ด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคผ่านระบบออนไลน์ โดยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ร่วมกันจัดทำแคมเปญประชาธิปัตย์ทันสมัย ซึ่งการเปิดตัวประชาธิปัตย์ทันสมัยที่ว่านี้ มีเสียงทักท้วงจากคนในพรรคอยู่บ้างว่า อาจเป็นของใหม่สำหรับประชาธิปัตย์ แต่พรรคอื่น ๆ ได้ทำไปก่อนแล้ว

และสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา คงได้สมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นจากการรับสมัครผ่านออนไลน์ที่ว่า อีกทั้ง ค่าสมัครสมาชิกพรรคการเมือง ได้ปรับลดลงมาหลังการแก้ไขกฎหมายลูก โดยสมาชิกตลอดชีพจาก 2,000 บาท เหลือ 200 บาท และสมาชิกรายปีจาก 200 บาท เหลือ 20 บาท จึงน่าจะนำไปสู่การขยายสมาชิกเพิ่มในบางพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งสาขาขึ้นในพื้นที่ที่ต้องการได้

แต่ก็ยังมีเสียงทักท้วงเรื่องความเป็นประชาธิปัตย์ทันสมัย ควรจะออกมาในรูปของนโยบายแต่ละด้านที่มีความเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่นมากกว่า โดยผ่านการระดมสมองจากกลุ่มนักวิชาการ แล้วกลั่นเป็นนโยบายนำเสนอเป็นทางเลือกให้กับประชาชน จะได้เป็นความทันสมัยที่ดูล้ำยุคได้บ้าง

สุดท้ายข้อห่วงใยที่ว่า คงต้องเก็บเอาไปแลกเปลี่ยนกันในเวทีสัมมนาร่วมระหว่างกรรมการบริหารกับ สส.พรรค ที่จะมีขึ้นปลายเดือนนี้ที่พัทยา จากนั้น ค่อยมาว่ากันจะเอาอย่างไร

แต่ตอนนี้ มาช้าดีกว่าไม่มา ประชาธิปัตย์ ขอเกาะกระแสทันสมัยที่ว่านี้ไปก่อน จะได้ไม่สายเกินเพล

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์