ยุทธศาสตร์ใหม่ก้าวไกล เปิดศึกรบเพื่อไทยทุกสนาม

18 ม.ค. 2567 - 09:00

  • ก้าวไกลปรับยุทธศาสตร์ใหม่ในการเป็นฝ่ายค้าน และตรวจสอบรัฐบาล

  • วางเป้าหมายชัดเจน พร้อมเปิดวอร์กับเพื่อไทยทุกสนาม

  • แต่ลึก ๆ พยายามหนี และสลัดภาพ ‘ดีลลับฮ่องกง’ เพราะทุกฝ่ายไม่สิ้นสงสัย

economy-digital-wallet-police-01-SPACEBAR-Hero.jpg

หลังถูกตั้งคำถามมาพักใหญ่เรื่องการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกล จะค้านแบบจริงจังแค่ไหน เนื่องจากมี ‘ดีลลับ’ ฮ่องกง ระหว่างธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับทักษิณ ชินวัตร ค้ำคออยู่

ยิ่งประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก เลือกค้านเป็นเรื่องๆ ไป เรื่องไหนถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมให้การสนับสนุนก็ยิ่งทำให้ชวนสงสัยเพิ่มขึ้นเรื่องมีใจอยู่กับรัฐบาล และอาจเข้าร่วมเป็นทองแผ่นเดียวกันในอนาคตอันใกล้ 

แต่ล่าสุดก้าวไกล ดูเหมือนจะปรับขบวนใหม่ หันมาตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้นมากขึ้น แถมแสดงท่าทียืนอยู่คนละจุดกับพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน กึ่ง ๆ ท้ารบและพร้อมชนทุกสนาม 

เริ่มจากไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ ในคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ โดยศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้เหตุผลว่า เป็นธรรมเนียม เพราะที่ผ่านมาใช้เวลานานในการกำหนดตัวบุคคลที่จะนั่งในตำแหน่งใดๆ มีการถกเถียงหลายครั้งหลายรอบ พรรคก้าวไกล จึงตัดปัญหาที่จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ 

‘เพื่อให้ในที่ประชุมมีเวลาในการพิจารณาให้มากขึ้น จึงทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2564ที่จะไม่รับตำแหน่งใด จึงไม่มี กมธ.จากพรรคก้าวไกลเข้าไปรับตำแหน่งรองประธาน เลขานุการ หรือโฆษก’

ถัดมาเป็นเรื่อง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กรณีพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เกินกว่า 120 วัน คนของพรรคก้าวไกล เริ่มออกมาแสดงความเห็นกันมากขึ้น แม้แต่ในเวทีสภา  

โดยหัวขบวนของพรรคก้าวไกล ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ ลุกขึ้นตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐานด้วยตัวเอง จนถูกสส.เพื่อไทย ยกมือประท้วงและนำไปสู่การโต้เถียงกับ ‘วิโรจน์ ลักษณาอดิสร’ สส.ก้าวไกล ในเวลาต่อมา

‘ทำไมฮะ ชั้น 14 แตะไม่ได้หรอครับ เดี๋ยวผมจะเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปฝาก’

เรื่องการลาออกจากกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ของ 3 สส.ก้าวไกล กับอีกหนึ่งนักวิชาการที่ปรึกษา ประกอบด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล ,จุลพงษ์ อยู่เกศ และศุภณัฐ มีนขัยนันท์

โดยให้เหตุผล ไม่ขอเป็นตรายางประทับความถูกต้องให้กับรายงานผลการศึกษาชิ้นนี้ เนื่องจากข้อมูลของส่วนราชการสองหน่วยงานขัดแย้งกันเอง

ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) มีตัวเลขผลตอบแทนต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 17 ขณะที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ไม่คุ้มทุน และยังไม่ได้รับคำตอบเพิ่มเติมจากอีกหลายหน่วยงาน

จึงทำให้รายงานไม่มีความสมบูรณ์ และด้วยเสียงที่น้อยกว่าจึงสู้มติไม่ได้!!

การลาออกของกรรมาธิการจากพรรคก้าวไกล นับเป็นการทิ้งบอมบ์โครงการแลนด์บริดจ์ ที่รัฐบาลพยายามผลักดันอยู่เวลานี้ ถึงแม้จะไม่ใช่นโยบายที่ใช้หาเสียงมาแต่ต้นก็ตาม

โครงการแลนด์บริดจ์ จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่สะท้อนถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล ที่เลือกยืนอยู่คนละจุดกับพรรคเพื่อไทย

หรือล่าสุดสด ๆ ร้อน กรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังรายงานผลสอบจาก ป.ป.ช.หลุดออกมา แม้ด้านหนึ่งจะดูเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล เพราะสามารถนำไปปิดช่องโหว่ ปรับแก้เนื้อหาโครงการที่เป็นปัญหาได้

แต่พรรคก้าวไกล โดยเฉพาะศิริกัญญา ซึ่งเกาะติดเรื่องนี้มาตลอด ก็ไม่พลาดที่จะออกมาตั้งคำถามพร้อมข้อเสนอแนะมากมาย จึงกลายเป็นอีกประเด็นร้อน ที่พรรคก้าวไกลประกาศยืนคนละจุดกับรัฐบาล 

และแน่นอนว่ามวยชนจากฟากรัฐบาล ‘จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลัง ก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ออกมาตอบโต้ศิริกัญญาอย่างเผ็ดร้อนชนิดคำต่อคำเช่นกัน

ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามา น่าจะเป็นสัญญาณจากพรรคก้าวไกล ที่ประกาศยืนอยู่คนละจุดกับพรรคเพื่อไทย และต่อจากนี้คงจะได้เห็นการยืนซดหมัดกับรัฐบาลในอีกหลายเรื่อง

เพื่อวางเกมรบยาวหวังผลไปถึงสนามเลือกตั้งในอีกสี่ปีข้างหน้า ที่จะเป็นการต่อสู้กันของเพื่อไทย-ก้าวไกล แบบเลี่ยงไม่พ้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์