หลังถูกตั้งคำถามมาพักใหญ่เรื่องการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกล จะค้านแบบจริงจังแค่ไหน เนื่องจากมี ‘ดีลลับ’ ฮ่องกง ระหว่างธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับทักษิณ ชินวัตร ค้ำคออยู่
ยิ่งประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก เลือกค้านเป็นเรื่องๆ ไป เรื่องไหนถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมให้การสนับสนุนก็ยิ่งทำให้ชวนสงสัยเพิ่มขึ้นเรื่องมีใจอยู่กับรัฐบาล และอาจเข้าร่วมเป็นทองแผ่นเดียวกันในอนาคตอันใกล้
แต่ล่าสุดก้าวไกล ดูเหมือนจะปรับขบวนใหม่ หันมาตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้นมากขึ้น แถมแสดงท่าทียืนอยู่คนละจุดกับพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน กึ่ง ๆ ท้ารบและพร้อมชนทุกสนาม
เริ่มจากไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ ในคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ โดยศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้เหตุผลว่า เป็นธรรมเนียม เพราะที่ผ่านมาใช้เวลานานในการกำหนดตัวบุคคลที่จะนั่งในตำแหน่งใดๆ มีการถกเถียงหลายครั้งหลายรอบ พรรคก้าวไกล จึงตัดปัญหาที่จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
‘เพื่อให้ในที่ประชุมมีเวลาในการพิจารณาให้มากขึ้น จึงทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2564ที่จะไม่รับตำแหน่งใด จึงไม่มี กมธ.จากพรรคก้าวไกลเข้าไปรับตำแหน่งรองประธาน เลขานุการ หรือโฆษก’
ถัดมาเป็นเรื่อง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กรณีพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เกินกว่า 120 วัน คนของพรรคก้าวไกล เริ่มออกมาแสดงความเห็นกันมากขึ้น แม้แต่ในเวทีสภา
โดยหัวขบวนของพรรคก้าวไกล ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ ลุกขึ้นตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐานด้วยตัวเอง จนถูกสส.เพื่อไทย ยกมือประท้วงและนำไปสู่การโต้เถียงกับ ‘วิโรจน์ ลักษณาอดิสร’ สส.ก้าวไกล ในเวลาต่อมา
‘ทำไมฮะ ชั้น 14 แตะไม่ได้หรอครับ เดี๋ยวผมจะเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปฝาก’
เรื่องการลาออกจากกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ของ 3 สส.ก้าวไกล กับอีกหนึ่งนักวิชาการที่ปรึกษา ประกอบด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล ,จุลพงษ์ อยู่เกศ และศุภณัฐ มีนขัยนันท์
โดยให้เหตุผล ไม่ขอเป็นตรายางประทับความถูกต้องให้กับรายงานผลการศึกษาชิ้นนี้ เนื่องจากข้อมูลของส่วนราชการสองหน่วยงานขัดแย้งกันเอง
ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) มีตัวเลขผลตอบแทนต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 17 ขณะที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ไม่คุ้มทุน และยังไม่ได้รับคำตอบเพิ่มเติมจากอีกหลายหน่วยงาน
จึงทำให้รายงานไม่มีความสมบูรณ์ และด้วยเสียงที่น้อยกว่าจึงสู้มติไม่ได้!!
การลาออกของกรรมาธิการจากพรรคก้าวไกล นับเป็นการทิ้งบอมบ์โครงการแลนด์บริดจ์ ที่รัฐบาลพยายามผลักดันอยู่เวลานี้ ถึงแม้จะไม่ใช่นโยบายที่ใช้หาเสียงมาแต่ต้นก็ตาม
โครงการแลนด์บริดจ์ จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่สะท้อนถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล ที่เลือกยืนอยู่คนละจุดกับพรรคเพื่อไทย
หรือล่าสุดสด ๆ ร้อน กรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังรายงานผลสอบจาก ป.ป.ช.หลุดออกมา แม้ด้านหนึ่งจะดูเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล เพราะสามารถนำไปปิดช่องโหว่ ปรับแก้เนื้อหาโครงการที่เป็นปัญหาได้
แต่พรรคก้าวไกล โดยเฉพาะศิริกัญญา ซึ่งเกาะติดเรื่องนี้มาตลอด ก็ไม่พลาดที่จะออกมาตั้งคำถามพร้อมข้อเสนอแนะมากมาย จึงกลายเป็นอีกประเด็นร้อน ที่พรรคก้าวไกลประกาศยืนคนละจุดกับรัฐบาล
และแน่นอนว่ามวยชนจากฟากรัฐบาล ‘จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลัง ก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ออกมาตอบโต้ศิริกัญญาอย่างเผ็ดร้อนชนิดคำต่อคำเช่นกัน
ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามา น่าจะเป็นสัญญาณจากพรรคก้าวไกล ที่ประกาศยืนอยู่คนละจุดกับพรรคเพื่อไทย และต่อจากนี้คงจะได้เห็นการยืนซดหมัดกับรัฐบาลในอีกหลายเรื่อง
เพื่อวางเกมรบยาวหวังผลไปถึงสนามเลือกตั้งในอีกสี่ปีข้างหน้า ที่จะเป็นการต่อสู้กันของเพื่อไทย-ก้าวไกล แบบเลี่ยงไม่พ้น