แก้ รธน.สุดซอยแท้ง พรรคร่วมรัฐบาลบีบ พท.ถอย?!

25 ก.ย. 2567 - 03:44

  • แก้รัฐธรรมนูญรายมาตราต้องพับเก็บฉากอย่างรวดเร็ว

  • พรรคร่วมรัฐบาลต่างถอยห่าง แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย

  • เพื่อไทยกลืนเลือด ยอมถอยเป็นการชั่วคราว

economy-government-politics-SPACEBAR-Hero.jpg

หลังยืนโต้ลมแรงอยู่ได้ไม่กี่วัน แต่รับแรงต้านจากรอบทิศทางต่อไม่ไหว ในที่สุดพรรคเพื่อไทย ก็ยอมถอยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสุดซอย ยอมพักปมรื้อมาตรฐานจริยธรรมนักการเมืองเอาไว้ก่อน

ลำพังเสียงขู่จากฝ่ายแค้นนอกสภา ที่งัดสารพัดกระบวนท่าออกมาปราม ไม่ว่าจะยื่นร้องเอาผิดผ่านองค์กรไหนก็ตาม คงไม่เป็นผล หากไม่มีแรงบีบจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่พร้อมใจกันออกมาเหยียบเบรกแรง ๆ

โดยเฉพาะ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาสำทับตามลูกพรรค ‘ภราดร ปริศนานันทกุล’ ที่แสดงจุดยืนไว้ก่อนหน้านั้นแบบหล่อ ๆ ว่า

‘ผมคิดว่าคนที่มาทำงานสาธารณะรับใช้บ้านเมือง ใช้อำนาจรัฐในการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ต้องรับการตรวจสอบ..ถ้าไม่อยากถูกตรวจสอบก็ให้ทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน’

พร้อมย้อนถามสื่อเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบ ‘หล่อ’ เพิ่มอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเบอร์หนึ่งหรือไม่ เรื่องเบอร์หนึ่งคือเรื่อง เชียงราย เชียงใหม่ หนองคาย ลำปางและจังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือที่ถูกน้ำท่วม ตรงนี้้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดมากกว่า

ในเวลาไล่เรี่ยกัน ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาเล่นบทพระเอกขวางการแก้ประเด็นจริยธรรมในรัฐธรรมนูญเหมือนกันว่า

‘ใครไม่พร้อมให้ตรวจสอบ ก็ไม่ต้องมาเป็น’

เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลทั้งภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ประสานเสียงไม่เอาด้วย หลังเงี่ยหูฟังกระแสสังคมแล้ว ไม่มีเสียงตอบรับในทางบวกเลย ยกเว้นพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้าน ที่เห็นดีเห็นงามกับการรื้อปมจริยธรรมด้วย

ที่เป็นเช่นนั้น เพราะทั้งเพื่อไทยและประชาชน แม้ยืนอยู่คนละซีกแต่ก็หัวอกเดียวกัน คือ ต่างถูกนิติสงครามไล่ล่าและเดิมพันสูงด้วยกันทั้งคู่ แม้ลึก ๆ เพื่อไทยจะ ‘ซ่อนเป้าหมาย’ ไว้สูงกว่า เพราะต้องการปลดล็อกให้เจ้าของพรรคตัวจริงไปด้วย 

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันใดในเรื่องของปมจริยธรรม เพราะจัดการลงตัวกันหมดแล้ว เหลือแต่คำร้อง**‘ยุบพรรคภูมิใจไทย’**ที่ค้างอยู่ในมือ กกต.ก็อยู่ในวิสัยที่จัดการได้ จึงไม่มีไฟลนก้นเหมือนเพื่อไทยกับประชาชน

ช่วงสายๆ เมื่อวานนี้ ก่อนที่พรรคเพื่อไทย จะยอมถอยแบบเสียเหลี่ยมลูกกำนัน ได้มีสัญญาณออกมาจาก ‘ภูมิธรรม เวชชยชัย’ นำร่องมาก่อนเป็นคนแรกว่า จะนัดพูดคุยทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงบ่ายวันที่ 1 ตุลาคมนี้

‘ถ้าเห็นด้วยเหมือนกันก็ไปด้วยกัน ถ้าไม่เห็นด้วยเหมือนกันก็ไม่ต้องไป เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ริเริ่มจากพรรคเพื่อไทย แต่มีหัวหน้าพรรคหลายส่วนไม่สบายใจเรื่องนี้ เราถึงเริ่มดำเนินการว่าอยากจะคุยกัน’

การที่ภูมิธรรมบอกว่า ไม่ได้ริเริ่มจากพรรคเพื่อไทย เหมือนต้องการจะเอี้ยวตัวหลบเล็กๆ แถมสำทับในตอนท้ายอีกว่า 

‘หากคุยกันเห็นไม่ตรงกันในช่วงต้นจะถอยก็ได้ เพราะนี่คือการร่วมมือกันของพรรคร่วมที่ใช้เหตุและผล’

คำท้ายเหมือนจะตัดพ้ออยู่ในทีว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ผ่านการพูดคุยกันมาบ้างแล้ว เพียงแต่ต้องมาพูดคุยกันเป็นกิจลักษณะอีกรอบหนึ่ง จึงมาถามหาเหตุผลจากพรรคร่วมด้วยกันอีกครั้ง

กระทั่งหลังประชุมครม.จึงได้เห็นภาพการออกมาแถลงร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล โดยมี ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี เป็นต้นเสียงชี้แจงประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยังต้องมีการพูดคุยกัน แต่ตอนนี้รัฐบาลขอโฟกัสเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน

โดยในระหว่างการถามตอบ นายกฯ อิ๊งค์ ย้ำคำว่า ‘ต้องพูดคุยกันๆ’ อยู่หลายรอบ และไม่อยากให้สื่อใช้คำว่า ‘กลับลำ’ เพราะเรื่องนี้ได้คุยกันทั้งก่อนและหลังการประชุมครม.มาแล้ว

สุดท้ายในช่วงบ่ายแก่วันเดียวกัน ทั้งภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติ ต่างมีมติ **‘ไม่เห็นด้วย’**กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง เพราะที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้นั้น มีความเหมาะสมแล้ว ส่วนถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นการยกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับโดย ส.ส.ร.และต้องทำประชามติเสียก่อนเท่านั้น

จากจุดยืนและท่าทีของพรรครวมรัฐบาลดังกล่าว ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบสุดซอยของเพื่อไทย ต้องสะดุดหัวทิ่มหัวตำแท้งเสียก่อนคลอด ส่วนจะไปพร้อมกับพายุซูลิก หรือแค่นำเรือมาหลบเกาะไว้รอคลื่นลมสงบเสียก่อนค่อยเข็นออกมาใหม่อีกรอบ ก็ต้องรอดูอีกที

แต่คงไม่ง่ายนัก เพราะงานนี้หากเกิดจากแรงบีบของพรรคร่วมรัฐบาลล้วนๆ ที่ไม่ใช่การหาสนามบินให้ร่อนลงจอด ในทางการเมืองเพื่อไทยถือว่าเพลี่ยงพล้ำอย่างมาก

ยิ่งใช้ที่ประชุม สส.พรรคเมื่อวานกลับลำซ้ำอีกรอบ อ้างพรรคไม่ได้เป็นผู้เสนอ ทั้งๆ ที่วิญญูชนทั่วไปต่างรู้ว่า เพื่อไทยนั่นแหละที่จุดพลุขึ้นมาเอง แถมแอบ **‘มุบมิบ’**ไปยื่นผ่านงานสารบรรณสภาก่อนหมดเวลาราชการอีกต่างหาก

อย่างนี้ไม่เรียกถูกบีบให้ถอยแล้วจะเรียกว่าอะไร?!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์