ครม. เศรษฐกิจ ประชุมครั้งที่ 2 วันนี้ (10 มิถุนายน) ผลการประชุมเหมือนครั้งแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนคือ ไม่มีข้อสรุป มาตรการใหม่ ๆ ที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่นับวันยิ่งเลวร้ายขึ้นทุกที
‘พิชัย ชุณหวชิร’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังการประชุมว่า จะมีการใช้มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ‘ระยะสั้น’ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ประมาณ 3% จากเดิมที่สภาพัฒน์คาดการณ์ว่า จะขยายตัวได้ 2.4 %
ทั้ง 3 มาตรการได้แก่
1. ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเพิ่มนักท่องเที่ยวอีก 1 ล้านคน จากเป้าหมายเดิม 35.7 ล้านคน เพิ่มเป็น 36.7 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ จีดีพีเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.12 %
2. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ทำให้จีดีพี เพิ่มขึ้นอีก 0.24 %
3. เร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชน ผ่านบีโอไอซึ่งจะทำให้จีดีพี ขยายตัวได้อีกประมาณ 0.14-0.15%
ครม. เศรษฐกิจ คิดได้แค่นี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการบวกลบตัวเลข (0.12+0.24+0.15 =0.52 + GDP เดิม 2.4 = GDP 2.92%) ไม่ต้องมีก็ได้ มีแค่ครม. ชุดใหญ่ที่ประชุมทุกวันอังคารก็พอแล้ว เพราะมาตรการระยะสั้นทั้ง 3 นี้ ‘ไม่มีอะไรใหม่เลย’ เป็นเรื่องที่ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำอยู่แล้ว และที่ผ่านมา 10 เดือน รัฐบาลนี้ก็วนเวียนอยู่กับเรื่อง การท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างประเทศ การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ
เหมือนเอาหนังม้วนเก่า ที่คนดูมาหลายรอบแล้วมาฉายซ้ำ เปลี่ยนชื่อใหม่จาก ‘ครม.’ เป็น ‘ครม. เศรษฐกิจ’
การมี ครม. เศรษฐกิจ ก็เพื่อให้การ ‘แก้ไข’ ปัญหาเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โดยเอาปัญหาเศรษฐกิจมาคุยกันใน ครม. เศรษฐกิจ ‘หาข้อสรุป’ ลงมติกันให้เรียบร้อย แล้วเสนอให้ ครม. ใหญ่ จะประชุมกันวันรุ่งขึ้น รับทราบ ‘เห็นชอบ’ ไม่ต้องเสียเวลามาชี้แจง อภิปรายข้อดีข้อเสียกันอีก เพื่อความรวดเร็ว เพราะถือว่าผ่าน ครม. เศรษฐกิจ ที่นายกรัฐมนตรีก็เป็นประธานอยู่มาแล้ว
ครม. เศรษฐกิจ จะต้องขบคิดหาแนวทาง วิธีการบริหารจัดการเศรษฐกิจ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เป็นความคิดใหม่ วิธีการใหม่ ๆ ไม่ใช่ไปคุยกันในเรื่องเดิม ๆ ที่ทำกันอยู่แล้ว ดังเช่น มติ ครม. เศรษฐกิจที่ออกมาวานนี้ ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ ภูมิปัญญาของ ครม. เศรษฐกิจแต่ละคน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ลงมาจนถึงรัฐมนตรีที่เข้าประชุม
ตอนที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ บอกให้ เศรษฐา จัดประชุม ครม. เศรษฐกิจ คงไม่ได้บอกด้วยว่า ครม. เศรษฐกิจมีบทบาทอย่างไร เรื่องที่คุยกันควรจะเป็นเรื่องทำนองไหน
นายกฯ เศรษฐาเอง มีท่าทีที่ ‘ไม่สนใจ’ ไม่ให้ความสำคัญมากนักกับ ครม. เศรษฐกิจ ทำไปเพราะ ทักษิณบอกให้ทำ ชื่อ ครม. เศรษฐกิจ ยังไม่อยากจะใช้ แต่ขอเรียกว่า ‘คณะกรรมการประสานงานนโยบายเศรษฐกิจ’ การประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็เหมือนประชุมพอเป็นพิธี ประชุมเสร็จก็โยนให้เป็นภาระของ ‘พิชัย ชุณหวชิร’ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นคนแถลงข่าว
เรื่องที่ทุกคนในแวดวงการเมือง เศรษฐกิจรู้ดีอยู่แก่ใจคือ ปัญหาเศรษฐกิจไทยวันนี้คือ **‘ความไม่เชื่อมั่น’**ในตัวนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสินว่าจะมีความตั้งใจจริง และมีสติปัญญา ที่จะนำพาเศรษฐกิจไทยฝ่ามรสุมไปได้หรือไม่
10 เดือนที่ผ่านมานานพอที่จะประเมินได้ว่า เศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ใช่เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาของชาติ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ที่รุนแรงขึ้นทุกวัน และยังมองไม่เห็นทางออก