MGI หุ้นมหัศจรรย์ของ ณวัฒน์ คนจะรวย ช่วยไม่ได้

23 ก.พ. 2567 - 09:45

  • หุ้นมิสแกรนด์ MGI วิ่งขึ้นสวนทางกับภาวะตลาดหุ้นไทย

  • แม้โดนตลาดหลักทรัพย์ฯ ดับ “ซ่าส์” รอบสองขึ้นเครื่องหมาย P

  • ผลประกอบการปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท

economy-missgrandthailand-stock-mgi-SPACEBAR-Hero.jpg

คงไม่มีใครเชื่อ แม้แต่ตัว ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เอง เพราะภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่ ‘แจ็คพอต’ พาวเวอร์บอล เขากลายเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านจากหุ้นนางงาม บริษัทมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ที่ตัวเองก่อตั้งขึ้น และเพิ่งเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้ว

มหัศจรรย์ยิ่งเสียกว่าหุ้น NVIDIA บริษัทผู้นำด้านชิป ที่ขึ้นมาผงาดในยุคGenerative AI ซึ่งกำลังเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ที่เพิ่งขึ้นไปทำสถิติราคาสูงสุดที่หุ้นละ 795.24 เหรียญสหรัฐฯ ที่กำลังฮือฮากันในตลาดหุ้นวอลสตรีท

ราคาหุ้นของ MGI ล่าสุด ( 22 กุมภาพันธ์ 2567) ก่อนจะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ดับ “ซ่าส์” รอบสองขึ้นเครื่องหมาย P พักการซื้อขายอีกหนึ่งวัน ราคาพุ่งทะยาน “เย้ยฟ้าท้าดิน” ทะลุขอบมิติจักรวาลไปที่ หุ้นละ 50 บาท เมื่อคำนวณกับจำนวนหุ้น 210ล้านหุ้น ทำให้มาร์เก็ตแค็ป หรือ มูลค่าตลาดของ MGI ทะลุระดับหมื่นล้านบาท ชนิดทำเอาใครต่อใครอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน

เพราะแม้แต่บรรดาหุ้นกลุ่มบันเทิงที่ ณวัฒน์ เคยต้องไปงอนง้อขอเวลาทำรายการต่างก็มี มาร์เก็ตแคปต่ำกว่า MGI เสียอีก ไม่ว่าจะเป็น เวิร์คพอยท์ฯ WORK ของ ปัญญา นิรันดร์กุล จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ GRAMMY ของอากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม หรือแม่แต่ บีอีซี เวิล์ด ช่อง 3 BEC 

ไม่ต้องพูดถึง คู่ฟัด-คู่แค้น เจเคเอ็น โกลบอล JKN ของหญิงข้ามเพศพันล้าน แอน จักรพงษ์ จักราจุฑทธิบดิ์ ที่กำลังเผชิญมรสุมหนัก ที่มีอาการต่างกันราว “ฟ้ากับเหว” ในเวลานี้

จนถึงนาทีนี้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทถือหุ้น MGI อยู่ 42.86% คิดเป็นมูลค่าราว 4,298 ล้านบาท ก้าวขึ้นชั้นสู่ทำเนียบอภิมหาเศรษฐีหุ้นระดับพันล้านบาทในชั่วพริบตา

หุ้นมิสแกรนด์ MGI เปิดราคา IPO ซื้อขายวันแรกที่ระดับราคาหุ้นละ 4.95 บาท แต่หลังจากเข้ามาราคาหุ้นก็ถูกลากขึ้นมาเรื่อย ๆ ชนิด “ยื้อไม่หยุด ฉุดไม่อยู่” วิ่งขึ้นสวนทางกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ดัชนียังคงสลึมสลือ “ไซด์เวย์” วิ่งเตาะแตะอยู่แถว ๆ กรอบ 1,400 จุด มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

นักลงทุนพากันโดดเข้าใส่ MGI จนกลายเป็นหุ้นมหัศจรรย์ 9 เด้ง ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 910% และด้วยมาร์เก็ตแค็ปขนาดนี้เทียบกับกำไรปีล่าสุดของบริษัทที่เพิ่งแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีกำไรเพียง 119 ล้านบาท เชื่อหรือไม่ว่า MGI กำลังซื้อขายด้วยค่า P/E สูงถึง 88 เท่า !!!

คำถามคือ อะไรที่ทำให้ราคาหุ้นของ MGI พุ่งทะยานไปได้ขนาดนี้ และยังทำท่าจะทะยานต่อไปไม่หยุด เมื่อหันไปดูธุรกิจหลักของบริษัทที่ทำเรื่องการจัดประกวดนางงาม และบริหารศิลปิน คู่ขนานกับธุรกิจขายตรง ค้าส่ง-ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ด้านความงาม และอาหาร จะเป็นไปได้หรือที่จะทำกำไรได้มหาศาลในอนาคตถึงระดับ88 เท่าจากปัจจุบัน 

เรื่องนี้ทำให้หลายคนอดฉุกคิดไม่ได้ว่า เมื่อตอนที่ IB ที่ปรึกษาด้านการลงทุนกำหนดราคา IPO จึงผิดพลาดสาหัส ขนาดที่กำหนดราคาเข้าตลาดเพียงหุ้นละ 4.95 บาท ต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริงของบริษัทสูงเป็นสิบ ๆ เท่าขนาดนี้

ความจริงนับตั้งแต่เข้าตลาดฯ MGI ก็ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ เกาะติดความไม่ปกติของราคาหุ้นตัวนี้มาอย่างต่อเนื่อง เพราะถูกลากขึ้นไปหลายรอบ ชนิดแรงไม่แผ่ว  ทั้ง ๆ ที่ระหว่างทางก็โดนมาตรการกำกับการซื้อขายมาแล้วหลายระดับ ตั้งแต่กำหนดให้ซื้อด้วยเงินสด หรือ บัญชีแคลบาลานซ์ ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น แต่ก็ไม่สามารถสยบความร้อนแรงลงได้ จนต้องงัดมาตรการขั้นสุดท้ายโดยการขึ้นเครื่องหมาย P พักการซื้อขาย เนื่องจากการซื้อขายหุ้นปิดปกติ โดยไม่มีปัจจัยรองรับ 

MGI ถูกพักการซื้อขายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ แต่หลังจากกลับมาซื้อขายในวันรุ่งขึ้น แทนที่จะอาการสลด แต่กลับกลายเป็นไม่ยอมสยบ ราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปแบบ “เย้ยฟ้าท้าดิน” อีกรอบ หลังจากรับข่าวผลประกอบการปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท โดยราคาขึ้นไปปิดที่ หุ้นละ 50 บาท เพิ่มขึ้นอีก 19.76% ก่อนที่จะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นเครื่องหมาย P ซ้ำอีกรอบในวันนี้

MGI จึงกลายเป็นหุ้นที่โดนขึ้นเครื่องหมาย P เป็นรายแรก แถมยังโดนขึ้นเครื่องหมายนี้ติดกันถึง  2 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก และเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันที่ตลาดทุนกำลังเฝ้าจับตามองประสิทธิภาพในการกำกับการซื้อขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ฯว่าจะมีน้ำยามากขึ้นจริงไหม หลังจากที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามจากกรณีอื้อฉาวในหลาย ๆ กรณี

ตัว ณวัฒน์ เอง หลังจากถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ซัดหนัก ๆ เข้าไปหลายครั้ง จนถูกขึ้นเครื่องหมาย P ถึงสองรอบ ก็เริ่มเก็บอาการไม่อยู่ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก และขอเข้าพบผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯในวันนี้ (23 กุมภาพันธ์)  เพื่อสอบถามเหตุผลที่โดนขึ้นเครื่องหมาย P 

แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็เป็นเพียงหนึ่ง “ไฟท์บังคับ” ที่ ณวัฒน์ ต้องเล่นบทนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบรรดานักลงทุนขาใหญ่ ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ที่เข้ามาเก็งกำไรแบบ “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” ทั้งหลาย ก่อนที่ตกอยู่ในสภาพการล่มสลายของแชร์วงใหญ่ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพราะหากไปดูกลยุทธ์ การสร้างมหัศจรรย์ 9 เด้ง ของ MGI ก็จะพบว่า มันคือ “มันนี่เกม” ที่ไม่ได้ต่างจากการทำราคาของบรรดาหุ้นมหัศจรรย์อีกหลาย ๆ ตัวในตลาด

เริ่มจากการสร้างสตอรรี่ และสร้างภาพ ดึงนักลงทุนขาใหญ่เข้ามาเชียร์ก่อนเข้าตลาด คู่ขนานกับการสร้างสตอรี่ เกี่ยวกับการขยายธุรกิจ และความสำเร็จของธุรกิจเป็นระยะ เพื่อให้เกิดกระแสการเก็งกำไรหุ้น MGI แบบปากต่อปาก

แต่ความต่างคราวนี้คือ MGI ไม่ได้เล่นกับกลุ่มเป้าหมายเพียงแค่นักลงทุนในตลาดในเมืองกรุง แต่ยังมีการสร้างกระแสในกลุ่มนักลงทุนบรรดาเศรษฐีภูธรในต่างจังหวัด ผ่านกลไกของการประกวดนางงาม จนทำให้หุ้น MGI กลายเป็น “หุ้นนางงามมหาชน” ไปในชั่วพริบตา ที่บรรดาเศรษฐีภูธรต้องมีในมือ 

การพุ่งทะยานของหุ้น MGI จะเป็นเพียงฟองสบู่ หรือภาพลวงตา ณวัฒน์ จะกลายเป็นตำนาน ของมหาเศรษฐีพันล้านที่เร็วที่สุดภายใน 2 เดือน หรือทั้งหมดจะเป็นจริงได้เพียงชั่ววูบ อีกไม่นานคงมีบทพิสูจน์ แต่สำหรับคนในแวดวงตลาดหุ้น นิทานเรื่องคนเลี้ยงลิง ที่หลอกให้ชาวบ้านไปแย่งซื้อลิง ยังเป็นนิทานสอนใจคนเล่นหุ้นได้อยู่เสมอ...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์