นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน แสดงนิสัยแย่ ๆ ออกมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อโพสต์ X Srettha Thavisin เหน็บแกมด่า เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดนุชา พิชยนันท์ กรณีแนะนำให้แบงก์ชาติ พิจารณาลดดอกเบี้ยว่า
‘น่าจะพูดก่อน การประชุม กนง. อาทิตย์ที่แล้วนะครับ ไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ของการพูดตอนนี้ เพื่ออะไร หรือบอกว่า ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ควรจะทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้’
แม้เลขาฯ สภาพัฒน์ฯ คือ ผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี แต่เป็นข้าราชการระดับสูงสุด ซี 11 เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแล เศรษฐกิจมหภาคของประเทศ เจริญเติบโตขึ้นมาตามระบบด้วยความรู้ ความสามารถ ไม่ใช่เพราะสายสัมพันธ์ทางเครือญาติของบุพการี
คนเป็นผู้นำ เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรู้จัก การให้เกียรติ เพื่อนร่วมงาน ที่แม้จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่สถานะและศักดิ์ศรี ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ถ้าจะตำหนิ ก็ไม่ควรใช้วิธีเหมือนประจานต่อสาธารณะ และเรื่องที่ตำหนิ มีเหตุผล ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม ที่สะท้อนความเป็นคน ‘คิดเล็ก คิดน้อย’ เจ้าอารมณ์ ของนายกฯ แบบที่กระทำต่อเลขาฯ สภาพัฒน์
การแสดงนิสัยแย่ ๆ ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงานของเศรษฐา เป็นที่รู้ดีในหมู่ข้าราชการระดับสูงที่ต้องเข้าร่วมประชุม และบรรดารัฐมนตรีร่วมรัฐบาล สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เขาถูกโดดเดี่ยวจากคนในพรรค เป็นคนไม่มีเพื่อน ไม่มีลูกน้องที่ให้ใจ มีแต่บรรดา สมาชิกกลุ่ม ‘ปูแดง’ ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกส่งมาช่วยงาน ตอนรับตำแหน่งนายกฯใหม่ ๆ แต่ตอนนี้ หายหน้าไปเกือบหมด เพราะระอากับเศรษฐา
เหลือคนที่คุยกับเศรษฐา และเศรษฐาเชื่อฟัง ทำตามสั่งได้คนเดียว คือ ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นคนเจรจากับพี่ชายให้เศรษฐาเป็นนายกฯ
คนที่เคยร่วมก๊วนเตะบอลที่โปโลคลับ ที่เศรษฐา เป็นโต้โผ คงไม่แปลกใจกับการแสดงออกแบบไร้วุฒิภาวะของเศรษฐา พวกเขาชินกับ นิสัย ‘เตะไม่เลี้ยง’ จะเอาชนะท่าเดียวของเศรษฐาในสนามฟุตบอล และเชื่อว่า เศรษฐาไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในสนามการเมือง
ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯ จนถึงวันนี้ ก็ไม่ผิดไปจากที่คนรู้จักเศรษฐาว่าไว้
ความรู้ไม่มี ความสามารถไม่ปรากฏ นิสัยไม่ดีอีกต่างหาก จึงไม่มีใครคบ
วันนี้วิกฤตเศรษฐกิจไทย คือวิกฤตผู้นำ ที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ว่าจะพาประเทศไปทางไหน โดยพื้นฐานแล้วเศรษฐกิจไม่ได้ย่ำแย่ ตัวเลขการบริโภคภายในยังขยายตัว ราคาสินค้าเกษตรทั้ง ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน สูงกว่าทุกปี เพราะราคาตลาดโลก
แต่ประชาชนไม่มีกำลังใจ ไร้ความหวัง เพราะนายกรัฐมนตรี ไม่เคยปลุกปลอบสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน มีความหวัง มีแต่นายกรัฐมนตรี ที่วัน ๆ เอาแต่สร้างภาพหลอนหลอกคนไทยว่า เศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต และเอาแต่โทษผู้อื่นว่า เป็นตัวการทำให้เศรษฐกิจไม่ดี
ถึงเวลาหรือยังที่นายกฯแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า จะต้องคุยกับนายกฯแห่งดูไบว่า จะปล่อยให้เศรษฐา enjoy กับการเป็นนายกฯแห่งไทยคู่ฟ้า ไปอย่างนี้อีกนานแค่ไหน อย่ารอให้ฟางเส้นสุดท้ายหล่นลงมาบนหลังอูฐ เพราะอาจจะสายเกินแก้แล้ว
