การเคลื่อนไหวใด ๆ ของ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยในห้วงเวลาที่ผ่านมา นับแต่เดินทางกลับประเทศไทย มีหลายเรื่องที่ขยันทำให้เป็นข่าวครึกโครม ตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ชนิดที่บางเรื่องสามารถเลี่ยงได้ แต่ก็เหมือนจงใจให้เป็นข่าว
จนตอนหลังเริ่มมีคำถามตามมาว่าทำไม ‘ทิ้งไพ่โง่’ บ่อยจังหรือจงใจแกล้งโง่กันแน่?!
เริ่มจากตัวทักษิณเอง ที่ตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ ทั้งขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไปเดินห้างสรรพสินค้า และล่าสุดที่เป็นข่าวใหญ่ คือการอาสาเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพในเมียนมา ที่ ‘ล่อแหลม’ ต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เฉพาะกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน แต่ยังรวมถึงยักษ์ใหญ่อย่างจีน และสหรัฐฯ ด้วย
การแสดงออกในเรื่องดังกล่าวของทักษิณ ไม่เฉพาะชนกลุ่มน้อยในเมียนมาไม่ไว้ใจ แต่อาจลุกลามไปถึงปัญหาความมั่นคงด้วย หากล้ำเส้นมากไป จึงทำให้ทักษิณนาทีนี้ ไม่ได้ตกเป็นเป้าเฉพาะในสายตาของประชาชนเท่านั้น?!
ถัดมาการเล่น ‘เกินเบอร์’ ของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร กรณีวิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ล่าสุดแม้จะออกมาอธิบายกล้อมแกล้มว่า แค่อยากเห็นการทำงานของรัฐบาลกับ ธปท.ไปด้วยกัน แต่ใครต่อใครก็มองว่าไม่คุ้ม หากต้องการเอาคืนผู้ว่าแบงก์ชาติ ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ด้วยวิธีนี้
ยิ่งตอนหลังมี ‘เศรษฐา-ภูมิธรรม’ ออกมาประสานเสียงช่วยแก้ต่างให้ แต่ภาพที่ค่อนไปทางผู้ใหญ่ปกป้องเด็ก จึงทำให้ภาพลักษณ์ความเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของอุ๊งอิ๊งยิ่ง ‘ดำดิ่ง’ ลงไปอีก เพราะยังมีวุฒิภาวะไม่พอสำหรับการเป็นผู้นำประเทศ
สุดท้ายประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เรื่อง ‘อ้วน-ชวนอ๊วก’ กรณีข้าว 10 ปีกินได้ ของ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ ไม่ว่าจะมีเจตนาแอบแฝงเรื่องปูทางให้ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ได้เดินทางกลับประเทศในเร็วๆ นี้ ผ่านการฟอกขาวโครงการรับจำนำข้าว หรือเพื่อนำไปสู่การฟื้นคดี ให้เข้านิยามของการนิรโทษกรรมหรือไม่ก็ตาม
แต่พินิจดูแล้วไม่ว่าจะมองมุมไหนล้วนไม่เป็นผลดี มีแต่เสียกับเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ บวกกับการขับเคลื่อนนโยบายแต่ละอย่างของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ น้ำมันราคาแพง หรือแม้กระทั่งโครงการแลนด์บริดจ์ ที่คงพับแผนไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
ที่ล้วนแต่ยังเป็นวุ้น อยู่ระหว่างการตั้งไข่ ไม่มีอะไรคืบหน้า
ด้านหนึ่ง ถูกมองเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัวจากภาพความเป็นมืออาชีพของพรรคเพื่อไทยในอดีต ที่เคย ‘คิดใหม่ ทำใหม่’ มาวันนี้ ‘คิดใหญ่ แต่ทำไม่ได้’ คงเป็นเพราะเพื่อไทยมือตก หรือว่า **‘อัศวินคลื่นลูกที่สาม’ ** ตามไม่ทันโลกที่ปรับเปลี่ยนไปไกลโขแล้ว
แต่อีกด้าน มองการตีไพ่โง่ ทิ้ง ‘สเปโต’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของ ‘ทักษิณ’ และพรรคเพื่อไทย เป็นการจงใจแกล้งโง่ ต้องการปลุกเร้าอารมณ์ขุ่นเคือง สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายบางประการ อารมณ์เดียวกับที่ ‘ลุงกำนัน’ สุเทพ เทือกสุบรรณ เคยกวักมือเรียก ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ในอดีตหรือไม่
ไม่ว่าข้อสันนิฐานอย่างหลัง จะเป็นการมโนที่เกินเลยมากไปหรือไม่ก็ตาม แต่การกระทำแบบซ้ำๆ ในหลายเรื่องของทักษิณและคณะ เหมือนจงใจหย่อน ‘ฟางเส้นแล้วเส้นเล่า’ ลงไปในทะเลความไม่พอใจของผู้คน ซึ่งไม่รู้จะมีฟางเส้นสุดท้ายที่นำไปสู่อุบัติเหตุทางอารมณ์ขึ้นในวันไหน
หากวันนั้นมาถึง ทักษิณและคณะ อาจบรรลุภารกิจของตัวเองได้ก็จริง แต่กับสังคมไทยโดยรวมไม่รู้จะคุ้มกันหรือไม่
การเคลื่อนไหวแบบผิดเหลี่ยมในหลายเรื่องของรัฐบาลและผู้นำตัวจริง มันชวนให้คิดตามแบบนั้น ซึ่งหลายคนไม่อยากให้นำประเทศไทยกลับเข้าสู่วงจรเดิม ๆ อีก
รอดูว่าเรืองนี้จะเป็นความมั่นใจ จนย่ามใจหรือจงใจเรียกแขกกันแน่?!
