ดูเหมือนว่า ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเรื่องเดียวของรัฐบาลนี้ คือ วีซ่าฟรี หรือ การยกเว้นไม่ต้องทำวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประเดิมตั้งแต่ ครม.นัดปฐมฤกษ์ วันที่ 13 กันยายนปีที่แล้ว ด้วยการยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน
หลังจากนั้นก็ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง คือ ขยายวีซ่าฟรีสำหรับคนรัสเซียจาก 30 วันเป็น 90 วัน ตามมาด้วยวีซ่าฟรี สำหรับคนไต้หวัน อินเดีย และญี่ปุ่น
ล่าสุดคือ การให้วีซ่าฟรีแบบถาวรแก่คนจีน มาอยู่ในไทยได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน กี่ครั้งก็ได้ แต่รวมกันต้องไม่เกิน 90 วัน ภายใน 6 เดือน โดยคนไทยก็จะได้ยกเว้นวีซ่าเข้าจีน ในเงื่อนไขเดียวกัน
เป้าหมายการให้วีซ่าฟรี คือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะการไม่ต้องทำวีซ่า ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ที่มากไปกว่านั้น คือ นักท่องเที่ยวไม่ต้องเตรียมเอกสารมากมาย เสียเวลารอวีซ่า มีพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบิน ก็พร้อมเดินทางได้ทันที
ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนมกราคม จากการแถลงของโฆษกรัฐบาล ชัย วัชรงค์ มีจำนวน 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากมกราคมปีที่แล้ว ร้อยละ 27.8 เฉพาะนักท่องเที่ยวจีน เพิ่มขึ้นถึง 5เท่าตัว เป็นผลจากนโยบายวีซ่าฟรี ของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ จะทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 35 ล้านคน ไปถึง 40ล้านคนได้
นอกจากธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว อีกธุรกิจหนึ่งที่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ จากนโยบายวีซ่าฟรีแบบถาวร สำหรับจีนคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ไม่รู้ว่า เป็นผลพลอยได้ ที่บังเอิญเกิดขึ้น หรือว่า นายกฯที่มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เล็งเห็นผลอยู่แล้วว่า ใครจะได้ประโยชน์จากวีซ่าฟรีบ้าง
เรื่องนี้ ไม่ได้กล่าวหากันลอย ๆ แต่เป็นเรื่องที่ คนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ก็ยอมรับว่า ได้อานิสงค์จากนโยบายนี้
วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) บอกว่า ลูกค้าต่างชาติเป็นกำลังซื้อสำคัญในปี2567 เพื่อทดแทนกำลังซื้อในประเทศอ่อนแอและอำนาจการซื้อลดลง
‘เมื่อรัฐบาลให้ฟรีวีซ่าไทย-จีนเป็นการถาวร และวีซ่าฟรีชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศคาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน คาดว่าจะส่งผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมไทยได้บ้าง เพราะทำให้การเดินทางเข้ามาสะดวก ซึ่งต่างชาติจะซื้อคอนโดฯไว้เป็นบ้านหลังที่สอง อยู่ใกล้โรงเรียนลูก ถ้าไม่ได้มาอยู่ จะปล่อยเช่าได้ โดยช่วง 9 เดือนปี 2566 ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังมีการโอนมากสุดคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% โดยมีจำนวน 4,991 หน่วย และมีมูลค่าโอนอยู่ที่ 24,740 ล้านบาท’
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่านโยบายวีซ่าฟรีไทย-จีนถาวร นอกจากส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว ยังมีผลทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งพูลวิลล่าและคอนโดมิเนียมคึกคักไปด้วย
โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ซึ่งในปี 2567 ในส่วนของตลาดต่างชาติแสนสิริยังบุกต่อเนื่อง รองรับการท่องเที่ยวฟื้นตัว ตั้งเป้ายอดขาย 7,000 ล้านบาท เติบโต 15% จากปี 2566 มียอดขาย 6,100 ล้านบาท ลูกค้าหลักยังเป็นจีน รัสเซีย และเชื่อว่าลูกค้าจีนจะกลับมามากขึ้นภายในปี 2567 นี้
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยบวกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 คือ ดีมานด์ต่างชาติ เพราะตลาดในประเทศกำลังซื้อหดตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ยังมีดีมานด์ต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มจีนจากฮ่องกง ไต้หวัน เมียนมา การที่รัฐบาลมีนโยบายวีซ่าฟรีไทย-จีนถาวร นับเป็นเรื่องดี ทำให้คนมาเที่ยวและเกิดความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ใครว่า รัฐบาลไม่มีผลงาน ประเทศไทยไม่เดินหน้า เพราะมีนายกฯที่เอาแต่เดินสาย เห็นหรือยังว่า ทำอะไรบ้าง ทำเพื่อใคร??
