พรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) ทักษิณ ชินวัตร มีนัดกับอัยการให้พาตัวไปส่งฟ้องศาลอาญา ฐานทำผิดกฎหมาย อาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หลังจากที่ขอเลื่อนนัดครั้งก่อนวันที่ 29 พ.ค. เพราะติดเชื้อโควิด19
ทนายความของทักษิณ วิญญัติ ชาติมนตรี ยืนยันผ่านสื่อเป็นมั่นเหมาะว่า รอบนี้ ทักษิณไปแน่ ไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา 8 ตอนเก้าโมงเช้า ก่อนจะไปขึ้นศาลอาญาที่อยู่ติด ๆ กันกับสำนักงานอัยการ ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร เป็นดุลพินิจของศาล
ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า ทักษิณแอดมิดเข้าโรงพยาบาล เพื่อหนีคดีบ้าง ทักษิณไปแล้วบ้าง ไปดูยูโร 24 ที่เยอรมัน แล้วต่อด้วยโอลิมปิก 2024 ที่ปารีสปลายเดือนกรกฎาคม เหมือนครั้งไปดูโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง ไปแล้วหายไป 16 ปี ถึงกลับบ้าน
จนทีมงานต้องปล่อยภาพทักษิณ ไปกินห่านพะโล้ 4 ชั่วอายุคน ที่ร้านฉั่วคิมเฮง สาขากรุงเทพกรีฑา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.ออกมาสยบข่าวลือ
คนที่ปูดข่าวว่า ทักษิณเข้าโรงพยาบาล เพื่อหนีคดี คือ หมอวรงค์ เดชกิจวิกรมประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี
หมอวรงค์ ยังโพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ดีลลับที่ฮ่องกง ถุงขนมภาค 2 ว่า สายลับรายงานว่า มีหญิงสาวไปเที่ยวฮ่องกงกับครอบครัว ช่วงสงกรานต์ โดยนัดพบกับเจ้าของบริษัทกาสิโน ให้เป็นเจ้ามือจ่ายค่าถุงขนม 2 พันล้านแลกกับการให้เปิดคาสิโนในประเทศสารขันธ์ เพื่อให้อัยการทำสำนวนคดีของนายกประเทศสารขันธ์ ให้เป็นสำนวนอ่อน ๆ เพื่อให้ศาลชงตบง่าย ๆ ในการให้ประกัน
สายลับ ยังรายงานอีกว่า เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีระดับอธิบดีของหน่วยงานตุลาการ เดินทางไปฮ่องกงเพื่อภารกิจนี้ด้วย ทุกอย่างล้วนได้รับการประสานงานจากอดีตประมุขใหญ่ของตุลาการ และอดีตอัยการใหญ่เพื่อให้งานชิ้นนี้สำเร็จลุล่วงไปตามเป้าหมาย
เรื่องนี้ออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็มีคนเชื่อเป็นตุเป็นตะ เอาไปเล่นข่าวปั่นกระแสต่อ
จริงหรือเท็จไม่รู้ แต่ศาลเดือดร้อน เพราะนัยที่หมอวรงค์ต้องการสื่อ คือ มีการติดสินบน อัยการ และศาล ในคดีของทักษิณ เป็นเรื่องที่กระทบถึงภาพลักษณ์ของศาล จึงมีความเคลื่อนไหวจากศาล ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
สรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการศาลยุติธรรม (กต.) วันนี้ (17 มิ.ย.) มีการพิจารณาเรื่องนี้ โดย กต. เสนอให้ประธานศาลฎีกาพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการฟังข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น
เมื่อ กต. ว่าอย่างนี้ ประธานศาลฎีกาก็คงต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง คนแรกที่จะถูกเชิญไปให้ข้อมูลก็คือ หมอวรงค์ ว่ามีข้อมูลหลักฐานอะไรในเรื่องถุงขนม ภาค 2
ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็คงมีการขยายผลไปถึงคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการถุงขนมภาค 2 ถ้าหมอวรงค์ ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นเรื่องจริง หากศาลไม่ติดใจ ก็คงจบตรงที่ ขบวนการถุงขนมภาค 2 ไม่มีอยู่จริง
แต่ถ้าศาลเห็นว่า เรื่องถุงขนมภาค 2 สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของศาล เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลอย่างร้ายแรง หมอวรงค์มีความเสี่ยงที่จะตกที่นั่ง ขว้างงูไม่พ้นคอ ซึ่งหมายถึง ทำอะไรแล้ว ผลร้ายกลับมาหาตัว