ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 10 วัน 10 คืน นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ไม่อยู่ประเทศไทย (อีกแล้ว) เพราะจะบินไปประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย 3 วัน เสร็จแล้วบินข้ามทวีป ไปฝรั่งเศส เพื่อคุยกับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จากฝรั่งเศสบินไปเยอรมัน
ที่ฝรั่งเศสกับเยอรมัน มีหัวข้อเจรจาเรื่อง ‘การเกิดเสรีการค้า เอฟทีเอ ไทย อียู’ ที่ค้างคามานานหลายปี นายกฯ บอกว่า ฝรั่งเศสกับเยอรมัน เป็นประเทศใหญ่ในอียู มีเสียงดังกว่าเพื่อน ถ้าได้ไปจับเข่าคุยกับผู้นำของ 2 ประเทศนี้ จะช่วยเร่งรัดการเจรจาเอฟทีเอ ได้เร็วขึ้น
กระทรวงต่างประเทศคงไม่ได้บอกว่า อียู เขามีฝ่ายบริหารทำหน้าที่เหมือนรัฐบาลกลาง กำหนดนโยบายที่ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติตาม ประเทศใหญ่หรือเล็ก มี 1 เสียงเท่ากัน และการลงมติเรื่องใดๆ ต้องเป็นเอกฉันท์ คือ เห็นพ้องต้องกันทั้ง 27 ประเทศสมาชิก ถ้ามีประเทศใด จะเล็กแค่ไหนก็ตาม ไม่เห็นด้วยเพียงประเทศเดียว มติเรื่องนั้น ๆ จะตกไป
นายกฯ เศรษฐา คงต้องไปอียูอีกหลายรอบ เพื่อคุยกับผู้นำอีก 25 ประเทศให้สนับสนุนข้อตกลงเอฟทีเอ ไทย อียู
เศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีมาครบ 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นโยบาย **‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ ** อย่างเช่น แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ถึงวันนี้น่าจะ ‘แท้ง’ ไปเรียบร้อยแล้ว เหลืออยู่แต่ว่า จะบอกกับประชาชนว่ายังไงดี จะโยนบาปให้แบงก์ชาติ เป็นแพะรับบาป หรือโบ้ยไปให้ ปปช. ดี
คิดดูก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่ไม่มีอำนาจ สั่งการอะไร เพราะมี นายกฯคนที่ 2 คนที่ 3 ที่เป็นศูนย์อำนาจแท้จริง
อีกไม่นาน นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ก็จะกลับมาหลังศาลฏีกายกฟ้องคดีโรดโชว์ ไทยแลนด์ 2020 เมื่อวานนี้
มีตำแหน่ง แต่ไม่มีอำนาจ นายก ฯเศรษฐา จึงต้องหาอะไรทำ เพื่อสร้างภาพว่า มีผลงาน
ง่ายที่สุด คือการโชว์วิสัยทัศน์ วาดภาพอนาคตประเทศไทย ให้ประชาชนฟัง ซึ่งทำไปแล้ว 2 ครั้ง หัวข้อ Ignite Thailand แต่ไม่มีอะไรใหม่ ครั้งแรก คือ การลอกผลงานและวิชั่นของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ครั้งที่สอง เรื่อง ประเทศไทยเป็นฮับการบิน ก็ไปลอกเอา แผน 10 ปีของ บริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย มาย่อให้เหลือ 5 ปี
อีกวิธีหนึ่ง ที่เป็นการสร้างภาพว่า ทำงานหนัก ไม่มีเสาร์อาทิตย์คือ เดินสายต่างจังหวัด สลับกับต่างประเทศ
เศรษฐาเป็นนายกฯ ได้ 6 เดือน บินไปต่างประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 11 ครั้ง คือ ไปประชุมยูเอ็นที่นิวยอร์ก ไปคุยกับสมเด็จฮุนเซนที่กัมพูชา ไปฮ่องกง มาเลเซีย บรูไน ลาว สิงคโปร์ ไปพบ
‘สี จิ้น ผิง’ ที่จีน ไปประชุมเอเปคที่ซานฟรานซิสโก ไปพบเจ้าชาย ‘บิน ซัลมานฯ’ นายกรัฐมนตรีซาอุดิอาระเบีย ไปประชุมสุดยอดอาเซียน ญี่ปุ่นที่โตเกียว ไปประชุมเวิล์ด อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่ดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ และล่าสุดก่อนทริป 10 วันนี้ คือ ไปศรีลังกา
ในประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปีมา นายกฯ เศรษฐาไปลงพื้นที่มาแล้ว 15 จังหวัด และมีแผนจะให้ครบทุกจังหวัดภายในปีนี้
นี่คือ ผลงานในรอบ 6 เดือนของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ซึ่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีคลังด้วย แต่เข้ากระทรวงหนเดียว คือ วันเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง
มีนายกฯ ที่อยู่ไม่ติดทำเนียบ เอาแต่เดินสายทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศ ประเทศไทยเลยไม่เดินหน้า พาลจะถอยหลังเอาด้วยซ้ำ