‘ทักษิณ ชินวัตร’ ผู้เย้ยฟ้าท้าดินแห่งยุคสมัย

27 มี.ค. 2567 - 09:01

  • หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาก็แข็งแรงแบบทันทีทันใด

  • เดินทางกลับเชียงใหม่ และเข้าไปที่ทำการพรรคเพื่อไทย

  • ทักษิณ ชินวัตร ในเวลานี้ จึงถูกตั้งคำถามมากมาย

economy-thaksin-pheuthai-SPACEBAR-Hero.jpg

นับตั้งแต่เดินทางกลับประเทศไทย มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ‘ทักษิณ ชินวัตร’ มีหลายเรื่องที่ทำไปแล้วคนทั่วไปคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นการรับโทษโดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว หลังการพักโทษได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่ แต่เหมือนไปลงพื้นที่ตรวจงานของผู้มีตำแหน่งแห่งหนอะไรสักอย่างหนึ่ง

ไม่เหลือสถานะของการเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างพักโทษให้เห็นแม้แต่นิดเดียว

ล่าสุดการเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยในรอบ 18 ปีของทักษิณ เมื่อวันวันอังคารที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ทำเอาพรรคแทบแตก เพราะมีคนการเมืองทั้งรัฐมนตรี สส.สมาชิกพรรค และมวลชนคนเสื้อแดง แห่แหน ‘แตร๋นแต้’ มารอรับกันแน่นพรรค

อันนับเป็นอีกก้าวของทักษิณ ที่ปรากฎตัวในทางการเมืองแบบออกตัวแรงและเร็ว จนผู้คนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า จะเข้าข่ายหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่?

นักข่าวไปถาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมว่า  การที่ผู้อยู่ระหว่างพักโทษไปทำแบบนี้ ไม่มีข้อห้ามใช่หรือไม่ คำตอบที่ได้คือ 

‘มีแต่กรมคุมประพฤติให้มารายงานตัว ส่วนจะไปไหน พบใคร ในกฎกระทรวงไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมือง’

อีกคนที่นักข่าวไปถาม ทั้ง ๆ ที่ไม่แน่ใจจะได้คำตอบอย่างไร คือ ‘ชวน หลีกภัย’ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับได้รับคำตอบสั้น ๆ แบบไม่อ้อมค้อมว่า 

‘พรรคของท่าน ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะไป’

ส่วน ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกถึงความรู้สึกการมาพรรคเพื่อไทยของคนที่เป็นพ่อว่า 

‘ทำให้สส. มีความฮึกเหิม มีกำลังใจทำงานมากขึ้น เป็นความรู้สึกที่ดี’

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา เพื่อจะบอกว่า ในส่วนของคนพรรคเพื่อไทยและมวลชนที่ให้การสนับสนุน ไม่มีใครติดใจสงสัย มีแต่ความยินดีปรีดา ที่ได้มีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น แถมยังมีการจองคิวกันล่วงหน้าไว้หลวม ๆ อยากจะให้ทักษิณไปพบปะกับมวลชนในจังหวัดของตัวเองด้วย

แน่นอนว่า คงได้เห็นภาพการเดินสายลงพื้นที่พบปะมวลชนที่เป็นฐานเสียงพรรคเพื่อไทยของทักษิณในเร็ววันนี้ ซึ่งคงไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 22 สิงหาคม เพื่อให้พ้นโทษเสียก่อน เพราะจะนานเกินไปและไม่ทันกับสถานการณ์ที่ต้องเร่งกอบกู้คะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทย

เนื่องจาก 7-8 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง ‘เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง’ ในทางการเมืองถือว่าไม่ผ่านการประเมินทั้งคู่ หากขืนปล่อยเอาไว้นานมีแต่จะเพลี่ยงพล้ำและอาจจะกู่ไม่กลับ ยิ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว จึงทำให้ทักษิณต้องรีบออกหน้ามากุมสภาพเอง

ทีนี้จากคำถามเรื่องการกระทำที่ ‘หมิ่นเหม่’ เข้าข่ายขัดกฎหมาย และคำตอบแบบไม่กลัวถูกฟ้องหมิ่นประมาทซ้ำชอง ‘น้าชวน’ ข้างต้น จะเป็นเครื่องวัดใจ กกต.และกลุ่มนักร้องว่า จะมีใครติดใจสงสัยพฤติกรรมการกระทำของทักษิณที่ผ่านมาหรือเปล่าว่า ทำได้หรือไม่ได้อย่างไร และเข้าข่ายขัดกฎหมายหรือไม่

โดยเฉพาะที่มีข้อห้ามกำหนดไว้ในสองมาตราของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง คือ

มาตรา 28 ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ  ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

ต่อกรณีนี้ ประธาน กกต. ‘อิทธิพร บุญประคอง’ ยืนยันการกระทำที่จะเข้าข่ายความผิด 2 มาตรานี้ จะต้องมีการครอบงำ 

‘การไปที่พรรค ก็ไม่น่าจะถึงขนาดเป็นการครอบงำ แต่หากมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่าเป็นการครอบงำ ก็ถึงเวลาที่กกต. ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย’

แม้จะยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย และในวันที่ทักษิณเข้าพรรค คนในเพื่อไทยโดยเฉพาะ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ก็ตอบคำถามนักข่าวด้วยความระมัดระวังอยู่บ้าง ทั้งยืนยันตลอดเวลาสองชั่วโมงที่ผู้เป็นพ่อพบปะกับรัฐมนตรี และสส.ของพรรคนั้น ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเมืองกันเลยก็ตาม

แต่กับการแสดงออกแบบไม่ค่อยระมัดระวัง แถมค่อนไปทาง ‘เย้ยฟ้าท้าดิน’ มั่นใจสูง ไม่ยี่หระต่อสายตาผู้คนของทักษิณ ดังที่ได้ลั่นวาจาไว้ที่ จ.เชียงใหม่ ‘ใครไม่ชอบก็ให้ต่างคนต่างอยู่ไป’  

คำพูดและอาการย่ามใจที่ว่า วันข้างหน้ามันอาจจะย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวทักษิณและคนเพื่อไทยได้ในวันใดวันหนึ่ง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์