แปลงที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนด หางโผล่!ได้คืบจะเอาศอก

20 ก.พ. 2567 - 07:50

  • การปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. มีมาหลายยุค

  • ปรากฎการณ์ หมุด ส.ป.ก. ในพื้นที่อุทยาน ก็ยังเกิดขึ้นให้เห็น

  • สุดท้ายที่ดิน ส.ป.ก. ก็จะกลับมาเป็นอาวุธทำร้ายตัวเองได้ในที่สุด

DEEP-SPACE-economy-thammanat-land-political-law-SPACEBAR-Hero.jpg

นโยบายแปลงที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เป็น ‘โฉนด’ เริ่มออกฤทธิ์ออกเดชแล้ว เมื่อมีหลักหมุด ส.ป.ก.ปริศนา ไปโผล่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในห้วงเวลาไล่เรี่ยกับที่รัฐบาลประกาศนโยบายแปลงที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนดช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้คนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ของกระทรวงเกษตรฯ ก็แค่เป็นห่วงที่ดินที่รัฐจัดสรรให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ จะถูกเปลี่ยนไปอยู่ในมือของผู้มีอันจะกิน เพราะให้มีการจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินส.ป.ก.ได้ ไม่เฉพาะให้นำไปเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารเท่านั้น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลางป่าเขาใหญ่วันนี้กลับซับซ้อนกว่า เพราะมีการสร้างแนวเขต ส.ป.ก.เท็จ ขยายเข้าไปในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อหวังนำไปออกโฉนดที่ดินแล้วนำไปขายเป็นเงินเป็นทอง

ในอดีตเคยได้ยินแต่เรื่องหนังสือ ‘สค.บิน’ กับ ‘สค.บวม’  เท่านั้น ซึ่งเป็นหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินของผู้ครอบครองที่ได้ทำประโยชน์ในที่ดิน อยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ บินจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง แถมมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากเดิม จึงกลายเป็นทั้ง สค.บิน และสค.บวมในเวลาเดียวกัน

สำหรับที่ดิน ส.ป.ก.เคยมีการปลดล็อคการใช้ที่ดินเพิ่มเติมจากวัตถุประสงค์เดิมมาแล้วหลายครั้ง โดยในสมัยรัฐบาล ‘**คสช.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ** ได้ใช้อำนาจ มาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 31/2560 ให้กิจการด้านพลังงาน 3 ประเภท ได้แก่ กิจการเหมืองแร่ ผลิตปิโตรเลียมและผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม สามารถเข้าใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือที่ดินส.ป.ก.ได้

ต่อมาในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ รมช.เกษตรฯ ขณะนั้น ซึ่งปฏิบัติราชการแทนรมว.เกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ลงนามประกาศอนุญาตให้ใช้ที่ดินส.ป.ก.เพื่อกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิ่มเติม ในวันที่ 28 ตุลาคม2563 และมีผลบังคับใช้ทันที

ทั้งนี้ กิจการที่ปรากฎในบัญชีแนบท้ายประกาศนั้น ครอบคลุมกิจการต่างๆ อย่างกว้างขวาง อาทิ ข้อ 1.5 ระบุถึงกิจการตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นการบริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในด้านเศรษฐกิจและสังคมได้แก่

1.กิจการปั๊มน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม แก๊สแอลพีจีและอู่ซ่อมรถ เช่น ปั๊มน้ำมัน ปั๊มน้ำมันชุมชน สถานีน้ำมัน ประเภทปั๊มหลอด ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดเล็ก ระบบผลิตไบโอแก๊ส ปั๊มน้ำมันและซ่อมจักรยานยนต์ กิจการอู่ซ่อมรถ(เงื่อนไขต้องเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการเกษตร)

2.กิจการผลิตน้ำและน้ำแข็ง เช่น โรงงานผลิตน้ำดื่ม โรงงานผลิตน้ำดื่มระบบอาร์โอ โรงงานน้ำแข็ง

3.กิจการตลาดจำหน่ายสินค้า เช่น ตลาดกลางชุมชน ตลาดสด ตลาดนัด

4.กิจการจำหน่ายรถยนต์และเครื่องกลทางการเกษตร เช่น ร้านจำหน่ายเครื่องกลทางการเกษตร ร้านจำหน่ายรถแทรกเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ที่เกี่ยวข้อง

5.กิจการร้านค้า เช่น ร้านจำหน่ายของชำ ร้านโชห่วย ร้านค้าปลีก ร้านจำหน่ายไฟฟ้าเครื่องใช้ในครัวเรือน ร้านตัดผม ทำผม ร้านตัดเย็บ จำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องนอน

6.กิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์

7.กิจการไปรษณีย์ เช่น สถานที่รับส่งวัสดุภัณฑ์ และไปรษณียภัณฑ์

8.กิจการสุขภาพ เช่น คลินิก สถานพยาบาล ทันตกรรม ร้านจำหน่ายยา เวชภัณฑ์

9.กิจการคมนาคม เช่น สถานีขนส่ง รถรับจ้าง

10.กิจการร้านอาหาร เช่น ร้านจำหน่ายข้าวแกง อาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว

11.กิจการสาธารณะที่เอกชนขอใช้ เช่นโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก

12.กิจการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เช่น ที่อยู่อาศัย ที่พัก หอพัก

ยกบางข้อในประกาศแนบท้ายมาให้อ่านกันทั้งดุ้น เพื่อให้เห็นว่ามีการขยายวัตถุประสงค์การใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพิ่มเติมจากเดิมมาแล้วมากน้อยขนาดไหน จนกระทั่งนำมาแปลงเป็นโฉนดในที่สุด ให้เปลี่ยนมือได้ จำหน่ายจ่ายโอนได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด

นับเป็นการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินส.ป.ก.ที่ต่างไปจากเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะหากเทียบกับสมัยอดีตที่จำกัดจำเขี่ยให้เฉพาะกับเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเพียงพอเท่านั้น ถึงขนาดต้องตีความนิยามคำว่า ‘เกษตรกร’ หมายถึงใครบ้าง และทำให้รัฐบาลในอดีตล่มมาแล้ว เพราะเอาที่ดิน ส.ป.ก.ไปแจกให้กับ ‘กลุ่มนายหัว’ ผู้มีอันจะกินในเมือง

ปัญหาหลักหมุด ส.ป.ก.ปริศนา ที่ไปโผล่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากไม่ใช่แค่แนวเขตทับซ้อนธรรมดา แต่มีผู้อยู่เบื้องหลัง ทำกันอย่างเป็นขบวนการ เพื่อจ้องฮุบพื้นที่หลวงอย่างที่ ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติฯ ว่าไว้ นับว่าไม่ธรรมดา

จึงน่าจะสอบไปให้กว้างและลงลึกมากกว่านั้น อาจจะเจอพวก ‘กังฉิน’ ที่ได้คืบจะเอาศอกแล้วในที่สุดหางก็โผล่ !!! มาให้เห็น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์