กกต.เดินหน้าลุยไฟ จัดเลือกสว.ผ่านไปแล้วสองด่าน ในระดับอำเภอกับระดับจังหวัด โดยไม่สนเสียงทัดทานการฮั้ว การทำผิดกฎหมายที่มาจากรอบทิศทาง ที่บางเรื่องได้แนบหลักฐานการกระทำผิดมาด้วย
ตั้งแต่การสมัคร รูปถ่าย เสื้อผ้า หน้า ผม ก๊อปมาจากร้านเดียวกัน ใบรับรองแพทย์ มาจากคลินิคเดียวกัน แถมรับรองคุณสมบัติกันเอง บางรายเป็นนายจ้างคนเดียวเซนต์รับรองให้ผู้สมัครมากถึง 80 คน ไม่นับคุณสมบัติผู้สมัครในแต่ละกลุ่มอาชีพที่ผิดฝาผิดตัว
ที่น่าเศร้า คือ ผลการเลือกระดับอำเภอ ผู้สมัครประเภทดี เด่น ดัง หลายคนสอบตกตั้งแต่รอบแรก ขณะที่ผู้ผ่านเข้ารอบระดับจังหวัด หลายคนเป็นชาวสวน พนักงาน ลูกจ้างในปั๊มน้ำมัน ชนิดที่เทียบน้ำหนักกันแล้วไม่น่าจะผ่านเข้าไปได้
พอมาระดับจังหวัด คนดัง ๆ หลายคนก็ร่วงตั้งแต่รอบแรก บางคนร่วงรอบสอง มีบ้างที่ผ่านได้เป็นตัวแทนของจังหวัด แต่ก็นับหัวได้ไม่กี่คนเท่านั้น
ส่วนหลายคนที่ผ่านแต่ละด่านเข้ามาได้แบบมีคะแนนโดด และบังเอิญผลออกมาตรงกับโพย จึงสันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นตัวจริง-เสียงจริง ส่วนบางรายก็ถูกส่งเข้ามาทำหน้าที่ "โหวตเตอร์" ในแต่ละระดับเท่านั้น
เมื่อ กกต.ยังยืนยันเดินหน้าเลือก สว.ในท่ามกลางบรรยากาศที่ว่า ก็เหลือแต่ศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะชี้ขาดในวันอังคารที่ 18 มิถุนายนนี้ว่า จะให้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ซึ่งเบื้องต้นประเด็นการร้อง พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสว.4 มาตรา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่นั้น มีการเดาผลกันไว้ 3 แนวทาง ได้แก่
หนึ่ง ขัดรัฐธรรมนูญทั้ง 4 มาตรา ซึ่งถ้าผลออกมาแบบนี้ การเลือกสว.ก็จะปิดจบแค่ระดับจังหวัด และรอให้แก้ไขกฎหมายลูกทั้ง 4 มาตรา รวมทั้ง มาตราที่เกี่ยวข้องก่อนแล้วค่อยมานับหนึ่งกันใหม่
สอง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็เดินหน้าเลือกในระดับประเทศในวันพุธที่ 26 มิถุนายนนี้ต่อไป พร้อม ๆ กับการยื่นร้องผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้สมัครที่ไม่พอใจ
สาม ผลการวินิจฉัยออกมาแบบกลาง ๆ ในเชิงให้คำแนะนำเหมือนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอดีต ที่แนะนำให้ไปทำประชามติสอบถามประชาชนผู้มีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญเสียก่อน เช่น ให้ย้อนกลับไปที่ศาลปกครอง เพื่อให้แก้ไขในสิ่งที่เป็นปัญหาก่อน เป็นต้น
นั่นเป็นการเดาทางผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะออกได้กี่หน้า แต่มีคนฟันธงไปล่วงหน้า หากยังดันทุรังเลือก สว.ต่อในสถานการณ์แบบนี้ สว.ตัวตึง สมชาย แสวงการ เชื่อว่าต้องเป็น "โมฆะ" อย่างแน่นอน แถมท้าเดิมพันตำแหน่งกับ 7 กกต.+ เลขาธิการ กกต.เอาไว้ด้วย
เนื่องจากเห็นว่า ต่อให้ 4 มาตรา ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่กระบวนการที่ดำเนินการอยู่ในเวลานี้ไม่ชอบ ดังนั้น จะเอาผิดหรือสอยเฉพาะผู้ที่ได้รับเลือกมาโดยมิชอบภายหลัง แล้วเลื่อนผู้ที่อยู่ในบัญชีสำรองอีก 100 คนขึ้นมาแทน ก็ทำไม่ได้
เพราะกระบวนการเลือกในแต่ละระดับที่ไม่ชอบนั้น เชื่อมโยงถึงกันทั้งหมด
จึงเกิดคำถามตามมาว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วใย กกต.ยังดันทุรัง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้้แสดงท่าทีจะเลื่อนการเลือกระดับอำเภอ ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาออกไปก่อน
ตั้งท่าจะเลื่อนแต่ไม่เลื่อน!!
กิระ ขะลุ สุทัง ฟังมาว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลับลำ 360 องศา คนใน กกต.เขาลือกันให้แซ่ดว่า มันมีเรื่อง "ค่าหัวคิว" การจัดการตั้งแต่สถานที่เลือกไปถึงการจัดฝึกอบรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จากค่าใช้จ่ายก้อนโต จำนวน 1,800 ล้านบาท
โดยมีคนที่เป็นมือทำงานให้กับผู้ใหญ่บางราย ที่ติดสอยห้อยตามมาตั้งแต่สมัยที่ยังรับราชการ ซึ่งเป็นที่รู้กันทั้งสำนักงานว่า "สถานะจริง" ของเธอเป็นมากกว่าคณะทำงาน คอยจัดการเรื่องนี้ และบ่อยครั้งที่ "เธอ" มักตามติดเข้ามาตามความคืบหน้างานถึงในห้องประชุม
ไม่เว้นแม้แต่โครงการต่าง ๆ ที่ลงไปในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ตะวันออก ตก ที่ขยันจัดฝึกอบรมกันทั้งปีแบบซ้ำ ๆ ไม่ว่าอบรมพนักงานสอบสวน อบรมการเลือกตั้ง อบรมเพื่อเสริมสมรรถนะ ที่ทั้งคนอบรมและทีมงานล้วนแต่หน้าเดิม ๆ
ที่หนักข้อไปกว่านั้น มีการกล่าวหากันเรื่อง "ค้าสำนวน" ระดับเทศบาล-อบต. เคาะกันที่ราคา 5-10 ล้านบาท อบจ.60-70 ล้านบาท ราคาเดียวกับสส.
เรื่องทั้งหมดที่ว่ามา เกิดจากอารมณ์อึดอัดของคนใน กกต.เอง ที่ระบายออกมาในท่ามกลางการเลือกสว.ชุดเจ้าปัญหาที่วุ่นแล้ว วุ่นอยู่ และยังจะวุ่นต่อ
ส่วนจริงเท็จอย่างไร ต้องไปถามจากคนใน กกต.เอาเอง แต่คนมีอำนาจในองค์กรต้องไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปแบบเงียบ ๆ เพราะไม่ใช่แค่การนินทา กาเลธรรมดา ตัวอย่างจากการเลือกตั้งสส.มันฟ้อง ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว กกต.ก็ยังทำตัวเป็นเสือปืนฝืด!!
ที่ว่ามาแม้จะไม่ใช่เหตุผลของการเลื่อน-ไม่เลื่อนเลือก สว.ก็ตาม แต่ต้องไปตรวจสอบว่ามีใครชักเปอร์เซนต์ค่าสถานที่จริงหรือไม่ เพราะเที่ยวนี้เกือบทุกจังหวัดจัดกันในโรงแรมทั้งนั้น ไม่มีการใช้ศาลาวัด สถานที่ราชการ หอประชุมโรงเรียน หรือใต้ทางด่วน อย่างที่เคยเห็นกันมา
พรุ่งนี้ ถ้าศาล รธน. วินิจฉัยว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ กกต.จะลุยไฟเลือกสว.ต่อไปไม่มีใครว่า แต่ต้องกวาดบ้านตัวเองให้สะอาดด้วย