ในที่สุดการเลือกสว.67 ก็ไม่เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ กกต.กำหนดไว้ เดิมจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกตั้งแต่วันที่ 2-3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามแผนที่เรียกกันว่า ‘ปล่อยผี’ รับรองไปก่อนแล้วค่อยตามสอยทีหลัง
โดย กกต.ไม่ได้พูดเปล่า แต่ประสานสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้จัดเตรียมสถานที่่ไว้รอรับการรายงานตัว สว.ใหม่ด้วย ซึ่งใช้ห้องริมน้ำ ชั้น 1 อาคารวุฒิสภา เป็นที่รายงานตัว พร้อมจัดตารางการประชุมนัดแรกเอาไว้เสร็จ มีวาระอะไรที่ต้องทำก่อนทำหลังบ้าง
รวมทั้ง ทำการบ้านไว้รอ ทั้งการ ‘ตั้งคณะทำงาน’ การ ‘ตั้งคณะกรรมการ’ ศึกษาร่างกฎหมาย ที่ต้องทำคู่ขนานกันไปกับสภาผู้แทนราษฎร เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2568 เป็นต้น เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องจาก สว.ชุดปัจจุบัน
แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามนัด แถมยังทำเอาสังคมสับสนอลหม่านไม่น้อย เมื่อเกิดอาการ ‘ขบเหลี่ยมb’กันขึ้นทั้งใน กกต.ด้วยกันเอง และกับสว.ชุดปัจจุบันที่ ‘ฮึดสู้’แสดงอาการเหมือนจงอางหวงไข่ รู้ทั้งรู้ว่าหมดวาระแล้ว แต่ก็ยังอยากอยู่ต่อ
ในขณะที่สังคมกำลังแตกความเห็นออกเป็นสองทางเรื่องรับรอง 200 สว.จะให้ ‘รับรองไปก่อนแล้วค่อยไปสอยทีหลัง’ หรือต้องรอตรวจสอบปัญหาความไม่โปร่งใสต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งมีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงไม่เห็นด้วยก้ำกึ่งกัน
สุดแท้แต่ใครจะถือหางข้างไหน ซึ่งมีเดิมพันเรื่องผลประโยชน์มากบ้างน้อยบ้างด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ กกต.ที่ดูเหมือนจะ ‘ลังเล’ และคล้อยตามอารมณ์ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการรับรองไปก่อน แต่ลึก ๆ เห็นว่ามีแผนในใจอยู่แล้ว คือ ก่อนจะประกาศรับรองก็สอยโชว์เสียก่อนสัก 5-6 คน ซึ่งเป็นผู้มีปัญหา ‘ขาดคุณสมบัติ’ ชัดเจนอยู่แล้ว
แต่บังเอิญ เสียงต้านทำท่าจะ ‘จุดติด’ ไหนจะกลุ่ม ‘สว.สอบตก’ ที่รวมตัวยื่นร้องคัดค้านผ่านช่องทางต่างๆ แบบรายวัน ไม่นับรวมข้อมูลความไม่ชอบมาพากลต่าง ๆ ที่ถูกเปิดออกมาแบบวันต่อวัน มีผู้สมัครบางรายหลุดเข้ารอบลึกถึงระดับจังหวัด ใบสมัครพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์อย่างดี
แต่ไม่มีลายเซนต์ผู้สมัคร?!
ที่สำคัญมีการงัดเอาข้อกฎหมายทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก มาตั้งคำถามกับ กกต.ว่า จะเอา**‘รัฐธรรมนูญ มาตรา 85 วรรคท้าย’** ที่ให้อำนาจกกต.รับรองไปก่อนแล้วตามสอยทีหลัง ซึ่งใช้กับ**‘การเลือกตั้งสส.มาใช้กับ สว.ไม่ได้’** เพราะการเลือกสว.มีกฎหมายลูกกำหนดเอาไว้ต่างหากในมาตรา 42 ที่ระบุว่า
‘ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกตาม (10) ในราชกิจจานุเบกษา’
เท่ากับว่า ‘รับรองแล้ว ต้องรับรองเลย’ ไม่มีอำนาจไปตาม ‘สอยทีหลัง’ แล้วเลื่อนผู้อยู่ในบัญชีสำรองขึ้นมาแทน เพราะเหตุแห่งการเลื่อนผู้อยู่ในบัญชีสำรองขึ้นมาแทนนั้น มาจากเหตุอื่น อาทิ ตาย ลาออก เป็นต้น แต่ไม่มีเรื่องของการทุจริตในการเลือกสว.อยู่ด้วย
นอกจากนั้น การเลื่อนผู้อยู่ในบัญชีสำรองก็เป็นอำนาจของประธานวุฒิสภา ไม่ใช่หน้าที่หรืออำนาจของ กกต.แต่อย่างใดไม่
ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า จึงทำให้แผนรับรอง 200 สว.ไปก่อนแล้วสอยทีหลัง ที่เลขาธิการ กกต.เสนอเข้าที่ประชุมกกต.ในบ่ายวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงถูกกกต.สายศาลและนักกฎหมาย ‘คัดค้าน’ และเสนอให้นำผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนทั้งหมดมาให้กกต.พิจารณาก่อน
การรับรองสว.จึงถูกเลื่อนออกไป!!
ส่วน สว.ชุดปัจจุบัน ที่เก็บข้าวของกลับบ้านกันไปเกือบหมด เหลือแต่ ‘สองตัวตึง’สมชาย แสวงการ และดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ที่ยังใจแข็งขออยู่ทำหน้าที่ไปจนถึงนาทีสุดท้ายนั้น
ล่าสุดไม่แน่ใจว่าได้รับสัญญาณอะไรมา ‘พรเพชร วิชิตชลชัย’ ประธานวุฒิสภา จึงเรียกประชุมวิปวุฒิสภา ในช่วงสายวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม และให้เรียกประชุมวุฒิสภา ในวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม กับวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม
โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากขณะนี้ กกต.ยังไม่มีกำหนดประกาศรับรองสว.ชุดใหม่ อีกทั้ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างสมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 พ.ศ.2567 จึงถือว่าสว.ปัจจุบันยังต้องปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ มีรายละเอียดปรากฎในรายงานการประชุมวิปวุฒิสภา 2 ข้อ ได้แก่
1.ถ้า กกต.ยังไม่ประกาศผลการเลือก สว.จะมีการประชุมวุฒิสภาในวันที่ 8 และวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 โดยมีวาระสำคัญดังนี้
-8 กรกฎาคม ญัตติตั้งกมธ.ตรวจสอบการเลือก สว.ปี 67 // ญัตติตั้งกมธ.ร่วมพิจารณาร่างพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่วุฒิสภาแก้ไขและสส.ไม่เห็นด้วย
-15 กรกฎาคม ให้ความเห็นชอบการตรวจสอบประวัติ ประธานศาลปกครองสูงสุด และอัยการสูงสุด
2.ให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ทำเรื่องขอให้สายการบินยังคงให้สิทธิการเดินทางของ สว.ต่อไป
เรื่องนี้ถามไถ่จากสว.สมชาย แสวงการ ยืนยันเป็นผู้เสนอญัตติให้ตั้งกมธ.ตรวจสอบการเลือกสว.ปี67 เพื่อถอดบทเรียนนำไปใช้เป็นข้อศึกษาในโอกาสต่อไป ส่วนจะทำได้เท่าไหร่ หรือกี่วัน ก็ให้เป็นไปตามนั้น โดยจะเชิญนักวิชาการที่เกี่ยวข้องมาร่วมศึกษาด้วย ได้แก่ ‘ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก และคมสันต์ โพธิ์คง’
สว.ชุดนี้จะ ‘ตีตั๋วยาว’ ไปถึงเมื่อไหร่ สัปดาห์นี้ กกต.จะประกาศรับรองรายชื่อสว.ใหม่ทั้ง 200 คน ไปก่อนแล้วตามสอยทีหลังอย่างที่วางแผนไว้ได้หรือไม่ นอกจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่ว่าข้างต้น ยังมีกฎหมายลูกฉบับไหน ‘เปิดช่อง’ ให้ กกต.ใช้อำนาจได้อีกบ้าง
เพราะนาทีนี้ทั้งสว.เก่าและว่าที่สว.ต่างถามหามารยาทกันให้วุ่น รอดูว่าแผนรับรองไปก่อนแล้วตามสอยทีหลังของกกต.จะแท้งหรือไม่?!
