เหมือนกับจักรวาลของ JKN ได้หยุดหมุนลงตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (กรมบังคับคดี) เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหลายโดยเร็วที่สุดเพื่อพิจารณาเลือกว่าบุคคลใดสมควรเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูฯ
ทั้งนี้ระหว่างดำเนินการเพื่อตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟูฯ ให้ผู้บริหารของลูกหนี้คือ JKN ยังเป็นผู้บริหารชั่วคราว และมีอำนาจหน้าที่จัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จนกว่าจะมีการตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟูฯ เข้ามาดำเนินการ
ในคำสั่งศาลระบุว่า เห็นสมควรให้ JKN เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการเพื่อให้โอกาสในการปรับโครงสร้างกิจการ หรือ ปรับโครงสร้างหนี้ แต่ในการบริหารธุรกิจดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ผู้มีประสบการณ์ และมีความสามารถโดยเฉพาะเป็นผู้ดำเนินการ
ศาลพิจารณาว่า หาก JKN ไม่ได้รับโอกาสฟื้นฟูกิจการก็อาจจะต้องถูกฟ้องล้มละลาย ซึ่งจะเกิดความเสียหายต่อมูลค่าของทรัพย์สิน เพราะทรัพย์สินของ JKN มีลักษณะเป็นทรัพย์สินทางปัญญา และสิทธิต่าง ๆ ซึ่งยากที่จะประเมินราคานำออกขายทอดตลาดได้ในราคาที่สมควร หากไปประนอมหนี้กับเจ้าหนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเจ้าหนี้ไม่เชื่อมั่นในความสุจริตของลูกหนี้
แต่หาก JKN ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการบริหารจัดการภายใต้กำกับดูแลของพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และศาลล้มละลายกลาง ยังมีโอกาสในการเจรจาทำความเข้าใจกับเจ้าหนี้ทั้งหลาย โดยเฉพาะเจ้าหนี้ที่คัดค้านเพื่อให้มีความเชื่อมั่นต่อลูกหนี้ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถกลับมาประกอบธุรกิจ และมีรายได้จากการจัดการบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ และมีความสามารถในการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ได้มากขึ้น
จากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ดังกล่าว จึงฟังได้ว่ากรณีมีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 90/10 ให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหลายโดยเร็วที่สุด เพื่อพิจารณาเลือกว่าบุคคลใดสมควรเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
ระหว่างการดำเนินการเพื่อแต่งตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟูฯ ให้ผู้บริหารของ JKN เป็นผู้บริหารชั่วคราว มีอำนาจหน้าที่จัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป แต่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ จนกว่าจะมีการตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟูฯ ตามมาตรา 90/10
ทางฝั่งเจ้าหนี้คาดว่า ‘บริษัท มอร์แกน แสตนลีย์’ (Morgan & Stanley) ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่และผู้ถือหุ้น จะเป็นผู้เสนอ ‘บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง’ (Ernst & Young) หรือ EY ให้เข้ามาเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการฯ ในส่วนของแผนปรับโครงสร้างหนี้และแผนทางการเงิน และหาผู้ที่จะมาร่วมทำแผนด้านธุรกิจ
ตัวแทนฝั่งเจ้าหนี้หุ้นกู้ และเจ้าหนี้ในฝั่งสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่คัดค้าน และน่าจะได้รับการโหวตให้เข้ามาทำแผนฟื้นฟูฯ โดยคาดว่าทีมงานบริหารในฝั่งลูกหนี้ คือ JKN จะถูกลดบทบาทลงทั้งหมด รวมทั้ง ‘แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’
เชื่อว่าการเข้ามาฟื้นฟูกิจการของ JKN คงจะมีปัญหาที่ต้องเผชิญอีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของ ธุรกิจหลักที่น่าจะเป็นทรัพย์สินที่สามารถทำเงินได้มากที่สุด คือ องค์กรธุรกิจนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization หรือ MUO ที่ถูกมหาเศรษฐีเม็กซิกัน ราอูล โรชา เข้ามาถือหุ้นครึ่งหนึ่ง พร้อมกับมี ‘ออปชั่น’ ที่อาจจะเข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมด
ขณะเดียวกันทรัพย์สินอื่นๆ เช่นลิขสิทธิ์ซีรีย์อินเดีย สารคดี หรือ สัมปทานช่องข่าว JKN ก็ถูกด้อยค่าลงไปอย่างมาก ส่วนธุรกิจในสาย Commerce เช่น การขายสินค้าโฮม ช็อปปิ้ง ก็อยู่ในช่วงขาลง
ปัญหาใหญ่ และน่าปวดหัวที่สุดก็คือ ตัวเลขทางบัญชี เพราะแม้แต่ผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่กล้าลงนามรับรอง จนทำให้ยังมีปัญหาเรื่องการปิดงบการเงินฯกับตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งออกมา ราคาหุ้นของ เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ดีดขึ้นไปรับข่าวทันที โดยราคาปิดตลาดภาคเช้าวิ่งไปชนซิลลิ่งที่ 29.17% อยู่ที่ระดับ 0.62 บาท บวก 0.14 บาท
นอกจากนี้ JKN ยังได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ขอยกเลิกการจัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 วันที่ 30 เมษายนนี้ด้วย โดยให้เหตุผลว่า ตามคำสั่งศาล อำนาจหน้าที่ในการจัดกิจการ ทรัพย์ของลูกหนี้สิ้นสุดดลง บริษัทจึงไม่ต้องดำเนินการจัดการประชุม
