เรื่องราวความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยังคงคุกรุ่น แม้จนถึงเวลานี้คู่ขัดแย้งทั้ง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เหมือนจะหันไปเดินสายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต่างฝ่ายต่างเคารพ
“บิ๊กต่อ” โผล่ไปร่วมพิธีไหว้ครู ครูบาอริยชาติ ที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย
ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” เดินสายสร้างพระ โดยไปร่วมพิธีเททองหล่อพระสมเด็จพระมหาจักรพรรดิที่โรงหล่อย่านสมุทรสาคร
แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังต่อสู้กันอย่างหนัก โดยเปลี่ยนสนามรบไปต่อสู้กันในข้อกฏหมาย
พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และกฏคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นเครื่องมือที่ต่างฝ่ายต่างงัดกันขึ้นมาต่อสู้
“บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่วันนี้เป็นคู่ต่อสู้ของ “บิ๊กโจ๊ก” เต็มตัวใช้กฏคณะกรรมการข้าราชการตำรวจขึ้นมาอ้างอิงในการสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อน
ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” ใช้หลักเกณฑ์ของ พรบ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 ที่หลักการยกร่างขึ้นมาคุ้มครองข้าราชการตำรวจจากภาคการเมือง ขึ้นมาแย้งถึงขั้นตอนความไม่ชอบมาพากลของหนังสือพักราชการที่ลงนามโดย “บิ๊กต่าย”
อีกด้านก็ยังป้องกันตนเองในคดีที่กำลังอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยการล่ารายชื่อประชาชนให้ถอดถอนป.ป.ช.รายหนี่ง ที่แม้วันนี้จะไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แต่ก่อนนี้ก็เป็นที่รู้กันว่าคู่กรณีของ “บิ๊กโจ๊ก” คือ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ป.ป.ช.ที่มาจากอดีตผู้พิพากษา
เกมกฏหมายที่กำลังเข้มข้น หลายฝ่ายเชื่อว่าเข้าทาง “บิ๊กโจ๊ก” เพราะบิ๊กโจ๊กเป็นนายตำรวจที่แม่นยำด้านข้อกฏหมาย และมีทีมงานด้านกฏหมายทีมใหญ่ที่คอยสนับสนุน
โดยเฉพาะในประเด็นข้อโต้แย้งระหว่าง พรบ.ตำรวจแห่งชาติ และกฏคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ที่วันนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา กำลังตีความสถานะของ “บิ๊กโจ๊ก” ว่า ยังคงอยู่ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่
เพราะเชื่อว่า ช่องทางนี้จะเป็นช่องทางที่ “บิ๊กโจ๊ก” จะหวนกลับคืนสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ก่อนที่เกมจะยุติ ไม่ว่า “บิ๊กโจ๊ก” จะรักษาเก้าอี้รองผบ.ตร.ได้หรือไม่
ไม่ว่า “บิ๊กโจ๊ก” จะกลับเข้าไลน์มาเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ได้หรือไม่
ไม่ว่านับจากนี้จะยังมี “บิ๊กโจ๊ก” ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่
มาทำความรู้จักตัวละครสำคัญในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าใครเป็นใคร ใครอยู่ในไลน์ที่พร้อมจะเข้ามาอยู่ในเส้นทางการเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.
ถ้าไม่มี “บิ๊กโจ๊ก” อยู่บนเส้นทางแคนดิเดต ผบ.ตร.ในปี 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเหลือนายตำรวจที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.เพียงแค่ 3 รายเท่านั้น คือ
- พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 2 เกษียณอายุราชการ ปี 2569 ซึ่งจะขยับเป็นอาวุโสอันดับหนึ่งทันที หาก “บิ๊กโจ๊ก” กลับเข้าไลน์ไม่ทัน
- พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ อาวุโส อันดับ 3 เกษียณอายุราชการ ปี 2568 ก็จะขยับขึ้นเป็นอาวุโสอันดับ 2
- พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 4 ที่จะเกษียณอายุราชการ ปี 2569 ปีเดียวกับ “บิ๊กต่าย” ก็จะขยับขึ้นมาเป็นอาวุโสอันดับ 3
แคนดิเดตทั้ง 3 ราย หากตำแหน่ง ผบ.ตร.ปีนี้จบที่ “บิ๊กต่าย” และไม่มีอุบัติเหตุระหว่างทาง แคนดิเดตที่เหลือทั้ง 2 รายก็จะหมดโอกาสขึ้นเป็น ผบ.ตร.ทันที เพราะบิ๊กต่ายเกษียณอายุในปี 2569 ซึ่งเป็นปีที่ พล.ต.อ.ไกรบุญ เกษียณอายุไปแล้ว และเป็นปีที่ พล.ต.อ.ธนา เกษียณอายุพอดี
แต่ที่ต้องลุ้นกันสนุก และกำลังจะเข้าไลน์มาเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ต่อจากบิ๊กต่าย กรณีที่ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่ได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังน่าจับตามองมากกว่า เพราะมีหลายรายที่พร้อมเข้าไลน์มาชิงตำแหน่งหลักในสำนักงานตำรวจแห่งชาติตำแหน่งนี้
ปี 2567 รองผบ.ตร.จะว่าง 3 อัตรา คือ เกษียณอายุ 1 ราย คือ พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช และตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ยังอยู่ในคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ใน 3 อัตรา มีระดับผู้ช่วยผบ.ตร. และเทียบผู้ช่วยผบ.ตร ที่รอลุ้นขึ้นตำแหน่ง รองผบ.ตร. ถึง 8 ราย คือ
- พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 1 เกษียณอายุราชการ ปี 2571
- พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 2 เกษียณอายุราชการ ปี 2569
- พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 3 เกษียณอายุราชการ ปี 2570
- พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 4 เกษียณอายุราชการ ปี 2576
- พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 5 เกษียณอายุราชการ ปี 2568
- พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 6 เกษียณอายุราชการ ปี 2568
- พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 7 เกษียณอายุราชการ ปี 2572
- พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางกูร รองจเรตำรวจแห่งชาติ อาวุโส อันดับ 8 เกษียณอายุราชการ ปี 2570
3 ใน 8 ราย จะได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง **รองผบ.ตร.**ในเดือนตุลาคม ปีนี้
ถ้าเรียงตามลำดับอาวุโส แน่นอน คือ 3 ลำดับแรก (พล.ต.ท.นิรันดร, พล.ต.ท.กรไชย, พล.ต.ท.ธัชชัย)
แต่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ อาวุโสลำดับ 4 “บิ๊กราญ” พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ที่จะเกษียณอายุในปี 2576 และ “บิ๊กแมน” พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ อาวุโสลำดับ 7 ที่เกษียณอายุราชการปี 2572
ใน 5 แคนดิเดตที่จะขยับขึ้นมาเป็น รองผบ.ตร. จะถูกสปอตไลท์จับทันที เพราะในเดือนตุลาคม 2569 ผู้ที่ยังไม่เกษียณอายุราชการ คือ พล.ต.ท.นิรันดร (ลำดับที่ 1),พล.ต.ท.ธัชชัย (ลำดับที่ 3), พล.ต.ท.สำราญ (ลำดับที่ 4) และพล.ต.ท.อิทธิพล (ลำดับที่ 7) จะเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ทันที
ถ้าสมมติ ย้ำว่า...เป็นเรื่องสมมติ
“บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เกษียณอายุปี 2569 ถ้าปี 2569 พล.ต.ท.นิรันดร จับพลัดจับผลูส้มหล่นได้เป็นผบ.ตร. พล.ต.ท.นิรันดร ก็จะเป็นผบ.ตร. 2 ปี และเกษียณอายุในปี 2571
จากนั้นก็เหลือให้ พล.ต.ท.สำราญ และ พล.ต.ท.อิทธิพล ชิงตำแหน่งผบ.ตร.กันต่อ
แต่ถ้า พล.ต.ท.ธัชชัย ได้เป็น ผบ.ตร. ก็จะเป็นปีเดียว เหลือให้ พล.ต.ท.นิรันดร, พล.ต.ท.สำราญ และ พล.ต.ท.อิทธิพล สู้กัน 3 คน
แต่...ถ้าปี 2569 ผบ.ตร.เป็น “บิ๊กราญ” พล.ต.ท.สำราญ ก็จะเป็น ผบ.ตร.ยาวถึง 6 ปี เพราะพล.ต.ท.สำราญเกษียณอายุราชการปี 2576 ดับฝันของแคนดิเดตที่เหลือทั้งหมดทันที
เพราะในปี 2576 จะมีแคนดิเดตที่เป็นดาวรุ่ง “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิระภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อนร่วมรุ่น ตท.34 ของ พล.ต.ท.สำราญ มารอรับช่วงต่ออีก 3 ปี จนถึงปี 2579 เพราะบิ๊กก้องอายุน้อย เกษียณอายุปี 2579
แต่ถ้าเกมพลิก ปี 2569 “บิ๊กแมน” พล.ต.ท.อิทธิพล แซงโค้งเข้ามาแทน พล.ต.ท.อิทธิพล ก็จะเป็นผบ.ตร. 3 ปี เพราะเกษียณอายุราชการปี 2572 จากนั้นก็เป็นคิวของ พล.ต.ท.สำราญ อีก 3 ปี ถึงปี 2576 และ “บิ๊กก้อง” ก็จะมารับช่วงต่อจนถึงปี 2579
จิ๊กซอว์ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากไม่มี “บิ๊กโจ๊ก” และไม่มีเกมพลิกผันนับจากนี้ ก็จะถูกประกอบร่างออกมาแบบที่เห็น
แต่สูตรที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองตรงกัน เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มี “บิ๊กโจ๊ก” คือสูตรนี้
“บิ๊กต่าย” ถึงปี 2569 “บิ๊กราญ” ถึงปี 2576 และ “บิ๊กก้อง” ถึงปี 2579
สูตรนี้พลิกหรือไม่พลิกก็ขึ้นอยู่กับอิทธิฤทธิ์ของ “บิ๊กโจ๊ก” ว่า จะดำรงตำแหน่งฉายา “ฆ่าไม่ตาย” และยังคงความเป็น “แมวเก้าชีวิต” ไว้ได้อีกหรือไม่
ถึงจะมีชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” มาคั่นจนถึงปี 2574 ซึ่งเป็นปีที่ “บิ๊กโจ๊ก” เกษียณอายุราชการ
แต่ที่น่ากลัวกว่า คือ ถ้า “บิ๊กโจ๊ก” กลับมาได้ ผบ.ตร.คนถัดจากเขาอาจเป็นชื่ออื่น..ที่ไม่มีในสูตรนี้
EP. หน้ามาว่ากันเรื่องสงครามข้อกฏหมาย อะไรจะทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” กลับมาหรืออวสานจากเส้นทางชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.
