เดือนเมษายน 2568 จะเป็นเดือนสำคัญของการโยกย้ายนายทหารกลางปีอีกครั้ง แม้ทุกปีการทำโผกลางปีส่วนใหญ่ จะไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะเป็นเพียงการย้ายเล็กที่เรียกกันว่า โผเล็ก ที่รองรับการปรับย้ายบางตำแหน่ง แต่ปีนี้ โผเมษา กำลังเป็นโผที่น่าระทึก ทั้งโผนายพล โผผู้การ และโผผู้พัน
ประการสำคัญ โผเมษา 68 ไม่เพียงเป็นโผปรับย้ายระดับนายพลครั้งแรกที่ ‘บิ๊กปู’ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก จะมีอำนาจอย่างเต็มที่ในการจัดทัพใหม่ โดยไม่ต้องรอการโยกย้ายปลายปี เหมือนทุกครั้ง
แต่โผเมษา 68 ยังเป็นโผที่มีอัตรานายพลตำแหน่งหลักว่าง ทั้งอัตราพลเอกและพลโท อันจะทำให้ ‘บิ๊กปู’ สามารถเขย่าเก้าอี้นายพลตำแหน่งหลักในกองทัพได้หลายตำแหน่ง และจะส่งผลต่อเนื่องไปในระนาบพันเอกพิเศษและระดับผู้บังคับกองพันทั่วประเทศอีกด้วย
มีรายงานว่า การทำบัญชีโยกย้ายนายทหารระดับนายพล เมื่อเดือนกันยายน 2568 ‘บิ๊กต่อ’ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ทิ้งอัตรา พลเอก ในตำแหน่งที่ปรึกษาเอาไว้ 2 อัตรา โดยไม่มีการแต่งตั้ง
แม้ไม่ชัดว่า เจตนาการทิ้งตำแหน่ง พลเอก เอาไว้ 2 อัตรา จะเป็นการตั้งใจเปิดช่องให้ พล.อ.พนา เก็บไว้ใช้ในการขยับโผนายพลในการโยกย้ายกลางปีหรือไม่
แต่อัตราพลเอก 2 ตำแหน่ง ก็เป็น 2 ตำแหน่งที่ทำให้ ‘บิ๊กปู’ สามารถหยิบฉวยมาใช้ เพื่อขยับเก้าอี้นายพลในกองทัพได้หลายอัตรา
นอกจากพลเอก 2 อัตรา ‘บิ๊กปู’ ยังมีอัตรา พลโท ตำแหน่งหลักที่ว่างลงอีก 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ที่ พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมฯ คนเดิมถูกย้ายไปช่วยราชการที่กองบัญชาการทหารบก เนื่องจากถูกร้องเรียนเรื่องทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา
อีกตำแหน่งที่จะว่าง คือ พลโท ในตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 4 จากการที่ พล.ท.คมกฤช รัตนฉายา แม่ทัพน้อยคนปัจจุบัน ขอเกษียณราชการก่อนกำหนด
2 พลเอก ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ยังอาจทำให้เกิดเก้าอี้ว่างจากการขยับพลโทขึ้นมาอีก 2 เก้าอี้ ซึ่งล่าสุดมีแนวโน้มว่า อาจจะเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หรือ ผบ.นรด. ที่มีข่าวว่า พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร (ตท.25) ผบ.นรด.คนปัจจุบัน ซึ่งจะเกษียณอายุในเดือนตุลาคม 2568 จะขอขยับขึ้นไปดำรงตำแหน่งพลเอกก่อนเกษียณ
รวมทั้ง พล.ท.พรชัย มาหลิน(ตท.26) แม่ทัพน้อยที่ 2 ที่มีข่าวว่า อยากขยับขึ้นเป็นพลเอกในเดือนเมษายนนี้เช่นกัน เพราะเหลืออายุราชการอีกเพียง 1 ปี และเชื่อว่า มีโอกาสน้อยที่จะได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ต่อจาก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง เพื่อนร่วมรุ่น
ส่วนอีก 1 พลเอก อาจมีการขยับรองเสนาธิการทหารบก(ตท.25) คนใด คนหนึ่ง ระหว่าง พล.ท.นุกูล โล่ห์ประเสริฐ หรือ พล.ท.เกรียงไกร ปราสาฑสุวรรณ ขึ้นมาเป็นพลเอก เพื่อเปิดอัตรารองเสนาธิการทหารบกให้ว่าง 1 อัตรา
นัยว่า เพื่อรองรับการขยับ ‘ปูเล็ก’ พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก เข้าไลน์รองเสนาธิการทหารบก เพื่อเตรียมขยับเข้า 5 เสือ ทบ.ในเดือนตุลาคม มาเป็นเสนาธิการทหารบก เพื่อเป็นมือทำงานและเป็นเสธฯคู่ใจให้กับ ‘บิ๊กปูใหญ่’ พล.อ.พนา ผบ.ทบ.
สูตรการขยับ พล.ท.ทวีพูล ผบ.นรด. ขึ้นเป็นพลเอกการขยับรองเสธฯ ทบ.คนใดคนหนึ่งขึ้นพลเอก และขยับ พล.ท.ชัยพฤกษ์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก เข้าไปเป็น รองเสธฯ ทบ.
ส่งผลให้เกิดอัตราว่างในระนาบ พลโท เพิ่มขึ้นอีก 2 ตำแหน่ง เมื่อรวมกับตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และแม่ทัพน้อยที่ 4 ก็จะมีตำแหน่งพลโท ตำแหน่งหลักว่างถึง 4 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่ง ผบ.นรด. ,แม่ทัพน้อยที่ 4 ,เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และเจ้ากรมยุทธการทหารบก
แต่หากเป็นสูตร ขยับ พล.ท.พรชัย แม่ทัพน้อยที่ 2 เข้ามาในอัตราพลเอก แทน พล.ท.ทวีพูล ตำแหน่งพลโทที่ว่าง ก็จะเป็นแม่ทัพน้อยที่ 2 ,แม่ทัพน้อยที่ 4 ,เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และเจ้ากรมยุทธการทหารบก
4 พลโท ที่จะว่างลง จึงเป็น 4 ตำแหน่งที่ถูกจับจ้องว่าใครจะได้ขยับเข้ามาแทนตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ซึ่งเป็นอัตราพลโท ที่มีความสำคัญเทียบเท่าระดับแม่ทัพภาค ถูกมองว่า อาจเป็นตำแหน่งที่ ‘บิ๊กปู’ ใช้รองรับการขยับเพื่อนร่วมรุ่นจากพลตรี ขึ้นมาเป็นพลโทในกลางเดือนนี้
ในอดีต ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.เคยใช้ในการสลับ ‘บิ๊กหม่อง’ พล.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม จากตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 2 เข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก หลังจำต้องถอยให้ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร เพื่อนร่วมรุ่น (ตท.21) ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ก่อน ทั้งที่ ‘บิ๊กหม่อง’ เติบโตมาในสายคุมกำลังรบ และมีประวัติการรับราชการสนามที่ดูดีกว่า
ครั้งนี้ต้องดูว่า ‘บิ๊กปู’ จะเลือกเพื่อนร่วมรุ่น ตท.26 คนไหนมาดำรงตำแหน่งนี้ ระหว่าง ‘บิ๊กเติ่ง’ พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 หรือ ขยับ พล.ต.อาวุธ พุทธอำนวย ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ ที่เป็นหน่วยขึ้นตรงของกรมยุทธศึกษาทหารบก
**ส่วนตำแหน่ง ผบ.นรด.**กรณีที่ พล.ท.ทวีพูล ขยับขึ้น พลเอก ต้องทายใจ ‘บิ๊กปู’ ว่า จะเลือกขยับรุ่น ตท.28 ที่ติดแน่นอยู่ในตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ถึง 3 คน คือ ‘รองกอล์ฟ’ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ , ‘รองมด’ พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร และ ‘รองแอ้ม’ พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ ว่า ‘บิ๊กปู’ จะเลือกส่งใครออกมาขึ้นตำแหน่งพลโทในรอบนี้
โผปลายปีที่ผ่านมา ‘รองมด’ พล.ต.อาจิณ เคยมีชื่อจะขยับมาเป็น ผบ.นรด. แต่กระแส เตรียมทหาร 28 ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า กำลังแผ่อำนาจโตแซงรุ่นพี่ และ พล.ท.ทวีพูล ยังไม่ขยับ ทำให้ทั้ง ’รองมด‘ และ ‘รองกอล์ฟ’ ต้องย่ำเท้าอยู่ในตำแหน่งเดิม
มีเพียง ‘บิ๊กไก่’ พล.ท.วรยศ เหลืองสุวรรณ ที่ขึ้นเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 และ ‘รองแอ้ม’ พล.ต.ณัฐเดช ที่ขยับจากรองแม่ทัพน้อยที่ 1 มาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1
โยกย้ายกลางปีรอบนี้ เมื่อฟ้าเปลี่ยน เมื่อมีตำแหน่งว่าง ‘รองมด’ จึงดูจะมีภาษีเหนือเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ที่อาจจะขยับออกมาเป็น ผบ.นรด. ตามโผเดิมที่เคยคาดหวังไว้
แต่ทั้งนี้ก็ยังมี รอง ผบ.นรด. พล.ต.นราวิชญ์ ปรมาธิกุล (ตท.25) และ พล.ต.ปัญญา ตั้งความเพียร (ตท.27) ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่พร้อมจะขึ้นมารับตำแหน่ง ผบ.นรด.ด้วยเช่นกัน
หากเป็นสูตร แม่ทัพน้อยที่ 2 พล.ท.พรชัย มาหลิน ขยับเข้ามาเป็นพลเอก กองทัพภาคที่ 2 ก็จะมีการขยับใหญ่เช่นกัน โดยคาดว่า ‘แม่ทัพกุ้ง’ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 น่าจะใช้วาระนี้ เสนอชื่อ ‘รองเติ่ง‘ พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ เพื่อนร่วมรุ่น (ตท.26) ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2570 ขึ้นมาครองอาวุโส พลโท ในตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 2 ไว้ก่อน เพื่อขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 แทน ‘แม่ทัพกุ้ง‘ ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม 2568
สูตรนี้ก็จะทำให้ตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ผกผันเช่นกัน เพราะหากเลือกได้ ‘รองเติ่ง’ คงเลือกที่เป็นแม่ทัพน้อยที่ 2 มากกว่า เจ้ากรมยุทธศึกษา และสูตรนี้ก็จะทำให้ ‘แม่ทัพกุ้ง’ ขยับตำแหน่งนายพลในกองทัพภาคที่ 2 และพันเอกพิเศษได้อีกระลอกก่อนเกษียณ
อีกตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่ง ที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ คือ แม่ทัพน้อยที่ 4 ที่ ‘บิ๊กแมค’ พล.ท.คมกฤช รัตนฉายา ลูกชายของอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.กิตติ รัตนฉายา ขอเออรี่ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ทั้งกองทัพภาคที่ 4 เนื่องจากการโยกย้ายปลายปีที่ผ่านมา ทัพภาค 4 มีการขยับน้อยมาก ทั้งในระดับผู้บัญชาการกองพล และผู้บังคับการกรม
เมื่อ ‘บิ๊กแมค’ ขอเออรี่ เมื่อตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 4 ว่างลง จึงเป็นจังหวะที่ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 น่าจะใช้โอกาสนี้เสนอไปยัง ‘บิ๊กปู’ เพื่อจัดกำลังพลในทัพภาค 4 ใหม่ หลังจาก 5 เดือนที่ผ่านมา พล.ท.ไพศาล อยู่ในภาวะขาดมือทำงานในเกือบทุกจุด
แคนดิเดทแม่ทัพน้อยที่ 4 คนใหม่ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ไพศาลว่า จะเสนอรองแม่ทัพคนไหนจาก 3 รุ่นขึ้นดำรงตำแหน่งนี้ ระหว่าง พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร (ตท.26) หรือ ‘รองอ้วน‘ พล.ต.วรเดช เดชรักษา (ตท.27) หรือ ‘รองคิ้ว‘ พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน์ (ตท.28)
ซี่งหากเป็นสูตรนี้ ก็จะเปิดโอกาสให้ พล.ท.ไพศาล ขยับพลตรี ในตำแหน่ง ผบ.พล หรือ ผบ.มทบ. ขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 และจะส่งผลให้มีการขยับพันเอกพิเศษ ขึ้นมาในระนาบ ผบ.พล หรือผบ.มทบ. เพื่อขยับบรรดาเหล่าผู้บังคับการกรมให้ขยับตามได้อีก
แต่ถ้าโผพลิก หากฟ้าผ่ากองทัพภาคที่ 4 ด้วยการที่ ทบ.ส่งคนจากนอกกองทัพภาค 4 ลงมาเป็นแม่ทัพน้อยที่ 4 อีกรอบ หลังจากปลายปีที่ผ่านมา ‘บิ๊กต่อ’ พล.อ.เจริญชัย จรดปากกาส่ง ‘รองคิ้ว‘ จากรบพิเศษลงไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 ไปแล้วครั้งหนึ่ง กองทัพภาคที่ 4 ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมหนักอีกครั้งทันที
เพราะสูตรนี้ ไม่เพียงจะไม่มีการขยับอัตรานายพล อันจะส่งผลถึงโผพันเอกพิเศษ ที่จะไม่ขยับตามด้วย แต่ที่คนทัพภาคที่ 4 กังวล คือ หากเป็นคนนอกทัพภาคที่ 4 ลงไปเป็นแม่ทัพน้อยที่ 4 จริง ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 คนต่อไป ก็จะมีโอกาสเป็นคนนอกทัพภาค 4 สูงมากทันที
ส่วนตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก แทน พล.ท.ชัยพฤกษ์ นั้น มีพล.ต.พงษ์ศักดิ์ หมื่นกล้าหาญ (ตท.28) รองเจ้ากรม ซึ่งเป็นลูกหม้อกรมยุทธการทหารบก เป็นแคนดิเดทหลัก อันเป็นไลน์เดียวกับพล.ท.ชัยพฤกษ์ ที่ขึ้นมาจากผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกรมยุทธการทหารบก ก่อนจะขึ้นเป็นรองเจ้ากรมและเจ้ากรมยุทธการทหารบกเช่นกัน
ทั้งหมดเป็นเพียงโผบางส่วนที่ขยับตาม 2 พลเอก และ 4 พลโท ที่ว่างลงเท่านั้น แต่ยังมีระดับพล.ต.ที่ต้องขยับตามอีกหลายตำแหน่ง และ พ.อ.พิเศษ และ พ.ท.ที่ต้องขยับทั้งระลอก
โผทหารเดือนเมษาฯ จึงดูจะร้อนผ่าวตามอุณหภูมิของประเทศ ที่พยากรณ์กันว่า จะสูงถึง 43 องศาเซลเซียส…หรืออาจจะร้อนผ่าวแข่งกับอุณหภูมิการเมือง…ที่ขยับสูงขึ้นทุกวัน