ส่องโผสีกากี ’67 วัดใจ‘นายกฯอิ๊งค์‘ยุคตั๋ว กม.เต็มใบ

3 ต.ค. 2567 - 07:23

  • จับตาโผตำรวจ 2567 ระดับพิทักษ์ 1 ที่ไม่น่าจะพลิกล็อกจาก ‘บิ๊กต่าย’ ภายใต้การกำกับของ ‘นายกฯอิ๊งค์‘

  • การจัดโผสีกากีแบบเดิมๆ ที่เคยอยู่ใต้อำนาจกุมบังเหียนของ พี่น้องสอง ป.ซึ่งลากกันมานานนับสิบปี กำลังถูกทลายได้จริงหรือไม่…?

  • กระดานเกมอำนาจที่เคยมีหลายมือยื่นมาเล่น แต่บทเรียนจากอดีต ผบ.ตร.น่าจะทำให้หลายคนชะงักมือ แต่ยกเว้นบางคนที่หวังจะตกปลา ฉวยโอกาสนี้สร้างฐานใหม่แทนฐานเก่า

policy-politics-royal-thai-police-prime-minister-SPACEBAR-Hero.jpg

เปิดเดือนตุลาคม 2567 มาด้วยโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อีกครั้งของประเทศ เมื่อรถบัสที่นำพานักเรียนตัวน้อยไปทัศนศึกษา เกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีเด็กและครูเสียชีวิตถึง 23 ราย

หลังเกิดเหตุหลายฝ่ายออกมากระทุ้งกัน ทั้งสาเหตุ ต้นเหตุ และปลายเหตุ เพื่อหาที่มาของการเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้

ยอมรับความจริงเถอะว่า ปัญหาทั้งหมด มาจากระบบทั้งนั้น ถ้าสาเหตุมาจากดัดแปลงรถ หรือแก๊สรั่ว หรือเพราะรถเก่า หรือรถไม่อยู่ในสภาพใช้งาน สาเหตุมันก็มาจากระบบการตรวจสอบว่า ตรวจกันมาอย่างไร ผ่านให้วิ่งกันมาอย่างไร 

ถ้าสาเหตุมาจากคนขับ ก็เพราะอนุญาตให้ขับกันได้ยังไง มีการทดสอบ มีการตรวจสภาพร่างกายคนขับในฐานะที่ต้องมาขับรถนำเที่ยวให้กับนักเรียนหรือไม่ 

ที่ต้องมาเขียนถึงเรื่องนี้ก่อน เพราะเดือนตุลาคม กำลังเป็นเดือนแห่งการโยกย้ายใหญ่อีกหลายหน่วยงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ การจับกุม ซึ่งมีการวิ่งเต้น หาเส้นสาย หาคนสนับสนุนให้ได้รับตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่ล้วนแต่ต้องมีต้นทุนในตำแหน่ง 

สุดท้ายเมื่อมีต้นทุนการโยกย้าย การหาทุนคืนก็ต้องเกิดขึ้น และก็เป็นที่มาของปัญหาทั้งหลาย ทั้งปวงที่ปะทุขึ้นมาแต่ละครั้ง

หน่วยงานสีกากีถูกจับตามองมากที่สุด เพราะปีนี้เป็นปีที่โผการโยกย้ายนายตำรวจ จะกลับมาอยู่ในมือของนักการเมืองเกือบจะเต็มระบบอีกครั้ง หลัง 10 ปีที่ผ่านมา นับจากพฤษภา 2557 ที่เกิดการรัฐประหาร การโยกย้ายนายตำรวจอยู่ในมือของ พี่น้อง 2 ป. ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ลุงป้อม กำกับดูแลสำนักงานแห่งชาติมาตั้งแต่หลังรัฐประหารในปี 2557 การทำโผโยกย้ายยุคนั้น เป็นที่รู้กันว่า นายตำรวจที่มีบทบาทมากที่สุด และได้รับความไว้วางใจจากลุงป้อมมากที่สุด คือ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล

โผที่ผ่านออกจากมือ บิ๊กโจ๊ก ในห้วงเวลานั้น คลาดเคลื่อนเต็มที่ ก็ไม่เกิน 10% 

พล.อ.ประวิตร ดูโผโยกย้ายนายตำรวจต่อเนื่องติดต่อกันเกือบ 9 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนมือมายัง พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อครั้งเกิดความขัดแย้งกันระหว่างพี่น้อง ช่วงยุคปลาย รัฐบาลลุงตู่ 2 ในช่วงปลายสมัยนี้ การทำบัญชีโยกย้ายนายตำรวจเปลี่ยนจาก บ้านป่ารอยต่อ มาที่ทีมนายทหารที่ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์

ช่วงรัฐบาลของ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แม้จะลงไปกำกับดูแลการโยกย้ายตำรวจด้วยตัวเอง และเป็นผู้ลงนามเสนอแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่วันนั้นอำนาจของ นายกฯ เศรษฐาและพรรคเพื่อไทย ถือว่ายังไม่เต็มมือ และมีส่วนร่วมกับการจัดโผโยกย้ายนายพลได้ไม่มากนัก เพราะการจัดโผตำรวจยุคนั้น ถูกจัดวางกันมาส่วนหนึ่ง ก่อน เศรษฐา จะเข้ามารับตำแหน่ง ยังเป็นโผของขั้วอำนาจเดิม โดยมี 2 นายพลหนุ่มที่ไม่ได้ชื่อ บิ๊กโจ๊ก เข้าไปมีบทบาทสูงสุดในการจัดวางตำแหน่งผู้บัญชาการและผู้บังคับการหลัก 

…โผตำรวจปี 2566 ว่ากันว่า แม้แต่รายชื่อที่นายกฯ เศรษฐาขอไป ก็ไม่ได้รับการพิจารณา!

การโยกย้ายในปี 2567 จึงเป็นปีที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่า ภายใต้การกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นปีที่พรรคเพื่อไทยมีอำนาจเกือบเต็มในการกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ…โผตำรวจปีนี้จะออกมาในทิศทางไหน 

ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น จนถึงวันนี้แทบไม่มีพลิก เพราะ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ (ตท.25 ,นรต.41) ซึ่งเป็นรองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 จะแบเบอร์แล้ว เพราะคู่แคนดิเดตที่มีเพียง 2 ราย คือ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ อาวุโสอันดับ 2 และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 3 ก็น่าจะพลิกขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งแทนได้ยาก

พล.ต.อ.ไกรบุญ (ตท.23 นรต.39) นั้น เหลืออายุราชการเพียงปีเดียว เพราะเกิดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2507 แม้จะมีสิทธิเป็นแคนดิเดต แต่ล่าสุดเจ้าตัวเหมือนจะถอดใจ และมองไปทิศทางไปในอนาคตมากกว่า

บทเรียนจากการเป็น ผบ.ตร.ปีเดียวของ ‘บิ๊กต่อ‘ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นเหตุผลหนึ่งที่คนใกล้ชิด พล.ต.อ.ไกรบุญ บอกว่า ทำให้เจ้าตัวเลือกที่จะอยู่ที่เดิมดีกว่า

‘การเป็นผบ.ตร.ปีเดียว ทุกย่างก้าวจะเดินพลาดไม่ได้เลย เพราะจะไม่มีโอกาสแก้ตัว ตัวอย่างของ ผบ.ต่อ เป็นกรณีศึกษาที่เห็นชัด และเมื่อพลาดแล้ว จะพลาดเลย และจะจบชีวิตราชการแบบที่เดินไปข้างหน้าต่อไม่ได้’

คนใกล้ชิด พล.ต.อ.ไกรบุญ บอกด้วยว่า เขามองโอกาสที่จะโอนย้ายไปรับราชการต่อก่อนเกษียณในหน่วยงานสำคัญมากกว่า ที่จะเป็น ผบ.ตร.ปีเดียวแล้วไม่ได้ไปต่อ 

เพราะล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แม้ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่า จะได้รับการโอนย้ายก่อนเกษียณไปรับราชการในหน่วยสำคัญ แต่สุดท้ายก็ไม่มีชื่อ และไม่มีชื่อแม้กระทั่งรายชื่อ ราชองค์รักษ์พิเศษจำนวน 25 ราย ที่เพิ่งมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งล่าสุด

ทหารบกจำนวน 13 ราย ซึ่งมีทั้ง อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ และ อดีต รอง ผบ.ทบ. พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง

ทหารเรือ 9 ราย มีทั้งอดีต ผบ.ทร. พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม และอดีตผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด

ส่วนตำรวจมีเพียง 3 รายเท่านั้น และไม่มีชื่อ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีเพียง พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก อดีตผู้บัญชาการตรำวจภูธรภาค 1 ,พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล และพล.ต.ต.โชคชัย นนท์ปฏิมากุล เท่านั้น

เรื่องนี้เป็นเหตุผลสำคัญ ที่หากเลือกได้ พล.ต.อ.ไกรบุญ เลือกที่จะขออยู่ต่อที่ตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ ดีกว่าเป็น ผบ.ตร.1 ปี ที่สถานการณ์เต็มไปด้วยความเสี่ยง ทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานการณ์ความร้อนแรงทางการเมือง 

ส่วนอาวุโสอันดับ 3 พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(ตท.26 นรต.42) ที่เหลืออายุราชการอีก 2 ปี เท่ากับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เพราะเกิดวันที่ 22 ตุลาคม 2508 แม้จะมีเส้นทางการเติบโตในตำแหน่งสำคัญมากกว่า บิ๊กต่าย เพราะผ่านทั้งงานโรงพัก งานระดับกองบังคับการ กองบัญชาการ และน่าจะพอมีผลงานที่เป็นแคนดิเดตเทียบเท่า บิ๊กต่าย ได้ 

แต่จุดอ่อนของ พล.ต.อ.ธนา คือ การเป็นนายตำรวจที่ใกล้ชิดกับสายอำนาจ บ้านป่ารอยต่อ ค่อนข้างชัดเจน เนื่องจาก พล.ต.อ.ธนา เคยเป็นนายตำรวจคนสนิท และเคยประจำสำนักงานของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ซึ่งเป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร ทำให้โอกาสที่พล.ต.อ.ธนา จะฝ่าด่านหินขึ้นมาช่วงชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ กับ บิ๊กต่าย เป็นไปได้น้อยมาก

ขณะที่แคนดิเดตรายอื่น ซึ่งมีชื่อ **พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รักษาการรอง ผบ.ตร.**จะถูกใช้ช่องว่างทางกฎหมายของ พรบ.ตำรวจแห่งชาติ เสนอลัดคิวขึ้นมาเป็นอีก 1 แคนดิเดตนั้น เชื่อว่า พล.ต.ท.ประจวบ ไม่ใช่หมากสำคัญที่พรรคเพื่อไทย จะต้องลงทุนหยิบขึ้นมาใช้ ด้วยการเดินเกมเสี่ยงไปเข้าทางการเมืองนอกสภา 

การทำเช่นนั้นอาจเข้าหลักเกณฑ์เดียวกับการโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่ง เลขา สมช. ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดตำแหน่งว่างให้ย้าย **พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ไปเป็นเลขา สมช.**และแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.แทน

ความสำคัญของ พล.ต.ท.ประจวบ เทียบไม่ได้กับความสำคัญของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยจะยอมเสี่ยงเล่นเกมนี้

หากไม่ขึ้นดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ในปีนี้ พล.ต.ท.ประจวบ มีโอกาสแค่ทางเดียวเท่านั้น คือขยับไปตำแหน่งเลขาสมช.ก่อนเกษียณในปี 2568    

ชื่อของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จึงถูกแปะขึ้นข้างฝาไว้ได้เลยว่า น่าจะเป็น ผบ.ตร.คนที่ 15 ค่อนข้างแน่นอน

หากเป็นจริง ผบ.เหล่าทัพในปี 2567 จะมีชื่อเล่นน่ารักทุกคน ผบ.ทบ. ‘บิ๊กปู’,ผบ.ทอ. ‘บิ๊กไก่’ ,ผบ.ทร. ‘บิ๊กแมว’ และ ผบ.ตร. ‘บิ๊กต่าย’ เหลือเพียง ผบ.ทัพไทย ที่มีคนแซวว่า หรือ บิ๊กอ๊อป พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดีความจริง อาจจะชื่อ ‘บิ๊กอ๊บ‘ จะได้ เป็น กบ ,ปู ,ไก่ ,แมว ,กระต่าย อันนี้แซวกัน ขำๆ

แต่ในแวดวงสีกากีที่วันนี้เขาไม่ขำกัน คือ แม้ตำแหน่ง **ผบ.ตร.**จะชัดแล้ว แต่ตำแหน่งผู้บัญชาการกองบัญชาการหลัก ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ,สตม. ,ไซเบอร์ ,ท่องเที่ยว ,สันติบาล ,และกองบัญชาการตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค ยกเว้น บช.ก.ที่ยังไงก็แตะไม่ได้ และตำแหน่งผู้บังคับการ กองบังคับการหลัก กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในแวดวงสีกากี

โผผู้บัญชาการหลักและผู้บังคับการหลัก ภายใต้การกำกับตรงของ พรรคเพื่อไทย และเป็นปีแรกที่การเมืองจะมีบทบาทอย่างเต็มที่ กำลังเป็นบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำของ นายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ว่าจะมีความชัดเจน โปร่งใส และมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่หรือไม่ 

‘หน้าเหมือนพ่อ แต่นิสัยเหมือนแม่ ที่เด็ดขาด และตรงไป ตรงมา’ กำลังจะถูกพิสูจน์สำหรับการโยกย้ายนายตำรวจระดับนายพลครั้งแรก

วาทะเด็ดที่กำลังกระจายในแวดงวงสีกากี ‘ของฟรีไม่มีในโลก’ สำหรับตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่ออกมาจากปากคนแวดล้อม คนใกล้ชิด อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร บางคน ,ลุง ,ป้า ,น้า ,อา จะมีส่วนร่วมเข้ามาจัดโผกับ นายกฯ อิ๊งค์ แต่นายกฯหญิงคนนี้ จะยอมหรือไม่ จะยอมให้แค่ไหน ล้วนเป็นประเด็นที่กำลังถูกจับจ้องจากคนในแวดวงสีกากี และคนนอกวงการสีกากี 

ในเมื่อแต่งตั้ง **รักษาการ ผบ.ตร.**เอาไว้แล้ว นายกฯ อิ๊งค์ ยังมีทางเลือกที่จะขอดูโผนายพลตำรวจแบบละเอียด มีทางเลือกที่จะขอเหตุผลแต่ละตำแหน่ง ทำไมต้องเลือกคนนี้ ทำไมไม่ใช่คนนี้ ทำไมคนนี้มีคนขอมา 

โผบางใบ อาจจะแตะไม่ได้ แต่โผอีกหลายใบ ก็แตะได้ และถ้าใช้โอกาสจากการโยกย้ายครั้งนี้ แสดงความเด็ดขาดให้เห็น เหมือนแสดงความรวดเร็วในการลงพื้นที่จากเหตุโศกนาฏกรรมครูและเด็กน้อยในรถบัส นายกฯหญิง แพทองธาร ชินวัตร จะสร้างความนิยมได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น 

ถ้าทำได้จริง 

คราวนี้แม้จะมีอีกสักกี่ พิธา ลิ้มจรูญรัตน์ อีกสักกี่ ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล หรืออีกสักกี่ เท้ง ณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ ก็ฉุดคะแนนนิยมของ แพทองธาร ชินวัตร ไม่อยู่

ลองได้…ไม่มีอะไรเสียจริงมั้ย?

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์