รัฐธรรมนูญใหม่ ตราบที่ไม่ตาย ก็ยังมีความหวัง

8 ต.ค. 2567 - 03:00

  • การแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ภาวะสงบนิ่ง

  • หลังเกิดเหตุใจเร็ว ด่วนได้ ขอแก้รายมาตราเรื่องจริยธรรม

  • จับตาดู บ้านบุรีรัมย์มุดเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า จะมีผลอะไรตามมา

policy-politics-thailland-constitution-SPACEBAR-Hero.png

เพราะความใจร้อน ด่วนได้ของพรรคเพื่อไทยแท้ ๆ จึงทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่หลายพรรคร่วมกันฟูมฟักมานาน ถูกพัดหายไปพร้อมกับดินโคลนของมหาอุทกภัยที่ถล่มภาคเหนือ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน

การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราแบบคู่ขนานของ ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ แห่งค่ายเพื่อไทย ที่จ้องรื้อ**‘ปม’** จริยธรรมนักการเมืองก่อนเป็นเบื้องแรก ในท่ามกลางมหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ กลายเป็นเรื่องที่ไม่รู้จักเวลา ผิดกาลเทศะ แยกแยะไม่ออกว่าสิ่งไหนควรทำก่อนทำหลัง

แถมสิ่งที่ทำล้วนเป็นปัญหาเร่งด่วนของนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าการยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 6 ประเด็น และลามไปถึงกฎหมายลูกอีกสองฉบับ ทั้ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง และพ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.ที่ว่าส่วนไหนกำกวม คลุมเครือ เป็นปัญหากับคนการเมือง ก็ต้องรื้อใหม่เช่นกัน

อาการ ‘ย่ามใจ’ แก้ไขรัฐธรรมนูญแบบสุดซอยที่ว่าของพรรคเพื่อไทย ถูกคนที่เฝ้ารอการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเฉพาะนักวิชาการรุมตำหนิที่เห็นแก่ได้ คำนึงถึงแต่ ‘ประโยชน์ส่วนตัว’ มากไป จนทำให้แผนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับประชาชน

ต้องพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า!!

เพราะความชอบธรรมของการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดย ส.ส.ร.เพื่อมาแทนรัฐธรรมนูญฉบับรัฐประหารของ คสช.ถูกบดทับด้วยคำว่าผลประโยชน์ของนักการเมือง ไม่มีเรื่องของประชาชนอยู่ในนั้น ทั้ง ๆ ที่มีสาระหลัก ๆ อย่างอื่นอีกมากมายที่เป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่

แต่เมื่อนักการเมืองเลือกหยิบเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเองขึ้นมาก่อน จึงทำให้มี ‘ผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ’ เกิดขึ้น และทำให้แผนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถูกปิดประตูลั่นดาลลงสนิท

โดยเฉพาะเมื่อสภาสูง ที่ถูกคุมด้วย สว.สีน้ำเงิน พากันเปลี่ยนหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ในร่างแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชาชมติ จากร่างเดิมที่สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบไป

เมื่อสว.เปิดปฏิบัติการหักกับ สส.มันจึงทำให้ไทม์ไลน์ที่จะนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องพลอย ‘เดท’ ไปด้วย

แต่สำหรับ ‘นิกร จำนง’ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมฟูมฟักให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เริ่มตั้งแต่เป็นกรรมการศึกษาการทำประชามติ จนมาถึงเป็นกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขกฎหมายประชามติ ทั้งในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่มาจากสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี

มาถึงวันนี้ นิกร ยืนยันยังมีความหวังที่จะได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่

‘ตราบใดที่ยังมีเวลา ตราบใดที่ยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังจะได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่’

นิกร จำนง ไม่พูดเปล่า แต่ได้กางปฏิทินให้เห็นว่า จะต้องทำงานแข่งกับเวลาอย่างไร เพื่อให้ทุกอย่างจบลงแบบรอมชอมของทั้งสองสภา ได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

โดยเริ่มจากวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เริ่มไปพูดคุยกับวิปของแต่ละฝ่าย เพื่อหา ‘ทางออกร่วมกัน’ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎร จะนำร่างที่สว.แก้ไข เข้าพิจารณาในวันที่ 9 ตุลาคม และต้องไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขของวุฒิสภาแน่ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักการสำคัญ 

ก็ต้องนำไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาขึ้น

จากนั้น ในวันอังคารถัดไป คือ วันที่ 15 ตุลาคม วุฒิสภาก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมขึ้นเช่นกัน ซึ่งในระหว่างวันที่ 16-23 ตุลาคม จะเป็นช่วงการทำงานร่วมกันของคณะกรรมาธิการร่วม ที่น่าจะเพียงพอเพราะมีเพียงมาตราเดียวที่แก้ไขและต้องหาทางออกร่วมกัน

เมื่อคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาเสร็จ นิกรเชื่อว่า แต่ละสภาก็จะนำกลับไปพิจารณาให้เสร็จก่อนวันที่ 30 ตุลาคม ทันก่อนปิดสมัยประชุมพอดี และส่งให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

ถ้าผลออกมาเป็นแบบนี้ การจัดทำประชามติเพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ก็ยังทำได้ตามกรอบเวลาเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พร้อมกับการเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ

แต่นิกร ก็ไม่ได้มองโลกสวยเสียเลยทีเดียว เพราะหาก ‘สส.คิดจะหักสว.’ คืนบ้าง ก็จะยืนตามร่างเดิมของตัวเอง เพื่อรอให้เวลาผ่าน 180 วัน แล้วค่อยนำมายืนยันด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และส่งขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไปโดยไม่ต้องผ่านวุฒิสภา

แน่นอนว่า การทำแบบนี้ย่อมเป็นชัยชนะของสส. ได้กฎหมายประชามติที่ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียว แต่ถึงแม้จะทำประชามติผ่าน ก็จะไปติดขัดอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ที่จะนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.จะไม่ได้เสียง 1 ใน 3 หรือ 67 เสียง จากสว.ให้แก้ไขได้

แม้จะดันทุรังแก้ไขกฎหมายประชามติ ตามที่สส.ต้องการได้ แต่ก็แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ ตรงนี้กระมัง ที่ทำให้นิกร ยังมีความหวังจะได้เห็นรัฐธรรมนูญใหม่ ตราบที่ยังไม่ตายเสียก่อน

แต่ก็ไม่แน่หลังมีข่าวครูใหญ่บุรีรัมย์ มุดเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันก่อน อาจมีอะไรที่มากกว่าการแลกโผโยกย้ายมหาดไทยกับตำรวจก็เป็นได้?!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์