ทักษิณ ชินวัตร จากเมืองไทยไปนานถึง 17 ปี แม้จะติดตามข่าวคราว ความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด แต่ก็เป็นการรับรู้ผ่านข้อมูล ข่าวสาร มีคนมารายงาน มาเล่าให้ฟัง ไม่ได้สัมผัส หรือมีประสบการณ์กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
เมืองไทยช่วงที่ทักษิณไม่อยู่ มีความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ทั้งดี และไม่ดี ทั้งล้าหลัง และพัฒนาไปข้างหน้า
ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเรื่องหนี่ง ที่เป็นเรื่องสำคัญคือ ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’ หรือ cashless แล้ว และเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในเวลาเพียง 4-5 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการเปิดบริการระบบ ‘พร้อมเพย์’ ในเดือนมกราคม 2560 ที่ทำให้ประชาชนสามารถโอนเงิน ชำระเงินระหว่างกันเองได้ผ่านแอปพลิเคชัน ธนาคาร โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และมีความปลอดภัยสูง
วิกฤตโควิดเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่ทำให้คนไทยเรียนรู้ การใช้ระบบการโอนเงิน ชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล จากการใช้งานโดยตรง เมื่อรัฐบาลพัฒนา แอปฯ เป๋าตัง เพื่อรองรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด คือ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ก่อนหน้าแอปฯ เป๋าตัง มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ‘บัตรลุงตู่’ ที่เป็นตัวกลางรองรับเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แบบตรงเป้า เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช้แจกเงินแบบเหวี่ยงแหเหมือนในอดีต
มันอาจจะไม่ใช่เงินดิจิทัล หรือดิจิทัลวอลเล็ต ที่สมบูรณ์แบบในความหมายทางวิชาการ หรือเทคโนโลยี แต่วิธีการ ‘โอนจ่าย’ และ ‘สแกนจ่าย’ ที่คนไทยทั้งประเทศใช้กันได้อย่างคล่องแคล่วกันแล้วนี่แหละ
ก็พาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายเดียวกับดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล คือไม่ต้องใช้เงินสด ตรวจสอบได้ว่าใครโกง ในโครงการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน ทั้งยังมีสภาพคล่อง ใช้ชำระหนี้ได้โดยตรง หรือจะถอนเป็นเงินสดก็ได้ทันที
เทคโนโลยีที่ดี คือ เทคโนโลยีที่ใช้ง่าย ทุกคนเข้าถึงได้ และต้นทุนต่ำ ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และแอปฯ เป๋าตัง พิสูจน์แล้วว่า เป็นระบบที่ดี ใช้งานได้จริง มีความปลอดภัย โดยไม่ต้องมีระบบบล็อกเชนเลย
เพราะฉะนั้น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตที่ทักษิณพูดในงานปาฐกถาวิชั่น ไทยแลนด์ 2024 ที่บอกว่า เป็นการ ‘ยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว’ คือ กระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้ระบบบล็อกเชน ให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ย่างแม่นยำ แล้วคนไทยจะได้เข้าใจเทคโนโลยี ให้คนเข้าไปใช้ทุกบริการของภาครัฐ อีกหน่อยรัฐอาจออกบอนด์ขายประชาชนรายย่อยนั้น
ประเทศไทย และคนไทยก้าวข้ามเรื่องที่ทักษิณพูดไปนานแล้ว เรื่องขายพันธบัตรรัฐบาลให้ประชาชนที่บอกว่าจะทำผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
เขาทำกันมานานแล้วละ ‘ลุงโทนี่’ !!!!!
ดิจิทัลวอลเล็ต ของพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า ‘ล้มเหลว’ ทำไม่ได้ เพราะปีหนึ่งแล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน งบฯกลางปี 122,000 ล้านบาท ใช้ได้แล้ว แต่ไม่มีวิธีแจก
สุดท้ายต้องกลับมาใช้ บัตรลุงตู่ แจกเงินสด 10,000 บาท และแจกให้แค่กลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน ไม่ใช่แจกให้ 50 ล้านคน เพื่อใช้เงินให้หมดภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ จะได้ไม่มีใครต้องเสี่ยงทำผิดกฎหมายเหมือนในอดีตอีก