กุนซือห่วย ขุนพลแย่ เหตุลุงป้อมแพ้แล้วแพ้อีก

29 ส.ค. 2567 - 03:02

  • เกมเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีพลิกตอนสุดท้าย

  • พลังประชารัฐถูกถอดออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

  • เอาคืนเตรียมแฉหลักฐานยุบพรรคเพื่อไทย

politics-peoplepowerparty-opposition-SPACEBAR-Hero.jpg

มีข่าวสะพัดมาตั้งแต่ช่วงค่ำวันวานว่า สาย ๆ วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเปิดไพ่ใบสำคัญในมือ เพื่อโต้กลับพรรคเพื่อไทย ที่บังอาจเขี่ย พปชร.พ้นครม.อิ๊งค์ 1 แบบไม่ไว้หน้า

โดยไพ่ใบที่ว่านั้น มีพิษสงถึงขั้น ‘ยุบพรรคเพื่อไทย’ และสอยนายกฯ อิ๊งค์ ตกเก้าอี้ได้เลย ประมาณนั้น

‘สามารถ เจนชัยจิตรวนิช’ หนึ่งในทีมงานบ้านป่า เหมือนจะส่งสัญญาณนำร่องเอาไว้ล่วงหน้าว่า หลังจากนี้ พปชร.จะมีมติต่อเรื่องที่ถูกเพื่อไทยปรับออกจากการร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน โดยมีบางประโยคที่เน้นย้ำไว้แบบชัด ๆ ว่า

‘หลังนายเศรษฐา ถูกถอดถอน แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งมีข้อมูลมารายงานถึงพล.อ.ประวิตร ​ว่า จะให้นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ 3 เดือน และจะให้ทุกคนอยู่ตำแหน่งเดิม แต่สุดท้ายกลับเป็นน.ส.แพทองธาร’

เสมือนแหวกหญ้าให้เห็นเล็ก ๆ ว่า นี่เป็นการ ‘ครอบงำ’ ที่นำไปสู่การร้องยุบพรรคได้นะ

รอดูผลหลังประชุมกรรมการบริหาร พปชร.วันนี้ จะมีกระบวนท่าทางกฎหมายอะไรมาดำเนินการกับพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้พลพรรค พปชร.สายบ้านป่า รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกหักหลัง เมื่อถูก ‘ถีบตก’ รัฐนาวาอิ๊งค์ 1 แบบไม่แยแส

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากย้อนไปดูถ้อยแถลงของ ‘สรวงศ์ เทียนทอง’ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยในวันก่อน ก็จะได้เห็นคำตอบชัดเจนถึงสาเหตุที่ไม่เอา พปชร.อยู่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อ ก็เพราะไม่พอใจท่าทีของพล.อ.ประวิตร ตลอดเวลาที่อยู่ร่วมรัฐบาลกันมา

‘ในที่ประชุม สส.หลายคนมีความไม่สบายใจถึงพฤติกรรมของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่โหวตนายกฯ ตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงการยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ที่ผู้อยู่เบื้องหลังก็เป็นที่ทราบกันดี’

ไม่ว่าเหตุผลที่นำมาอธิบายจะเป็นจริงตามนั้นหรือไม่ก็ตาม แต่คงเป็นอารมณ์สะสมที่ถูกเพาะเชื้อมาระยะเวลาหนึ่ง จนนำไปสู่ฟางเส้นสุดท้ายและตัดสินใจปรับ พปชร.ออกจากรัฐบาลในที่สุด

ทีนี้ต้องย้อนไปดูการเดินหมากเกมการเมืองของพล.อ.ประวิตร ทำไมถึงเกิด **‘ข้อผิดพลาด’**ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ ที่ใคร ๆ ก็ต้องซูฮกให้ ต่อมาแม้จะไม่มีภาพพี่น้อง 3 ป.หลงเหลืออยู่แล้ว แต่ก็ยังดำรงตนในฐานะจ้าวป่าอยู่มาได้

แต่วันนี้อาณาจักรที่เคยเป็นป่าใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์ กลับถูกทำลายลง เหลือสภาพไม่ต่างกับป่าเสื่อมโทรม ที่รอการฟื้นฟู เกิดอะไรขึ้นกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในวัย 79 ปี

หากย้อนมองอดีตสู่ปัจจุบัน ความสำเร็จของพี่น้อง 3 ป.เกิดจากบุคลิก ความห้าว ความนุ่มลึก และความเป็นมือประสาน ที่มีอยู่ในตัวของแต่ละคน จึงแบ่งบทกันเล่นได้อย่างประสานสอดคล้อง สามารถสร้างตำนานความยิ่งใหญ่ของพี่น้อง 3 ป.ขึ้นและอยู่มาได้อย่างยาวนาน

ทว่าวันนี้ของลุงป้อม ที่เป็นพยัคฆ์ชราอยู่แบบลำพังในวงล้อมของนักการเมือง ที่ต่างมีความองอาจในตัว และที่สำคัญต่างคิดว่าตัวเองคือ ‘กุนซือสมองเพชร’ ท่องยุทธจักรเจนจบกระบวนยุทธทางการเมืองมากันทั้งนั้น

ไม่มี ‘น้องคนกลาง’ ทำหน้าที่เก็บรายละเอียด คอยระหวังหน้าระวังหลังให้ ขาด ‘น้องคนเล็ก’ คอยออกหน้าเป็นตัวทำเกมรุกให้เหมือนในอดีต  แต่กลับถูกห้อมล้อมไปด้วยกลุ่มคนที่ร้อนวิชา

เพราะฉะนั้น ปฐมบทจากการเปิดเกมรุกทางการเมืองกรณีสอย เศรษฐา ทวีสิน พ้นเก้าอี้นายกฯ จากฝีมือของ 40 อดีตสว.แม้จะเปลี่ยนเกมได้จริง แต่กลับเป็นชัยชนะที่นำมาสู่ความพ่ายแพ้ในวันนี้ 

ไม่ต่างกับชนะศึก แต่แพ้สงคราม!!

เพราะโอกาสที่ถูกเปิดขึ้นมานั้น เป็นของคนอื่นที่ชื่อ ‘แพทองธาร’ ไม่ใช่โอกาสของลุงป้อม

แม้แต่การเปิดเกมรุก ทวงถามใบกรอกประวัติรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก่อนถูกเขี่ยพ้น ครม.อิ๊งค์ 1 ก็เป็นอีกครั้งที่ก้าวพลาด เพราะเชื่อว่าแถลงการณ์ พปชร.ที่อ้างมติพรรคและข้อบังคับที่ส่งไปก่อนหน้านั้น จะเป็นท่าไม้ตาย หยุดเพื่อไทยไม่ให้เลือกข้าง ‘ผู้กอง’ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

แต่พออีกฝ่าย แค่ ‘พลิกฝ่ามือ’ เปลี่ยนตัวผู้เล่นไปใช้ร่างทรงแทน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับ พปชร.เท่านี้กุนซือลุงป้อมที่อ่านไม่ขาดก็ไปไม่เป็น ถอนตัวไม่ทัน จนถูกถีบออกจากการร่วมรัฐบาล

เป็นเหตุให้ทหารแก่ไม่มีวันตาย เกิดอาการสำลักโลหิตอยู่เวลานี้

หรือแม้แต่กระบวนท่าล่าสุด ที่ไปยื่นร้องยุบพรรคเพื่อไทยต่อ กกต.ต่อให้ ‘**ปกปิด’**ชื่อผู้ร้องขนาดไหน แต่คนในเพื่อไทยเขารู้กันหมดว่า เป็นคน ๆ เดียวกับที่ลงนามในจดหมายน้อยทวงถามนายกฯ เรื่องใบกรอกประวัติพล.ต.อ.พัชรวาท และเป็นคนเดียวกับที่เขียนคำร้องให้อดีต 40 สว.สอยนายกฯเศรษฐา

สรุปแล้ว ขุนพลข้างกายลุงป้อม โดยเฉพาะในสถานการณ์สู้รบในช่วงสั้น ๆ ที่ผ่านมาไม่ว่า ‘สามารถ เจนชัยจิตรวนิช’ ที่พานักการเมืองสองพ่อลูกย่านบางบอน เข้ามาอาศัยพักพิงอยู่ในบ้านป่า ในขณะที่กำลังหมางใจกับนายใหญ่ อันไม่ต่างกับให้ที่หลบซ่อน

ใช้บ้านป่าเป็นหลุมหลบภัยการเมือง จนกลายเป็นภัยให้กับเจ้าของบ้าน

หรือแม้แต่ ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ มือกฎหมายผู้โด่งดังในฐานะผู้ก่อตั้งกลุ่ม 40 สว.ในยุคก่อนโน้น ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ นักการเมืองผู้เหยียบเรือสองแคม และ ‘ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์’ คนรอบข้างเหล่านี้ ที่พากันห้อมล้อมและปลุกความหวังให้ลุงเส้นกระตุกทุกครั้ง ที่ได้เห็นแผนการต่าง ๆ

แต่สุดท้าย รังแต่พบกับความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงที่กำลังพยายามยัดเยียด อุปโลกน์ ให้ลุงลุกขึ้นมาเป็น ‘ผู้นำสายอนุรักษ์นิยม’ คนใหม่ในเวลานี้ด้วย ก็คงมีจุดลงเอยที่ไม่ต่างกัน

เอาเป็นว่า หลังพระฉันเพลวันนี้ ลุงป้อมจะมีไม้เด็ดอะไรออกมาอีกหรือไม่ นอกจากให้นักร้องในสังกัดไปยื่นร้ององค์กรอิสระ เอาผิดเรื่องการครอบงำ ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม

คงไม่ถึงกับเป็นระเบิดปรมาณูทางการเมือง ที่ทำให้ย่อยยับกันไปทั้งวงการ

ถึงเวลาที่ ‘ทหารแก่ไม่มีวันตาย’ ต้องหันมามองตัวเองว่า ที่สู้แล้วไม่เคยชนะในเกมเลยนั้น 

เป็นการแพ้คนรอบข้างที่กล่อมจนเคลิ้มและเส้นกระตุกทุกครั้งที่เห็นเก้าอี้นายกฯ ลอยมาอยู่ตรงหน้าหรือเปล่า?

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์