ร.ต.อ เฉลิม อยู่บำรุง ได้รับฉายาว่า ‘ดาวดับ’ จากสื่อมวลชนประจำรัฐสภา เมื่อปลายปี 2552 จากการแก้ตัวให้ ทักษิณ ชินวัตรว่า ‘พันตำรวจโททักษิณ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม’ ซึ่งคำพูดนี้ได้กลายเป็นวาทะแห่งปีในตอนนั้นด้วย
สารวัตรเฉลิมนั้นมีดีที่ ‘ปาก’ พูดเก่ง กล้าพูด กล้าชน ปะฉะดะ เป็นองครักษ์พิทักษ์นายแบบหัวชนฝาจนได้ ‘ปูนบำเหน็จ’ เป็นรัฐมนตรีมาหลายยุค หลายสมัย ตั้งแต่รัฐบาล ‘พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ’ , รัฐบาล ‘สมัคร สุนทรเวช’ ที่ได้บรรลุความฝันอันสูงสุด เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แม้จะได้เป็นแค่ 6 เดือน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐมนตรีแรงงาน และรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็น**‘บุญคุณ’** ที่ ร.ต.อ เฉลิม ได้รับการทดแทนไปแล้ว ไม่รู้ว่า เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ตลอดจนหัวหน้าพรรค ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร คิดอย่างนี้หรือเปล่า ท่าทีล่าสุดต่อ สารวัตรเหลิม จึงออกมาในแบบ ‘ช่างมันฉันไม่แคร์’ ไม่ว่าจะเป็นการ ‘ดีด’ สารวัตรเหลิม ออกจากกรุ๊ปไลน์ สส.พรรคเพื่อไทย หลังจากเฉลิมท้าให้ขับออกจากพรรค หรือที่อุ๊งอิ๊ง บอกว่า ‘มีอะไรให้เข้ามาคุยกันที่พรรค จะไม่ไปหาที่บ้านเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว’
ครั้งก่อนคือเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนปีที่แล้ว อุ๊งอิ๊งไปหาลุงเหลิมที่บ้านริมคลอง ถ่ายรูปร่วมกับ เฉลิม วัน อยู่บำรุง และ ‘กาโม่’ อาชวิน ลูกชายของวัน
ก่อนหน้านี้ ลุงเหลิมอาละวาด ประกาศตัดขาดกับทักษิณที่พูดว่าไม่ให้เฉลิมมีตำแหน่งในรัฐบาล เพราะเป็น ‘คนกวนโอ๊ย’
หลัง ‘อุ๊งอิ๊ง’ มุดเข้าบ้านริมคลองไม่นาน วัน อยู่บำรุง ก็ได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และอาชวิน เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดีอีเอส ในวัยเพียง 26 ปี
ครั้งนี้ต้นเหตุมาจาก วัน อยู่บำรุง ไปปรากฏตัวที่บ้านพัก ‘พล.ต.ท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง’ ผู้สมัคร ของนายก อบจ. ปทุมธานี ในคืนที่มีการนับคะแนน ทำให้มีเสียง ‘เอ๊ะ’ จากคนในพรรคเพื่อไทย เพราะ คำรณวิทย์ เป็นคูแข่งกับ ‘ชาญ พวงเพ็ชร์’ ซึ่งสมัครในนามพรรคเพื่อไทย จะสนิทสนมกันแต่ไหน การไปแสดงตัวในสถานการณ์เช่นนั้น ถือว่า ‘ผิดมารยาททางการเมือง’
เมื่ออุ๊งอิ๊งเรียกวันไปคุยว่า ไปทำไม วันไม่พอใจ จึงยื่นใบลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี และลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทำให้สารวัตรเหลิมซึ่งรักลูกไม่เคยเปลี่ยนแปลง ประกาศท้าชนกับทักษิณ และท้าให้พรรคเพื่อไทย ขับออกจากพรรค
สุภาษิตไทยที่ว่า ‘เขียนเสือให้วัวกลัว’ หมายความว่า ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียขวัญหรือเกรงขาม เปรียบดั่งเช่น เขียนภาพเสือเอาไว้เพื่อให้วัวเกิดอาการเกรงกลัว นั่นเอง
เฉลิมวันนี้ไม่ใช่เฉลิมเมื่อ 15 ปีที่แล้ว การเมืองเปลี่ยนแต่เฉลิมไม่เปลี่ยน ยังหากินอยู่กับสโลแกน ใจถึงพึ่งได้ การเลือกตั้งครั้งล่าสุด วัน อยู่บำรุง สอบตกคาบ้าน แพ้รักชนก ศรีนอก แห่งพรรคก้าวไกล ขาดลอย 20,000 คะแนน
สำหรับตัวของวัน อยู่บำรุง ที่เฉลิมวางตัวเป็นทายาททางการเมือง ต้องบอกว่าถ้าไม่ใช่ ‘ลูกเฉลิม’ นามสกุล ‘อยู่บำรุง’ คงไม่มีวันนี้
ขนาดเป็นลูกเฉลิมก็ยังได้แค่นี้ เพราะไม่ปรากฏว่ามีจุดเด่น มีความสามารถอะไรที่เป็นของตัวเองเลย ความเสื่อมของบ้านริมคลองในวันนี้ ต้องบอกว่าเพราะขาดผู้สืบทอดที่ดีนั่นแหละ
ยิ่งวิ่งไปเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วยแล้ว ก็ยิ่งสะท้อนถึง ‘ทางตัน’ บนเส้นทางการเมืองของ ร.ต.อ เฉลิม เพราะวันนี้พรรคพลังประชารัฐ แม้จะร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ ‘เรืองอำนาจ’ เหมือนก่อน
ระหว่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ยังไม่แน่ว่า ‘ใครใหญ่กว่าใคร’ วันนี้บ้านป่ารอยต่อเงียบเหงา ไร้ผู้คนคนในบ้านจึงดีใจ เมื่อวัน อยู่บำรุง เดินเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่
สรรพสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป บ้านริมคลองที่บางบอนก็เป็นเช่นนั้น
