ภารกิจก่อนถอนสมอ ผบ.ทร.คนใหม่..‘ต้องมีคุณธรรม’

7 ก.ย. 2567 - 04:57

  • โผทหาร 2567 ร้อนแรงดุเดือด ดึงขุมพลังทุกสายวางไลน์รุ่น ชิงตำแหน่ง ผบ.กองทัพคนใหม่

  • ภารกิจสุดท้ายก่อนถอนสมอ ‘บิ๊กดุง’ เสนอชื่อ ’บิ๊กแมว’ เป็น ผบ.ทร.ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แค่เก่งไม่พอ…แต่ต้องมีคุณธรรม”

  • วัดใจ รมว.กลาโหมคนเก่าและคนใหม่ ใครจะลงนามโผทหาร 2567 เป็นโผตาม ผบ.เหล่าทัพเสนอ หรือโผสนองการเมือง

politics-soldiers-army-SPACEBAR-Hero.jpg

ดุเดือดและจบไม่ลง สำหรับบรรยากาศการประชุมสภากลาโหม ตั้งแต่บ่ายวันที่ 3 กันยายน 2567  ที่ถกกันยาวกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง ก่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่จะเข้ามารับหน้าที่

ประเด็นที่ถกกันมากที่สุด น่าจะเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่ยังคงมีความเห็นต่างทั้ง ตำแหน่ง ‘ผู้บัญชาการทหารบก’ และตำแหน่ง ’ผู้บัญชาการทหารเรือ’ เมื่อทั้งรายชื่อว่าที่ ผบ.ทบ.ที่ผู้บัญชาการทหารบก และรายชื่อว่าที่ ผบ.ทร.ที่ผู้บัญชาการทหารเรือเสนอ ไม่ตรงกับรายชื่อที่รัฐมนตรีอยากได้

’พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์‘ ผู้บัญชาการทหารบก เสนอชื่อ ’พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์’ เสนาธิการทหารบก เตรียมทหาร26 ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ขณะที่มีชื่อ ‘พล.อ.ธราพงษ์ มาละคำ’ ผู้ช่วยบัญชาการทหารบก เตรียมทหาร24 ขึ้นมาเป็นแคนดิเดท

ท่าทีของ ‘พล.อ.เจริญชัย’ ค่อนข้างหนักแน่น และมีเหตุผลต่อการเสนอชื่อ ’พล.อ.พนา’ ทำให้ได้ข้อยุติไม่ยากนัก เพราะเมื่อ ’พล.อ.เจริญชัย’ ยืนยันหนักแน่น ที่ประชุมก็มีมติยอมรับ

ส่วนเบื้องหลังก่อนจะพลิกมาเป็น ’พล.อ.พนา’ ในช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ ชื่อ ’พล.อ.ธราพงษ์’ ค่อนข้างโดดเด่น และถูกจับตามองว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่จะเบียด ’พล.อ.พนา’ ขึ้นมาแทน เป็นมหากาพย์ที่บาดลึกและเป็นความขัดแย้งที่คุกรุ่น ถึงขั้นกลืนเลือด ยอมเสียอวัยวะรักษาชีวิต ที่ต้องเล่ากันยาวๆเป็น EP.พิเศษ

แต่ที่ดุเดือดเป็นพิเศษ และเป็นบรรยากาศที่ดุเดือดทั้งการพูดคุยส่วนตัวระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ’สุทิน คลังแสง’ และ ’พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม’ ผู้บัญชาการทหารเรือ จนต่อเนื่องมาเป็นการอภิปรายกลางที่ประชุมสภากลาโหมแบบต่อเนื่องเกือบ 3 ชั่วโมง เป็นตำแหน่ง ‘ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่’

‘พล.ร.อ.อะดุง’ ยืนยันเสนอชื่อ ’บิ๊กแมว’ ’พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์’ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เตรียมทหารรุ่น23 ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่เพียงรายชื่อเดียว แม้จะมีแคนดิเดทที่มีคุณสมบัติครบอีก 4 คน ทั้ง ‘บิ๊กวิน’ ‘พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข’ รอง ผบ.ทร.เตรียมทหารรุ่น 25

,‘บิ๊กโอ๋’ ‘พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์’ ผู้ช่วยผบ.ทร.เตรียมทหารรุ่น 23 ,เสธฯน้อย พล.ร.อ.วราวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ เตรียมทหาร 24 และ พล.ร.อ.สุพพัต ยุทธวงศ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เตรียมทหารรุ่น 24

‘บิ๊กดุง’ ยืนยันกับ ’สุทิน คลังแสง’ ทั้งการพูดคุยนอกรอบและในรอบ ทั้งในกระทรวงกลาโหม และการพบกันที่อื่น ถึงสาเหตุที่ทำไมต้องเสนอชื่อ ’พล.ร.อ.จิรพล’ เป็น ผบ.ทร. และทำไมไม่เสนอชื่อ ‘พล.ร.อ.สุวิน’ ที่มีอาวุโสสูงสุด และมีเส้นทางการรับราชการที่โดดเด่นกว่า

มีเพียง ’สุทิน’ เท่านั้นที่รู้ว่า ทำไม ‘พล.ร.อ.อะดุง’ ถึงไม่เสนอชื่อ ‘พล.ร.อ.สุวิน’ และยืนกรานเด็ดขาดว่า จะอย่างไรก็ไม่เสนอ เพราะไม่ว่าจะถามกี่ครั้ง ’พล.ร.อ.อะดุง’ ก็ให้เหตุผลเหมือนกันทุกครั้ง

ท่าทีของ ’บิ๊กดุง’ ถึงขั้นที่คนวงในบอกว่า หากจะมีการเปลี่ยนชื่อจาก ’พล.ร.อ.จิรพล‘ เป็น ’พล.ร.อ.สุวิน’ ก็ขอให้รัฐมนตรีเป็นคนเปลี่ยนเอง

ส่วนเหตุผลที่เสนอชื่อ ’บิ๊กแมว‘ ’พล.ร.อ.จิรพล‘ ทั้งที่ ’บิ๊กแมว‘ ไม่ได้จบจากโรงเรียนนายเรือไทย แต่จบโรงเรียนนายเรือเมอร์วิค จากเมืองเฟลนสบวกประเทศเยอรมนี อันอาจจะเป็นการฝืนประเพณีกองทัพเรือ ที่ผู้บัญชาการทหารเรือจะต้องจบจากโรงเรียนนายเรือไทยเท่านั้น

คนใกล้ชิด ’บิ๊กดุง’ เท่านั้นที่รู้ว่าชื่อ ’บิ๊กแมว’ อยู่ในใจมาโดยตลอด เพราะมีแนวทางการทำงานที่ใกล้เคียงกัน มีแนวคิดการพัฒนากองทัพเรือแนวทางเดียวกัน ที่สำคัญ คือ เป็นคนเรียนเก่ง ทำงานเก่งเหมือนกัน และมีคุณสมบัติที่ ’บิ๊กดุง’ พูดเสมอว่า 

”คนเก่งอย่างเดียวไม่เพียงพอจะเป็นผู้นำเหล่าทัพ เพราะคนเก่งที่เหมาะสม จะต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมด้วย กองทัพเรือถึงจะกลับเข้าสู่แนวทางสุภาพบุรุษกองทัพเรืออีกครั้ง“

เกือบหนึ่งปีที่ ’พล.ร.อ.อะดุง’ พยายามวางแนวทางการบริหารกองทัพเรือให้กลับมาสู่ความภาคภูมิใจของคนในกองทัพ เป็นแนวทางที่กำลังจะไปได้ดี การเลือกผู้สานต่อแนวทางนี้ จึงจำเป็นจะต้องเป็นคนที่เชื่อว่า จะสานต่อแนวทางนี้ได้ และ ’พล.ร.อ.จิรพล‘ เป็นคนที่ ’บิ๊กดุง’ เชื่อว่า จะเป็นคนๆนั้น เพราะทันทีที่รับตำแหน่ง ผบ.ทร. ’พล.ร.อ.อะดุง’ ก็มอบหมายให้ ’พล.ร.อ.จิรพล‘ เข้าไปดูแลพื้นที่ EEC ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ อันเป็นตำแหน่งที่ต้องเป็นคนที่ไว้ใจสูงสุด

แต่เวลานั้นก็ยังไม่มีใครมองว่า ’พล.ร.อ.จิรพล’ จะเป็นคนที่ ’พล.ร.อ.อะดุง’ จะวางไว้เป็นทายาท ผบ.ทร.คนต่อไป ด้วยคุณสมบัติการจบการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือเยอรมนี และการที่ไม่ได้อยู่ใน 4 ตำแหน่งหลักของกองทัพเรือ รวมทั้งโปรไฟล์การรับราชการที่หลายฝ่ายเชื่อว่า ไม่โดดเด่นพอ ทั้งที่หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ ’พล.ร.อ.จิรพล‘ ดำรงตำแหน่งผู้บังคับเรือสุโขทัย และเป็นหนึ่งในกำลังพลหัวกะทิของกองทัพเรือที่ถูกคัดเลือกให้เป็นทีมรับเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกที่ ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2537 ครั้งนั้น ’พล.ร.อ.จิรพล‘ เป็นหนึ่งในนายทหารเรือที่ถูกมองว่า มีอนาคตที่โดดเด่นคนหนึ่ง

ส่วนเส้นทางการรับราชการของ ’พล.ร.อ.จิรพล‘ แม้จะถูกตั้งข้อสังเกตและมีการปล่อยข้อมูลมาเป็นระยะว่า ด้อยกว่าแคนดิเดทอื่น ๆ ทั้งบิ๊กวิน บิ๊กโอ๋ และเสธฯน้อย แต่เมื่อถอยกลับไปส่องลำดับการศึกษาและการรับราชการ ’พล.ร.อ.จิรพล‘ ก็จัดว่า อยู่ในเส้นทางหลักมาตลอด

’พล.ร.อ.จิรพล’ เบี่ยงเบนออกจากเส้นทางหลักในยุคที่คนในกองทัพเรือเรียกว่า ยุคมืดของกองทัพเรือ และเป็นช่วงเวลาเดียวกับกับ ’พล.ร.อ.อะดุง’ ที่ต้องครองยศ ’พล.ร.ต.’ นานถึง 5 ปี ซึ่ง ’พล.ร.อ.จิรพล‘ ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย เรือรบหลักของกองทัพเรือ และยังเป็นผู้บังคับการเรือก่อน ’พล.ร.อ.สุวิน’ ด้วยซ้ำ

’พล.ร.อ.จิรพล’ ยังผ่านการเป็นผู้บังคับการกองเรือยามฝั่ง เสนาธิการกองเรือฟริเกตที่ 1 ก่อนจะขยับขึ้นเป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ และดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารเรือ และขยับขึ้นเป็นพลเรือเอกในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เมื่อดือนตุลาคม ปี 2566 

ส่วนการศึกษา จบหลักสูตรเรือดำน้ำจากเยอรมนี และวิศวกรรมไฟฟ้าจากโรงเรียนนายเรือเยอรมนี รวมทั้งจบวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรจากประเทศจีน และปริญญาโทรรัฐประศาสนศาสตร์ ด้วยรางวัลเรียนดี จาก NIDA

การเสนอชื่อว่าที่ ผบ.ทร.คนใหม่รอบนี้ จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญครั้งใหญ่ของกองทัพเรืออีกครั้ง ว่าจะเดินหน้าไปสู่แนวทางการสร้างกองทัพเรือให้กลับมาสู่ความภาคภูมิใจของเหล่าลูกประดู่ราชนาวีไทย หรือกลับไปสู่ยุคสืบทอดอำนาจทายาทของ ’คนที่สร้างยุคมืด‘ ให้กับกองทัพเรือ ที่จนถึงวันนี้ยังถูกร่ำลือกล่าวขานกันว่าเดินกลับเข้าไปในกองทัพเรือไม่ได้

ภารกิจก่อนถอนสมอของ ’พล.ร.อ.อะดุง’ ที่วางไว้จะสำเร็จหรือไม่ ต้องรอวัดใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนเก่า และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ว่า จะยืนตามโผที่ผบ.เหล่าทัพ ต่างลงนามไว้หมดแล้ว หรือจะกินดีหมี ลุยเปลี่ยนรายชื่อตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์