เบื้องหลัง พรรคส้มยึด อบจ.ลำพูน

3 ก.พ. 2568 - 02:38

  • ผลแพ้ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.

  • มีทั้งยอมรับและไม่ยอมรับผลที่เกิดขึ้น

  • พ่ายแพ้ใน 3 จังหวัด

politics-thailand-behind-people-party-lamphun-provincial-SPACEBAR-Hero.jpg

บรรดากูรูหลังเกม ต่างวิเคราะห์**ผลแพ้ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.**ของพรรคสีแดง สีน้ำเงิน สีส้ม และบ้านใหญ่กันไปต่าง ๆ นานา มีทั้งยอมรับและไม่ยอมรับผลที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคนในพรรคเพื่อไทย ที่เรียงหน้าออกมาโต้ว่า

‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง และที่ชนะมาได้ขนาดนี้ก็เพราะฝีมือนายใหญ่ล้วน ๆ ถ้าไม่ไปช่วยคงไม่ได้เท่านี้

แต่คนเพื่อไทย คงต้องไปสแกนดูความพ่ายแพ้ใน 3 จังหวัด ลำพูน เชียงราย ศรีสะเกษ ว่าเกิดอะไรขึ้น?!

เพราะงานนี้ ไม่ว่าจะขลังหรือไม่ขลัง เสื่อมไม่เสื่อม แต่เสียหน้าแน่ ๆ

สาเหตุที่คนเมืองดอกลำดวน จ.ศรีสะเกษ ไม่เลือกผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ทั้ง ๆ ที่ ทักษิณ ชินวัตร ลงทุนยกทัพหลวงไปเปิดเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครแบบปักหลักพักค้าง เปิดยุทธการไล่หนูตีงูเห่ารอบสอง คงไม่ใช่เพราะเจอย้อนศรจากคู่แข่งเรื่องไม่มีสี มีสีเดียว คือ ‘ศรีสะเกษ’ เท่านั้น

ทว่าต้องไปดูกลศึก ‘ขอมดำดิน’ ของครูใหญ่การเมือง ที่ใช้ได้ผลมาตั้งแต่การเลือกสว.ที่ผ่านมาด้วย ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เพื่อไทยนอกจากเปิดยุทธการไม่สำเร็จแล้ว ยังถูกงูเห่ากัดตายและถูกหนูแทะซากอย่างอเนจอนาถ คาสนามเลือกตั้งเมืองศรีสะเกษด้วย

ส่วนที่ จ.เชียงราย หากไม่มีอะไรซับซ้อน งานนี้ก็คงเจอกลศึกแบบเดียวกับที่ศรีสะเกษ คือ ยุทธการขอมดำดิน ที่พรรคสีน้ำเงินสู้แบบมวยซุ่ม ไม่เปิดหน้าชก ขึ้นเวทีด่ากราด สร้างศัตรูเพิ่มรายวันอย่างที่นายใหญ่เพื่อไทยถนัด

แต่อย่าลืมว่า สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ภรรยา ยุทธ ตู้เย็น ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่พ่ายแพ้ให้กับแชมป์เก่า อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ คนของพรรคภูมิใจไทย ที่คะแนนห่างกันไม่ถึงสองหมื่นคะแนนนั้น ไม่แน่ใจเกิดการขัดลำกล้องกันในกลุ่มบ้านใหญ่เพื่อไทยหรือเปล่า?

เพราะเลือกตั้งหนก่อน วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และทักษิณเองก็มีจดหมายน้อยจากแดนไกลมาให้การสนับสนุน แต่เที่ยวนี้ถูก ‘อ้ายยุทธ’ ปาดหน้าส่งภรรยาลงสมัครแทน ซึ่งกว่าจะลงตัวได้ทักษิณต้องเรียกทั้ง วิสาร เตชะธีราวัฒน์ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน มากล่อมอยู่นาน

ในขณะที่บ้านใหญ่ตระกูลจงสุทธานามณี ที่กลับเข้ามาอยู่เพื่อไทยภายใต่ร่มเขาของ ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็แค้นฝังหุ่นอยู่กับเมียอ้ายยุทธ เพราะเป็นคดีฟ้องร้องกัน จนสลักจฤฎดิ์ ที่เดิมชื่อ ‘สลักจิตร’ ต้องหลุดจากเก้าอี้นายก อบจ.เชียงราย และไปเปลี่ยนชื่อใหม่ที่เรียกยาก ๆ อยู่ปัจจุบัน   

ไม่นับแค้นใหม่ ที่ไปเบียดพื้นที่เขต 1 เชียงราย ส่ง ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ลงสมัครสส.แทนคนของยงยุทธ แม้จะสอบตก แต่ก็ได้นั่งเป็นเลขานุการ รมว.คลัง

เมื่อการเมืองเชียงรายมีบ้านใหญ่อยู่หลายหลัง และเป็นยิ่งกว่าสามก๊ก การพ่ายแพ้ซ้ำสองของพรรคเพื่อไทยที่เชียงรายหนนี้ จึงน่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังมากกว่าเจอมวยซุ่มอย่างภูมิใจไทย

สุดท้าย จ.ลำพูน ที่พรรคสีส้มปักธงแจ้งเกิดได้เพียงแห่งเดียวในการเลือกนายก อบจ.ครั้งนี้ จนเรียกกันว่า ‘ปรากฎการณ์ลำพูน’ เพราะนอกจากจะหักปากกาเซียนแล้ว ยังเป็นจังหวัดเดียวที่รักษาแชมป์ประเทศไทย มีผู้มาใช้สิทธิ์มากเป็นอันดับหนึ่ง 73.34% ในขณะที่ทั่วประเทศมีผู้มาใช้สิทธิ์เพียง 55% เท่านั้น

โดย วีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครพรรคประชาชน ได้ 109,372 คะแนน โค่นแชมป์เก่า อนุสรณ์ วงศ์วรรณ ผู้สมัครเพื่อไทย ได้ 103,405 คะแนน ห่างกันเพียง 5,967 แต้ม

แถมพรรคสีส้มยังกวาดเก้าอี้ ส.อบจ.ลำพูน ได้เกือบยกจังหวัดอีกต่างหาก

ถามไถ่จากคนในพื้นที่ดูแล้ว เบื้องหลังชัยชนะของพรรคสีส้มที่ลำพูน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าการตื่นตัวทางการเมืองของคนในพื้นที่ ซึ่งสะท้อนผ่านการเป็นแชมป์ประเทศไทยมาแล้ว 14 ครั้ง และครั้งนี้ก็มาใช้สิทธิ์เป็นอันดับหนึ่ง

นี่คือต้นทุนสำคัญในทางการเมืองของคนเมืองหละปูน

ส่วนแพ้ชนะของสีแดง-สีส้มหนนี้ เบื้องต้นฟังมาว่าเกิดจาก 2 เหตุผลง่าย ๆ เท่านั้น คือ อย่างแรก เกิดจากอารมณ์เบื่อคนเก่า ที่อยากเปลี่ยนตัวคนใหม่บ้าง และอย่างที่สอง ความผิดพลาดการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เน้นแต่เรื่อง ‘เงินหมื่นบาท’ วน ๆ  ซ้ำ ๆ อยู่เท่านี้

จนชาวบ้านเกิดความรู้สึกรำคาญ และตั้งคำถามกันขึ้นมาว่า แจกเงินหมื่นมันใช่หน้าที่อบจ.หรือ?

ความจริงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของ จ.ลำพูน เริ่มมาตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เมื่อ สส.ผูกขาดอย่าง สงวน พงษ์มณี ของเพื่อไทย พ่ายให้กับผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 และเหลือเขต 2 ให้เพื่อไทย ซึ่งเอาชนะพรรคสีส้มห่างกันเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น

การโค่นแชมป์เก่าครั้งนี้ของพรรคสีส้มที่ลำพูน ทำให้คนในพื้นที่เริ่มพูดกันหนาหูมากกขึ้นว่า ‘ถ้าอยากเป็นผู้แทนต้องลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยนั้น’ ต่อจากนี้จะไม่เป็นความจริงอีกต่อไป

สุดท้ายปรากฎการณ์ลำพูน คงทำให้พรรคสีส้มทำงานได้ง่ายขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องท้าทายไม่น้อยสำหรับการผลักกดันสร้าง ‘ท้องถิ่นต้นแบบ’ ขึ้นตามที่ได้ประกาศไว้

ส่วนใครที่รู้สึกว่าเสียหน้า กลับจากมาเลเซียแล้วก็ไปไล่ดูคะแนนรายอำเภอกันเอาเองว่าลูกน้องคนไหนเกียร์ว่าง?!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์