ตีความคุณสมบัติรมต. ซื้อใจผู้กองธรรมนัส ?!

27 ก.พ. 2568 - 03:23

  • ความชัดเจนในเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีในอนาคต

  • ไม่ได้มุ่งเรื่องผลในทางกฎหมายอย่างเดียว

  • แต่อาจมีเป้าหมายทางการเมืองรวมอยู่ด้วย

politics-thailand-deepspace-interpret-qualifications-ministers-SPACEBAR-Hero.jpg

**การประชุมลับในช่วงท้ายประชุมครม.**วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณส่งเรื่องสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับความชัดเจนเรื่องกรอบจริยธรรมและนิยามคำว่า "ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์" ซึ่งเป็นคุณสมบัติของรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5)

แม้เรื่องจะอยู่ในชั้นความลับ ที่เรียกว่า "ลับมาก" แต่ก็ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป หลังถูกสื่อนำมาเปิดเผย และคนในรัฐบาลหลายคน รวมทั้งนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังจะถูกฝ่ายค้านจับขึ้นเขียงเดี่ยว ก็ยอมรับว่าเป็นจริงตามนั้น เพราะต้องการความชัดเจนเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคต

"เป็นสิ่งที่ต้องการสร้างความชัดเจนเท่านั้นเอง เพราะของเดิมไม่ทราบว่าขอบเขตเป็นอย่างไร เพื่อให้คนปฏิบัติจะได้ปฏิบัติอย่างชัดเจน" นายกฯ อิ๊งค์ ย้ำเหตุผลที่ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ

ในขณะที่ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการ ยอมรับเช่นกันว่า ทำเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องคุณสมบัติส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องหรือไม่นั้น ยังไม่รู้ แต่จะยื่นไปก่อน

"เขาไม่อยากให้คุณไปตีความถึงขนาดทำนู่น ทำนี่ เพียงแต่ว่าเขาต้องการให้เกิดความชัดเจนเท่านั้นเอง คุณสมบัติข้อนี้ ๆ เป็นยังไง เพราะที่ผ่านมาเราก็ทราบดีว่า ไม่มีความชัดเจน"

แม้คนในรัฐบาลจะไม่มีใครปริปากยอมรับว่า การยื่นถามศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกี่ยวกับการปรับ ครม.ที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคกล้าธรรมตัวจริง แต่งตัวรอกลับมาเป็นรัฐมนตรีอยู่

งานนี้อาจารย์ชูศักดิ์ จึงต้องยอมเปลืองตัวอีกรอบ หลังนำเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ถูกตีกลับตลอด จนมีคนสงสัยในความเป็นมือกฎหมายของอาจารย์ ทำไมอ่านกฎหมายไม่ขาด แต่ก็ยังเทียวไปเทียวมาศาลรัฐธรรมนูญอยู่ซ้ำ ๆ

มาวันนี้ การอาสาส่งเรื่องสอบถามศาลรัฐธรรมนูญเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี คงมีคนเริ่มเข้าใจความเป็นมือกฎหมายชั้นครูของอาจารย์มากขึ้น ที่ต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยบ่อย ๆ นั้น ไม่ได้มุ่งเรื่องผลในทางกฎหมายอย่างเดียว

แต่มีเป้าหมายทางการเมืองรวมอยู่ด้วยและอาจเป็นเรื่องหลักด้วยซ้ำ!!

โดยครั้งนี้คงเห็นได้ชัดที่สุด ถึงเป้าหมายทางการเมืองที่ว่า เพราะสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนนตรี ที่ชงเรื่องให้ครม.พิจารณา ก็ย่อมตระหนักเป็นอย่างดีว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีไว้สำหรับให้คำปรึกษาใคร?

ขนาดคนที่คิดว่าเจอปัญหามากับตัวอย่าง ไผ่ ลิกค์ ที่วืดไม่ได้เป็นเสนาบดีหนก่อน ได้ยื่นร้อง 4 หน่วยงาน ตั้งแต่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ร่วมกันดับฝัน "ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ" ปิดทางสู่เก้าอี้รัฐมนตรี ให้เป็นเกียรติเป็นศรีกับวงศ์ตระกูล

ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตก ไม่รับคำร้องด้วยมติเอกฉันท์มาแล้ว

แต่เข้าใจว่าเหตุที่ต้องนำเรื่องเข้าครม.พิจารณาครั้งนี้ คงเป็นรายการ "คุณขอมา" มากกว่า!!

ทั้งหลายทั้งปวง เพื่อต้องการซื้อใจนักการเมืองมือทำงานอย่าง **"ผู้กอง-ธรรมนัส"**ที่เฝ้ารอการกลับคืนสู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ยังติดขัดคุณสมบัติบางประการ ไม่อยากให้ไปซ้ำรอยกรณี พิชิต ชื่นบาน ในอดีต

เพราะฉะนั้น เลยต้องใช้ช่องทางนี้หาทางออกให้ปัญหาชีวิตการเมืองคนใกล้ตัว แบบกึ่งยิงกึ่งผ่าน หากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา และกรุณาให้คำแนะนำ หรือให้ความชัดเจนเรื่องคุณสมบัติที่ว่าได้ ก็จะเป็นคำตอบว่าแต่งตั้งได้หรือไม่ได้

ไม่ต้องไปกังวลจะทำให้คนเสนอชื่อมีปัญหาเหมือนในอดีตอีก

ส่วนถ้าศาลรัฐธรรมนูญท่านไม่รับเรื่องไว้พิจารณา หรือรับไว้แต่ยกคำร้องไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ก็ถือว่าได้ทำให้เห็นและพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว จากนั้น หากพรุ่งนี้ มะรืนนี้ มีการปรับครม.ถ้าไม่มีชื่อ "ผู้กอง" อยู่ในครม.อิ๊งค์ 2 ก็คงไม่มีเหตุให้ต้องโกรธเคืองกัน

เพราะได้ซื้อใจอดีตรัฐมนตรีลูกข้าวนึ่งคนนี้ไปแล้ว!!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์