ระฆังยกแรกของศึกซักฟอกนายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่ทันได้เริ่มขึ้น แถมตกลงกันไม่ได้ด้วยซ้ำจะให้เวลาอภิปรายกี่วัน แค่อยู่ในช่วงอุ่นเครื่อง แต่ก็ทำเอาอุณหภูมิการเมืองร้อนฉ่าขึ้นเสียแล้ว
เมื่อสองประธานวิป "รัฐบาล-ฝ่ายค้าน" ออกมาแลกหมัดกันผ่านสื่อ ซึ่งประธานวิปรัฐบาล วิสุทธิ์ ไชยณรุณ เป็นฝ่ายเริ่มขึ้นก่อน ไปพูดจาปรามาสการตั้งเป้ายุบสภาของฝ่ายค้านไว้ว่า
"ฝันกลางวันหรือไม่ ระวังนะ คอยดูก็แล้วกันว่า จะยุบสภาหรือยุบพรรคฝ่ายค้าน" อดีตรองฯ ยูเรีย ท่านว่าอย่างนั้น
คำว่า "ยุบพรรค" สำหรับคนที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ถูกยุบพรรคมาหมาด ๆ ติดกันสองครั้ง แค่ฟังก็เจ็บจี๊ดแล้ว แต่นี่ออกจากปากของนักการเมืองที่เคยอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยมาด้วยกัน จึงทำให้ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน เกิดอาการหัวเสียอย่างหนัก
ถึงกับประกาศจะไม่ยกมือไหว้!!
"ผมเป็นคนมีมารยาท เมื่อเห็นผู้ใหญ่ก็ยกมือไหว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ต้องบอกตามตรงว่า โกรธจริงๆ"
"ที่ผมโกรธไม่ใช่เรื่องส่วนตัว สิ่งที่ผมโกรธก็คือ ผมเห็นฝ่ายการเมืองที่อ้างตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด พูดถึงการยุบพรรค พูดถึงอาวุธที่ฝ่ายเผด็จการใช้ประหัตประหารนักการเมืองที่มาจากประชาชนได้ราวกับการเมืองเป็นเรื่องตลก อันนี้คือสิ่งที่ผมโกรธ ผมก็เลยตอบโต้ไปแบบนั้น"
ป่านนี้ไม่รู้สองประธานได้เจอกันหรือยัง?!
แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่า และทำเอาคอการเมืองถึงกับซู๊ดปาก เมื่อได้เห็นข่าว **"ลุงป้อม"**พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศจองกฐินลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ Gen Y ด้วย แต่พอพลิกเข้าไปดูเนื้อในปรากฎว่าคนให้ข่าวคือ ไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ที่เคยให้จับตาดูการเมืองจะเปลี่ยนแปลงแบบกลับหัวกลับหางเมื่อปลายปีที่แล้ว
"พล.อ.ประวิตร มีดำริจะเป็นผู้ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย ส่วนจะเป็นประเด็นใดให้รอฟังรายละเอียดอีกครั้ง"
จากประสบการณ์ เมื่อกลางเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่รับวินิจฉัยคำร้องเอาผิดพรรคเพื่อไทย ที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ซุ่มยื่นร้องผ่านอัยการสูงสุดด้วยซ้ำ
การออกมาป่าวร้องหนนี้ของไพบูลย์ น้ำหนักข่าวจึงดูเบาหวิว
แต่อีกด้าน ก็คงต้องเผื่อ ๆ เอาไว้หน่อย เพราะตอนหลังเริ่มได้เห็นอาการใจบันดาลแรงของ "ลุงหยุม" กลับมาอีกครั้ง หลังไปออกรายการโทรทัศน์มา ซึ่งตั้งเป้าจะนำพลังประชารัฐ กวาดสส.เข้าสภาสมัยหน้าถึง 60 ที่นั่ง
คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต ต้องรอดูว่าลุงจะสร้างเซอร์ไพรส์การเมืองในวัย 80 ปี ได้จริงหรือไม่?
ทีนี้ไปดูฉากทัศน์การซักฟอกนายกฯ อิ๊งค์ กันหน่อยว่าจะออกได้กี่หน้า จะผ่านไปได้แบบราบรื่นหรือสะบักสะบอม ชั่วโมงนี้คงยังไม่มีใครตอบได้ ต้องรอจนกว่าจะจบการอภิปรายนั่นแหล่ะ
แต่ก็มีสื่อไปย้อนดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในอดีตว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง โดยหนึ่งในนั้น คือ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 21 น่าจะบอบช้ำมากที่สุดจากการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แถมยังมาถูกพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน "กรรโชกเก้าอี้" บีบให้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแลกกับการยกมือไว้วางใจซ้ำอีกดอก
แต่ "มังกรเติ้ง" ก็พลิกเกม ดัดหลังพรรคร่วมรัฐบาลด้วยการยุบสภาแทน
ถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ก็เกือบถูก "ร้อยเอกกองแล" ฉบับไทย รัฐประหารกลางสภา แต่ก่อการไม่สำเร็จ แถมถูก "ลุงตู่" จับมาสำเร็จโทษ ปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแบบไม่ไว้หน้าพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ ณ เวลานั้น
สำหรับการซักฟอกนายกฯ Gen Y คนนี้ คงไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนสองนายกฯ ข้างต้น แม้จะมีปัญหาขบเหลี่ยม ปีนเกลียวกันในหลายเรื่องก็ตาม แต่ทุกอย่างก็จะจบลงไปได้แบบ "หมูไป ไก่มา"
ดูอย่างเรื่องล่าสุด Moto Gp ปัญหาหมาเห็นเครื่องบิน ยังจบลงได้ในเวลาสั้น ๆ ไม่ทันข้ามวันด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ถือเป็นนาทีทองทางการเมือง ไม่ต่างกับเนื้อเพลงลูกทุ่งท่อนหนึ่งที่ว่า "จะขอให้รีบขอ.." เพราะถ้าผ่านการซักฟอกวันที่ 24 มีนาคมไปแล้ว คงขอกันได้ไม่ง่ายอีก
ไม่เชื่อก็ดูอารมณ์ผ่อนคลาย สบาย ๆ ของรองนายกฯ Gen X อนุทิน ชาญวีรกูล ตอนนี้ไม่มีริ้วรอยของอารมณ์ขุ่นมัว หลุดคำผรุสวาท "หน้าตัวเมีย" ให้ได้ยินอีก มีแต่มธุรสวาจาหวานหูล้วน ๆ
"ขอเป็นคุณลุงใจดีให้กลุ่ม Gen Z จริงๆ เป็นคนใจดี เป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนที่หวังดี เชื่อคนง่าย ไม่มีพิษไม่มีภัย น่าคบ น่ารักด้วย"เสี่ยหนูผู้คบคนได้ทุก Gen กล่าวไว้
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น "เสี่ยหนู-อนุทิน" ก็ประกาศพร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างนายกรัฐมนตรี สู้ศึกซักอก และรับประกันพรรคภูมิใจไทย ไม่มีคำว่า "แตกแถว"
“อย่าไปเรียกว่าองครักษ์พิทักษ์ ฟังดูแล้วเหมือนนายกฯ ทำอะไรไม่ดีแล้วต้องคอยปกป้อง เรายังมั่นใจว่า นายกฯทำตามหน้าที่ ทำตามบทบาทโดยถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทย หรือในส่วนพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีของพรรคทุกคนก็พร้อมที่จะลุกขึ้นชี้แจงในรายละเอียด หรือมีหน้าที่ที่จะเตรียมข้อมูลส่งให้ หากนายกฯ มีความประสงค์จะตอบเอง อยู่ที่การตัดสินใจของท่านเราต้องพร้อม”
เมื่อออกปากรับประกันไว้หนักแน่นขนาดนี้ นายกฯ อิ๊งค์ ก็น่าจะผ่านศึกแรกนี้ไปได้โดยเฉพาะเสียงสนับสนุนในสภา 322 เสียง อย่างมากก็คงมีพรรคประชาธิปัตย์หายไปไม่เกิน 4 เสียง ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจกันได้อยู่แล้ว
สุดท้ายหลังศึกซักฟอกผ่านพ้นไปแล้ว ที่ว่า "ยุบสภาไม่ใช่แค่ฝันกลางวัน" ก็เพราะสารพันปัญหาทั้งศึกนอก ศึกใน จะกลับมารุมเร้ารัฐบาลอีกรอบ บางเรื่องอย่างบ่อนกาสิโน พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ที่ถูกพักยกรอเอาไว้ หากหยิบขึ้นมาตอนไหน ก็จะเป็นเรื่องตอนนั้น
นาทีนี้คำว่าไม่เอา "รัฐผีพนัน-แผ่นดินบาป" ใกล้จะจุดติดและทำท่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายเอาด้วย
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อเวลาแห่งการ "จะขอให้รีบบขอ.." ผ่านพ้นไปแล้ว ศึกแดง-น้ำเงิน อาจจะกลับมาไล่ขย้ำกันเหมือนเดิม และยิ่งในศึกซักฟอกหากนายกฯ Gen Y ตอบได้ไม่ตรงคำถาม ผ่านศึกไปแบบสะบักสะบอม ยิ่งจะเป็นตัวเร่งนำไปสู่แรงบีบให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ตรงนี้แหล่ะที่จะนำไปสู่การยุบสภาหลังซักฟอก ไม่ใช่แค่ฝันกลางวันอย่างที่ปรามาสไว้